วันที่ 4 ก.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 3 ก.ย.68 เวลา 19.20 น.  น.ส.ปิยะธิดา อายุ 40 ปี(สงวนชื่อสกุล) ชาวบ้าน ต.หมู่ม่น อ.เมือง จ.อุดรธานี ได้โพสต์ขอความช่วยเหลือลงในเพจข่าวอุดร ข่าวโฮม พร้อมเล่าเหตุการณ์สุดระทึกว่า ขณะที่กำลังทำกับข้าวอยู่ในบ้าน โดยประตูรั้วหน้าบ้านไม่ได้ปิดล็อกไว้ จู่ ๆ ก็มีคนร้ายเดินเข้ามาจูงรถมอเตอร์ไซค์ Kawasaki ที่จอดไว้ภายในบ้านออกไปหน้าตาเฉย ซึ่งรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวไม่ได้ล็อกคอไว้ ทำให้คนร้ายจูงออกไปได้อย่างง่ายดาย  หลังเกิดเหตุได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองอุดรธานีแล้ว และขอความร่วมมือประชาชน หากใครพบเห็นรถจักรยานยนต์ Kawasaki victor หรือพบเบาะแสของคนร้าย สามารถแจ้งกลับได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 191

ต่อมานักข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังบ้านที่เกิดเหตุเพื่อสอบถามเหตุการณ์ดังกล่าว น.ส.ปิยะธิดา อายุ 40 ปี เจ้าของรถเปิดเผยว่า เมื่อเวลาประมาณ 19.20 น. วานนี้ ตนและสามีอยู่ในบ้าน หลังจากที่กลับจากซื้อกับข้าวและเปิดประตูบ้านทิ้งไว้เพื่อรอให้ลูกกลับจากเรียนพิเศษ ระหว่างนั้นคนร้ายได้ฉวยโอกาสเข้ามาก่อเหตุขโมยรถจักรยานยนต์ของเธอไป เหตุที่เกิดขึ้นรู้สึกเสียใจมากเพราะรถคันนี้เป็นรถที่เธอและสามีรักมาก เป็นรถที่ซื้อต่อจากเพื่อนมาในราคา 50,000 บาท ได้ประมาณ 3 ปีแล้ว สาเหตุที่ซื้อก็เพราะสามีชื่นชอบรถเก่าที่ตกแต่งสวยงามและใช้ขับเล่น เป็นรถสะสมและชอบ  ตอนที่คนร้ายก่อเหตุ ได้ยินเสียงสตาร์ทรถจึงรีบวิ่งออกมาดู และพบว่ารถหายไปแล้ว รู้สึกตกใจมากแต่ก็โล่งใจที่คนร้ายไม่ได้ทำร้ายตนและคนในครอบครัว หลังจากนั้นจึงรีบไปแจ้งความทันที ยังดีที่ตำรวจตามจับคนร้ายได้ และติดตามรถได้คืน

หลังจากเกิดเหตุไม่นาน เจ้าหน้าที่ตำรวจก็สามารถตามจับกุมคนร้ายได้สำเร็จ ขอชื่นชมการทำงานที่รวดเร็วของเจ้าหน้าที่ และอยากให้ดำเนินคดีตามกฎหมายให้ถึงที่สุด เนื่องจากทราบมาว่าคนร้ายมีประวัติก่อเหตุลักทรัพย์มาหลายครั้งและเพิ่งพ้นโทษออกจากเรือนจำ

ล่าสุดวันนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจตร.ชุดสืบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ได้ออกติดตามสืบสวนกระทั่งพบว่าคนที่ก่อเหตุ คือ นายภานุวัฒน์ หรือปลั้ก อายุ 29 ปี และสามารถติดตามจับกุมตัวได้ที่บ้านพักห่างจากจุดที่ขโมยรถประมาณ 1 กิโลเมตร จึงนำตัวมาสอบถามเบื้องรับสารภาพว่าก่อเหตุขโมยรถจริง คุมตัวมายังสภ.เมืองอุดรธานีและยึดรถจยย.kawasaki victor นำมาเก็บไว้ที่สภ.เมืองอุดรธานี เพื่อติดต่อเจ้าของมารับรถคืนต่อไป

นายปลั๊ก  อายุ 29 ปี ยอมรับว่า ผมมีอาชีพรับจ้างทั่วไป ทำงานกับพ่อเป็นหลัก ส่วนเรื่องประวัติอาชญากรรมนั้นยอมรับว่าเพิ่งพ้นโทษในคดีลักทรัพย์ ขโมยเหล้าขาวมาได้เพียง 2 ปี วันเกิดเหตุไม่ได้ตั้งใจจะขโมยรถไปขายอะไรทั้งนั้น แต่เป็นเพียงเพราะอยากลองขับ เพราะเห็นรถเขาแล้วสวยและเท่ดี  อยากลองขับดู  ผมก็เดินตามถนนไปเรื่อยๆ พอไปถึงบ้านที่เกิดเหตุเห็นประตูบ้านเปิดอยู่ จึงเดินเข้าไปเลยครับ เห็นกุญแจวางอยู่หลังตู้ก็เลยหยิบมา แล้วก็ขับออกมา ไม่มีแผนการที่ซับซ้อนใดๆ นอกจากขับรถเล่นกินลมชมวิวไปเรื่อยๆ จนกระทั่งน้ำมันหมดกลางทาง พอขับไปจนน้ำมันหมดก็ต้องเข็นกลับมาที่บ้าน

"ยอมรับเลยครับว่ารถคันนี้เมื่อได้ลองขับแล้วรู้สึกฟินและเท่มาก" เรื่องที่ผมขโมยรถอยากจะขอโทษเจ้าของด้วยครับที่ทำให้ตกใจ ต่อไปจะไม่ทำอีกแล้ว นายปลั๊กบอกกับนักข่าวตอนท้าย เจ้าตัวพูดไปก็ยิ้มหัวเราะไปอย่างอารมณ์ดี