วันที่ 7 พฤษภาคม 2568   ที่กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 235 (ตชด.235) อ.ธาตุพนม จ.นครพนม พล.ต.ต.ศักดิ์ชาย สาดมะเริง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม (ผบก.ภ.จว.ฯ) พ.ต.อ.วุทธยา สิงห์กิ้ง ผู้กำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 23 (ผกก.ตชด.23) พร้อมด้วย นายปรีชา มณีสร้อย นายอำเภอธาตุพนม พ.อ.ศรณัฐ นวลมณี รองผู้บังคับการกองบังคับการควบคุมที่ 1 กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี (รอง ผบ.บก.ควบคุมที่ 1 กกล.ฯ) พ.ต.อ.สมภพ แก้วรุณคำ ผกก.สภ.หลักศิลา น.ท.รุ่งเรือง มาสุทธิ หัวหน้าสถานีเรือธาตุพนม  พ.ต.ท.อุดร สุนนทราช ผู้บังคับกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 235  (ผบ.ร้อย ตชด.235) พ.ต.ท.พิจักษณ์ พงษ์บุบผา สารวัตรสถานีตำรวจน้ำ 2 กองกำกับการการ 10 กองบังคับการตำรวจน้ำ (สว.ส.รน.2 กก.10 บก.รน.)  และหน่วยงานฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่ ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหา 3 คน ตรวจยึดยาไอซ์กว่า 298 กิโลกรัม และรถยนต์ 2 คัน ในพื้นที่ ต.แสนพัน อ.ธาตุพนม จ.นครพนม

โดยเมื่อวันที่ 6 พ.ค. 2568 หลังพระอาทิตย์ตกดิน เจ้าหน้าที่ชุดปราบปรามยาเสพติด ร้อย ตชด.235 ได้ออกปฏิบัติการพิทักษ์ริมน้ำโขงแนวชายแดน เนื่องจากสืบทราบว่าจะมีกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดเข้ามาเคลื่อนไหวในพื้นที่ และลำเลียงผ่าน อ.ธาตุพนม จ.นครพนม เพื่อไปส่งเข้าพื้นที่ตอนในของประเทศ จึงประสานหน่วยงานฝ่ายความมั่นคง ร่วมประชุมแผนจับกุม โดยแบ่งกำลังออกไปตามเส้นทางที่คาดว่า คนร้ายจะใช้ลำเลียงยาเสพติดผ่าน

 จนกระทั่งเวลาห้าทุ่มเศษ พบรถยนต์ต้องสงสัยจำนวน 2 คัน ขับวิ่งตามกันมาบนถนนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 212 (ชยางกูร) สายนครพนม-ธาตุพนม ฝั่งมุ่งหน้าเข้าตัวอำเภอธาตุพนม  โดยทิ้งระยะห่างกันประมาณ 500 เมตร คันแรกเป็นรถเก๋งสีดำยี่ห้อมาสด้า 2 ทะเบียน กษ 8389 สระบุรี ส่วนคันที่สองเป็นรถกระบะ 4 ประตู ยี่ห้ออีซูซุ สีดำ ทะเบียน กบ 2232 สระบุรี จากนั้นได้เลี้ยวตรงบริเวณสามแยกบ้านแสนพันท่า เพื่อเข้าสู่ถนนสายรองบ้านแสนพันทุ่ง ต.แสนพัน อ.ธาตุพนม ซึ่งเป็นเส้นทางเปลี่ยวมืด ปกติยามวิกาลมีรถแล่นผ่านน้อย อีกทั้งเป็นเส้นทางสามารถหลบหลีกด่านตรวจของเจ้าหน้าที่ได้ จึงเป็นเหตุให้เชื่อได้ว่ารถทั้งสองคัน น่าจะมีสิ่งผิดกฎหมายซุกช่อนอยู่ภายในรถ

เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงใช้ยุทธวิธี ด้วยการจอดรถขวางกลางถนน บริเวณสะพานคอนกรีตข้ามห้วย รอยต่อระหว่าง ต.แสนพัน-ต.กุดฉิม อ.ธาตุพนม พร้อมแสดงตัวขอตรวจค้น โดยรถเก๋งคันนำหน้าพบนายแดง (นามสมมติ) อายุ 58 ปี ทราบภายหลังว่าทำหน้าที่เป็นรถนำสำรวจเส้นทาง ส่วนรถกระบะคันหลัง มีนายโก้ (นามสมมติ) อายุ 30 ปี เป็นคนขับ และ น.ส.ปลา (นามสมมติ) อายุ 36 ปี นั่งตัวสั่นอยู่ที่เบาะข้างคนขับ โดยทั้งหมดเป็นชาว จ.ลพบุรี

ตรวจค้นบริเวณท้ายกระบะ มีผ้ายางคลุมกันฝนอย่างดี เมื่อเปิดออกพบวัตถุต้องสงสัย ทราบต่อมาว่าเป็นยาไอซ์ จำนวน 298 กิโลกรัม นอกจากนี้ที่เอวนายโก้คนขับกระบะ มีอาวุธปืนพกสั้นพร้อมยิงต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ได้ตลอดเวลา เจ้าหน้าที่ควบคุมตัว 3 คน และตรวจยึดของกลางทั้งหมดไว้เป็นหลักฐาน พร้อมกับแจ้งข้อกล่าวหาว่า ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) โดยมีไว้เพื่อจำหน่าย อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า โดยมีอาวุธ และ ก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐ หรือความปลอดภัยของประชาชนโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.หลักศิลา อ.ธาตุพนม จ.นครพนม ดำเนินคดีตามกฎหมาย

สอบสวนผู้ต้องหาในเบื้องต้น ว่า ได้รับการว่าจ้างจากนายทุน 3 แสนบาท มอบเงินสำรองเป็นค่าน้ำมันก่อน 2 หมื่นบาท จบงานรับที่เหลือ 2.8 แสนบาท และให้มาเอารถที่จอดอยู่ในพื้นที่ จ.สระบุรี เป็นพาหนะในการลำเลียงยาเสพติด ทั้งหมดจึงเดินทางมารับยาไอซ์ที่ริมแม่น้ำโขง แต่ไม่รู้ว่าเป็นบ้านอะไร เพราะติดต่อกันทางโทรศัพท์ โดยนายแดงคนขับรถเก๋งเล่าว่า หลังได้ของแล้วก็รีบออกจากบริเวณนั้น และมีคนโทรศัพท์บอกเส้นทาง สั่งให้ขับไปตามทางที่บอก เพื่อจะลัดเลาะไปโผล่ จ.สกลนคร แต่มาถูกตำรวจมาดักจับก่อน และทั้งสามอ้างว่าเพิ่งทำเป็นครั้งแรก แต่จากการตรวจสอบประวัติอาชญากรรม พบทั้งสามล้วนพัวพันกับยาเสพติดทั้งสิ้น

ด้าน พ.ต.อ.วุทธยา สิงห์กิ้ง ผกก.ตชด.23 กล่าวว่า ตามที่รัฐบาล ด้กำหนดมาตรการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่ชายแดน Seal Stop Safe และนโยบายด้านปราบปรามยาเสพติดของ พล.ต.อ.กิตดิ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.นิตินัย หลังยาหน่าย ผบช.ตชด. ทางกองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 2 ก็ได้เปิดปฏิบัติการพิทักษ์ริมน้ำโขง ปราบปรามยาเสพติดจากแนวชายแดน ซึ่งดำเดินการใน 3 ด้าน คือ ด้านการข่าว การลาดตระเวนเฝ้าตรวจชายแดน และการตั้งจุดตรวจจุดสกัดในจุดเสี่ยงต่างๆ

การจับกุมครั้งนี้จะเห็นได้ว่ากลุ่มผู้ค้ายาเสพติด พยายามหลบเลี่ยงด่านตรวจของเจ้าหน้าที่ ใช้ถนนในหมู่บ้านขนส่งยาเสพติด ซึ่งต้องชื่นชมชุดจับกุม ที่มีการสืบสวนหาข่าวและติดตาม ซึ่งจะดำเนินการขยายผลจับกุมผู้ร่วมขบวนการ ทั้งนี้ตำรวจตระเวนชายแดน ก็ทำงานกันอย่างเข้มแข็ง และมุ่งมั่น เพื่อสกัดกั้น ป้องกันไม่ให้มีการนำเข้ายาเสพติด สู่พื้นที่ตอนในประเทต่อไป

สำหรับยาไอซ์ล็อตนี้ มีหีบห่อแปลกจากที่เคยจับกุม ปกติบนห่อจะเป็นภาพกา ถ้วยชาเป็นสัญลักษณ์  ครั้งนี้มีอักษรจีนเขียนว่าฉินซวนลี่ โดยไม่มีภาพอื่นใด ส่วนความเข้มข้นต้องตรวจในห้องแล็บ เบื้องต้นราคาซื้อขายในประเทศถุงละ 350,000 บาท การจับกุมครั้งนี้ยึดยาไอซ์ 298 กิโลกรัม มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 104,300,000 บาท