ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง พบหญิงสาวท่าทางมีพิรุธหอบเสื้อผ้าใส่ถุงปุ๋ย นั่งรอรถโดยสารที่สถานีขนส่งจังหวัดเลย จึงเข้าไปสอบถาม พบว่าเป็นแรงงานต่างด้าว เพศหญิง อายุ 21 ปี จึงได้สอบสวน ได้ความว่า จะเดินทางเข้ากรุงเทพฯเพื่อจะต่อรถกลับไปจังหวัดนครพนม และจะข้ามไปกลับบ้านที่ สปป.ลาว เนื่องจากตนหนีออกมาจากโรงฆ่าสัตว์แห่งหนึ่งในจังหวัดเลย ถูกบังคับให้ทำงานตั้งแต่ตี 5 ถึง 6 ทุ่ม โดยให้กินข้าววันละ 1 มื้อ ช่วงเวลาบ่าย 3 โมง และบังคับไม่ให้ออกไปไหน และมีเพื่อนร่วมชะตากรรมกว่า 20 คน เป็นคนต่างด้าว 

ล่าสุดโดยการอำนวยการของ นายชัยพจน์ จรูญพงศ์  ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย นายกิตติคุณ บุตรคุณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเลย พันเอกอภิชาต รานอก รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดเลย นางสาวภูมารินนทร์ คงเพียรธรรม ปลัดจังหวัดเลย มอบหมายให้ชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองจังหวัดเลย บูรการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย พมจ.เลย แรงงานจังหวัดเลย สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดเลย สำนักงานจัดหางานจังหวัดเลย กอ.รมน.จังหวัดเลย ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดเลย ปคม.จ.เลย ตำรวจภูธรจังหวัดเลย และ สภ.เมืองเลยร่วมสนธิกำลังเปิดปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้น สถานประกอบกิจการโรงชำแหละสัตว์ อ.เมืองเลย จ.เลย ผลการปฏิบัติพบแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย จำนวน 25 คน จึงควบคุมตัวเพื่อเข้าสู่กระบวนการคัดแยก เพื่อทำการสอบสวน

จากการสอบสวนเบื้องต้นพบว่า มีต่างด้าว 3 รายที่เข้าข่ายค้ามนุษย์ เนื่องจากทั้ง 3 ราย ทำงานเป็นแม่บ้านกับเจ้าของโรงฆ่าสัตว์ ส่วนที่เหลือเป็นคนงานแล่เนื้อทั้งหมดเป็นคนต่างด้าว ทั้งหมดไม่ใบอนุญาตทำงาน คนงานส่วนใหญ่มาจาก สปป.ลาว และปากีสถาน  และได้คัดแยกผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ อยู่ในความดูแลของสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดเลย (พมจ.) เป็นชาวลาว จำนวน 3 ราย ส่วนที่เหลือได้แจ้งข้อหาไม่มีอนุญาตทำงาน และเจ้าของโรงฆ่าสัตว์ ในเบื้องต้นในข้อหาบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว นำผู้ต้องหาทั้งหมดส่ง พนักงานสอบสวน สภ.เมืองเลย ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป