วันที่ 27 ก.ค.67 เวลา 19.30 น. ร.ต.อ หญิง วิภาวดี จิตผดุงวิทย์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองอุดรธานี รับแจ้งว่ามีเหตุคนร้ายย่องเข้ามาขโมยตัดสายไฟศาลาพักศพ และอุปกรณ์ทำความเย็นโรงศพพังเสียหาย ที่วัดป่าคลองบางพุทธาราม บ้านดอนหัน ต.หนองนาคำ อ.เมืองอุดรธานี จึงรีบรุดออกไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ  ที่เกิดเหตุพบคณะกรรมการวัดและชาวบ้าน กำลังรอเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบและชี้จุดที่คนร้ายเข้ามาโมยจากการตรวจสอบพบว่าคนร้ายใช้ของแข็งงัดหน้าต่างด้านหลังศาลาพักศพ ก่อนจะเข้ามาภายในศาลาจากนั้นตัดสายไฟฟ้าเพื่อเอาทองแดง นอกจากนี้คอยล์โลงเย็นยังถูกคนร้ายขโมยไปด้วย เบื้องต้นเสียหายประมาณ 40,000 บาท ตำรวจจึงลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน

นางสาวปอ อายุ 35 ปี  แม่ออกที่วัด เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมาได้ออกมาหาหน่อไม้และพบสิ่งผิดปกติที่บริเวณข้างศาลาพักศพจึงเดินเข้ามาดู แล้วก็พบว่าหน้าต่างเปิดออก ด้านในศาลาพักศพมีสายไฟของศาลาถูกตัดและอุปกรณ์ทำความเย็นโรงเย็นถูกคนร้ายพังเสียหาย จึงโทรบอกมัคนายกวัดก่อนแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 แล้วที่คนร้ายมาขโมย

ขณะที่ผช.ผู้ใหญ่บ้าน บอกว่า โจรพวกนี้ไม่กลัวบาป ไม่กลัวผี ขนาดโลงเย็นยังกล้ามาตัดคอมแอร์ไป ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกมันมาตัดคอมแอร์คอยเย็นเป็นครั้งที่ 2 แล้ว จนชาวบ้านต้องซื้อโลงเย็นโลงนี้เป็นครั้งที่ 2 และเพิ่งแช่ศพได้แค่ 2 ครั้ง วันนี้ก็มาโดนอีก มูลค่าความเสียหายประมาณ 40,000 บาท และโจรรายนี้มันฉลาด ดึงเบรกเกอร์ไฟลง จากนั้นก็ใจเย็นตัดสายไฟไปทั่วศาล ปีนฝ้าขึ้นไปตัดสายไฟไปด้วย ดูท่ามันจะใจเย็นด้วย มันช่างเจ็บใจไม่กลัวผี ไม่กลัวบาป โลงเย็นตัวนี้เป็นตัวที่ 2 แล้ว มันยังกล้าหน้าด้านมาขโมยอีก อยากให้ตร.ติดตามจับมันเร็วๆ อยากถามเหมือนกันว่า ทำไมมันช่างกล้าเสียเหลือเกิน ชาวบ้านกล่าวด้วยความเจ็บใจ