เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 4 มิ.ย.68 ที่หน้ากองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดหนองคาย นายสมภพ สมิตะสิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย, นายไพฑูรย์ มหาชื่นใจ รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย, พ.ต.อ.วุฒิชัย จันโทภาส รองผบก.ภ.จว.หนองคาย, พ.ต.อ.ศักดิ์สิทธิ์ บุญเสริม ผกก.สส.ภ.จว.หนองคาย, พ.ต.อ.จิรวิทย์ ปานยิ้ม ผกก.สภ.เมืองหนองคาย, พ.ต.ท.พชร กฤษณะกาฬ รองผกก.สส.ภ.จว.หนองคาย, พ.ต.ท.อภิชาติ คลธา สว.ตม.หนองคาย, พร้อมตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุม นายทรงศักดิ์ แก้วเชียงหวาง อายุ 32 ปี และนายธนธร มะเกลือเป้า อายุ 23 ปี ชาว อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี พร้อมของกลางยาบ้า 10 แพ็ค รวม 286,000 เม็ด, ยาเสพติดประเภท 1 แฮปปี้วอเตอร์ ซองสีแดงปั๊มตรายี่ห้อรถชื่อดัง จำนวน 25 ซอง, อาวุธปืนพกสั้น 2 กระบอก, เครื่องกระสุน 20 นัด, รถยนต์เก๋ง 4 คัน, รถจักรยานยนต์ 5 คัน, โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง, เงินสด 22,600 บาท, วัตถุคล้ายทองน้ำหนักประมาณ 15.1 กรัม มูลค่าประมาณ 50,000 บาท

พ.ต.อ.วุฒิชัย จันโทภาส รองผบก.ภ.จว.หนองคาย กล่าวว่า สืบเนื่องจาก พ.ต.อ.ศักดิ์สิทธิ์ บุญเสริม ผกก.สส.ภ.จว.หนองคาย สืบทราบว่าจะมีขบวนการค้ายาเสพติดจากประเทศเพื่อนบ้าน นำยาเสพติดมาส่งให้นักค้ายาเสพติดชาวไทย ที่อยู่ในเป้าหมายการเฝ้าดูพฤติกรรมของตำรวจอยู่แล้ว ก่อนจะกระจายยาเสพติดตามพื้นที่ต่าง ๆ จึงจัดกำลังสนธิหน่วยงานข้างเคียงติดตาม จนทราบว่ามีนักค้ายาเสพติดชาว อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี 2 คน ขับรถเก๋งเข้ามาในพื้นที่บ้านดอนซูด ต.วัดธาตุ อ.เมืองหนองคาย วันที่ 3 มิ.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ติดตาม จนพบว่าในเวลาประมาณ 14.30 น. พบรถยนต์เก๋งเป้าหมายท่าทางมีพิรุธขับขี่ตามถนนระหว่างหมู่บ้านดอนซูด เจ้าหน้าที่เรียกให้หยุดรถเพื่อตรวจสอบ แต่คนขับรถพยายามขับรถหลบหนีจนรถเสียหลักชนต้นไม้ข้างทาง ชายทั้งสองคน ทราบชื่อภายหลังคือนายทรงศักดิ์ และนายธนธร เปิดรถจะวิ่งหลบหนี แต่ถูกตำรวจจับกุมตัวไว้ได้ ค้นในรถพบอาวุธปืน 2 กระบอก และยาบ้าในกระเป๋าเดินทาง 60,000 เม็ด ทั้งสองคนเห็นว่าจนมุมจึงรับสารภาพและพาเจ้าหน้าที่ไปขยายผลการจับกุมที่บ้านเช่าใกล้ตลาดแจ้งสว่าง ต.หนองกอมเกาะ พบยาบ้าอีก 226,000 เม็ด ซ่อนในกระเป๋าเดินทาง และสารเสพติดแฮปปี้วอร์เตอร์ อีก 25 ซอง จึงควบคุมตัวทั้งหมดไว้ โดยจากการตรวจสอบทั้งสองคนเป็นบุคคลเป้าหมายของตำรวจที่มีพฤติการณ์เกี่ยวพันกับยาเสพติดอยู่แล้ว

นายสมภพ สมิตะสิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย กล่าวว่า การจับกุมในครั้งนี้เป็นผลสืบเนื่องจากนโยบายปราบปรามยาเสพติดของรัฐบาล ตัดวงจรการค้ายาเสพติด การนำเข้าส่งออก โดยจังหวัดหนองคายมักจะถูกใช้เป็นทางผ่านลำเลียงยาเสพติดตามแนวชายแดนเข้าสู่พื้นที่ตอนใน และหลังจากนี้จะมีการขยายผลยึดทรัพย์ ขยายผลติดตามเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งแฮปปี้วอร์เตอร์ที่พบในครั้งนี้ส่วนใหญ่จะถูกนำไปจำหน่ายเมืองใหญ่ ให้กับลูกค้าเฉพาะกลุ่มที่ต้องการยาเสพติดอีกรูปแบบหนึ่ง ซึ่งจะเป็นสารตั้งต้นหลายอย่าง เช่น เคตามีน ยาอี เหล่านี้เป็นต้น ราคาก็จะเพิ่มสูงกว่ายาบ้าทั่วไปประมาณ 2-3 เท่า หรือซองละประมาณ 2,000-4,000 บาท กำลังเป็นที่นิยมในสถานบันเทิง ซึ่งจะทำให้เจ้าหน้าที่เข้มงวดตรวจสอบยาเสพติดในรูปแบบใหม่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ.