กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการตำรวจทางหลวง ภายใต้การอำนวยการของ  พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.คงกฤช เลิศสิทธิกุล ผบก.ทล., พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น รอง ผบก.ป. ช่วยราชการ บก.ทล., พ.ต.อ.แมน เม่นแย้ม , พ.ต.อ.เอกนิรุจฒ์  วันสิริภักดิ์ รอง ผบก.ทล., พ.ต.อ.อินทรัตน์ ปัญญา ผกก.7 บก.ทล., พ.ต.ท.ฐิติวัสส์ แซมเขียว รอง ผกก.7 บก.ทล.,พ.ต.ท.ธนาคาร  จันทร์กระจ่าง รรท.รอง ผกก.7 บก.ทล.

เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.พงษ์ศักดิ์ มีมุสิก สวญ.ส.ทล.1 กก.7 บก. พร้อมพวกเจ้าหน้าที่ตำรวจ  ส.ทล.1 กก.7 บก.ทล. (พังงา, กระบี่, ภูเก็ต) ร่วมกันจับกุม  นายวีระพงษ์  (ขอสงวนตามสกุล) อายุ 50 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดภูเก็ต ที่ 252/2566 ลงวันที่ 7 กันยายน 2564 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน  ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม ที่บริเวณ กม.10-11 ต.ไม้ขาว อ.ถลาง จ.ภูเก็ต โดยก่อนการจับกุมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ได้สืบสวนทราบว่า นายวีระพงษ์ฯ ผู้ต้องหาตามหมายจับข้ามงต้น จะมาปรากฎตัวอยู่ที่บริเวณสถานที่จับกุม จึงได้วางแผนเข้าตรวจสอบเพื่อจับกุม จนกระทั่งพบผู้ถูกจับตามข้างต้นปรากฎตัวอยู่  จึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ จับกุมตัวผู้ถูกจับนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองภูเก็ต เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

นอกจากนี้จากการตรวจสอบจากระบบฐานข้อมูลของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ระบบ CRIMES) พบว่าผู้ถูกจับนี้ ยังเป็นบุคคลตามหมายจับอื่น ซึ่งแสดงสถานะ มีผลบังคับใช้ตามกฎหมายอีกจำนวน 9 หมายจับ ได้แก่ 1. หมายจับศาลจังหวัดภูเก็ต ที่ 44/2566 ลงวันที่ 23 มกราคม 2566 ซึงต้องหากระทำผิดฐาน “ร่วมกันลักทรัพย์โดยร่วมกระทำผิดด้วยกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป” (คดีของ สภ.เมืองภูเก็ต) 2. หมายจับศาลแวงภูเก็ต ที่ จ.22/2564 ลงวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2564 ซึงต้องหากระทำผิดฐาน “ยักยอก” (คดีของ สภ.ถลาง) 3. หมายจับศาลจังหวัดภูเก็ต ที่ 57/2564 ลงวันที่ 1 มีนาคม 2564 ซึงต้องหากระทำผิดฐาน “ลักทรัพย์ โดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป” (คดีของ สภ.สภ.ถลาง) 4. หมายจับศาลจังหวัดภูเก็ต ที่ 61/2564 ลงวันที่ 1 มีนาคม 2564 ซึงต้องหากระทำผิดฐาน “ร่วมกันลักทรัพย์โดยร่วมกระทำผิดด้วยกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป” (คดีของ สภ.สภ.ถลาง) 5. หมายจับศาลจังหวัดภูเก็ต ที่ จ.75/2564 ลงวันที่ 5 มีนาคม 2564 ซึงต้องหากระทำผิดฐาน“ลักทรัพย์ โดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป” (คดีของ สภ.วิชิต) 6. หมายจับศาลจังหวัดกระบี่ ที่ 79/2564 ลงวันที่ 19 พฤษภาคม 2564 ซึงต้องหากระทำผิดฐาน “ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม” (คดีของ สภ.เมืองกระบี่) 7. หมายจับศาลจังหวัดพังงา ที่ จ.46/2564 ลงวันที่ 8 มีนาคม 2564 ซึงต้องหากระทำผิดฐาน “ลักทรัพย์” (คดีของ สภ.ท้ายเหมือง) 8. หมายจับศาลแขวงบางบอน ที่ 94/2566 ลงวันที่ 7 กันยายน 2566 ซึงต้องหากระทำผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกง” (คดีของ สน.หนองแขม) 9. หมายจับศาลอาญาพระโขนง ที่ 586/2565 ลงวันที่ 7 พฤศจิกายน 2565 คดีหมายเลขดำที่  อ.1982/2565 คดีหมายเลขแดง ที่ อ.3623/2565 ซึงต้องหากระทำผิดฐาน “ยักยอก”

ซึ่งจากการตรวจสอบแผนประทุษกรรมทราบว่าผู้ถูกจับรายนี้ได้ร่วมกับพวกตระเวนหลอกซื้อรถยนต์มือสอง จากผู้เช่าซื้อที่ผ่อนไม่ไหวหรือไม่ต้องการผ่อนต่อ โดยใช้อุบายหลอกว่าจะไปจ่ายเงินปิดยอดที่ค้างจ่ายค่างวดให้ และทำการเปลี่ยนสัญญาเช่าซื้อจากทางไฟแนนซ์ให้  แต่เมื่อได้รับรถไปแล้วผู้ต้องหากับพวกกลับนำรถไปขายต่อในตลามือ โดยไม่ได้ไปจ่ายค่างวดหรือเปลี่ยนสัญญาเช่าซื้อแต่อย่างใด และตัดการติดต่อกับเจ้าของเดิม ทำให้เจ้าของรถซึ่งเป็นผู้เช่าซื้อเดิมได้รับความเสียหายจึงเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายสอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น  ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา 

เรื่องประชาสัมพันธ์ แจ้งเตือนกรณีผู้เช่าซื้อรถและไม่สามารถผ่อนต่อได้ หรือไม่ต้องการผ่อนต่อให้ประสานกับบริษัทสินเชื่อเพื่อขอยกเลิกสัญญาหรือหาบุคคลอื่นมาเป็นผู้ทำสัญญาเช่าซื้อกับทางบริษัทฯ แทนสัญญาเดิม   การที่นำรถที่ยังผ่อนชำระไม่ครบไปขายให้บุคคลอื่นอาจทำให้ถูกบริษัทสินเชื่อฟ้องร้อง หรือดำเนินคดีได้