วันพุธ ที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2568 06:27 น.

อาชญากรรม

ตำรวจแปดริ้วแถลงปิด 2 คดี บุกลักทรัพย์บ้านพักอดีตตำรวจ-ทุบตู้ ATM

วันอังคาร ที่ 02 กันยายน พ.ศ. 2568, 18.55 น.

วันที่ 2 ก.ย.68 เวลา 11.00 น. พล.ต.ต.เกรียงไกร บุญซ้อน ผบก.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา ได้แถลงถึงผลการติดตามจับกุมคนร้ายในคดีประทุษร้ายต่อทรัพย์ ภายในห้อง CCOC ชั้น 1 อาคารสำนักงาน ภ.จว.ฉะเชิงเทรา โดยคดีแรก มีคนร้ายเป็นชายชาวเมียนมา ชื่อ นายแต หม่อง อายุ 39 ปีที่ได้ขับรถ จยย. มาจากห้องพักในท้องที่ สน.สายไหม กทม. เข้ามาก่อเหตุทุบตู้บริการกดเงินด่วน (ATM) ที่บริเวณด้านหน้าร้านสะดวกซื้อ(โลตัส เอ็กซ์เพรส) สาขาตลาดสุวินทวงศ์ พื้นที่ ต.คลองอุดมชลจร อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา จำนวน 3 ตู้

ประกอบด้วย ตู้บริการเงินด่วนของธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารกรุงเทพฯ และธนาคารกรุงไทย จนได้รับความเสียหาย แต่ไม่ได้ทรัพย์สินหรือเงินสดจากภายในตู้ไป เหตุเกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้ามืดของวันที่ 28 ส.ค.68 ต่อมาเมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 1 ก.ย.68 จนท.ชุดสืบสวน สภ.เมืองฉะเชิงเทรา สามารถติดตามจับกุมตัวมาได้จากภายในห้องเช่าแห่งหนึ่ง ในเขตพื้นที่ อ.เมืองฉะเชิงเทรา พร้อมรถ จยย. ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ 110 ไอ สีขาวดำ คันที่ขับมาก่อเหตุ

โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าเป็นคนร้ายที่ก่อเหตุจริง ตามภาพจากกล้องจรปิดของ จนท.ชุดสืบสวน ที่เก็บรวบรวมมาได้ โดยอ้างถึงมูลเหตุของการก่อเหตุว่าเมาสุรา หลังจากทะเลาะกับภรรยาภายในห้องเช่าย่านเขตสายไหม กทม. แล้วได้ก่อเหตุโจรกรรมรถ จยย. คันของเพื่อนบ้านจากห้องข้างเคียงที่จอดเสียบกุญแจคาไว้ที่ตัวรถ โดยขับออกมาพร้อมกับอุปกรณ์ในการเตรียมมาก่อเหตุโจรกรรมทรัพย์ดังกล่าว

พร้อมเล่าว่า ได้เดินทางเข้ามาในประเทศไทยเมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้ว โดยได้มาทำงานรับจ้างอยู่ในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร นานถึง 8 ปี ก่อนที่ใบอนุญาตการทำงานและหนังสือเดินทางจะหมดอายุลงเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา จึงไม่ได้ไปทำงานยังที่ จ.สมุทรสาคร และหลังจากก่อเหตุทุบตู้ ATM แล้วจึงได้แวะเข้าไปพักอาศัยอยู่ที่ห้องเช่าของเพื่อน ในเขตตัวเมืองฉะเชิงเทรา ก่อนถูกทางเจ้าหน้าที่ติดตามมาจับกุมตัวได้ในที่สุด

จนท.ตำรวจจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาต่อนายแต หม่อง ว่า “พยายามลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ โดยผ่านสิ่งเช่นว่านั้นเข้าไปด้วยประการใดๆ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไป เพื่อให้พ้นการจับกุม และเป็นบุคคลต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด” จากนั้นได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมรถ จยย.และเสื้อผ้าที่ใช้สวมใส่ในวันก่อเหตุ ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ส่วนอีกรายเป็นคดีค้างเก่ามากว่า 1 เดือน จากกรณีเมื่อวันที่ 19 ก.ค.68 เวลา 05.00 น. จนท.ตำรวจ สภ.เมืองฉะเชิงเทราได้รับแจ้งว่ามีเหตุลักทรัพย์ในบ้านพัก ภายในซอยมหาจักรพรรดิ์ 1 ต.หน้าเมือง อ.เมืองฉะเชิงทรา เป็นเหตุทำให้มีผู้เสียหายจำนวน 2 ราย หนึ่งในนั้นเป็นอดีตข้าราชการตำรวจ สภ.เมืองฉะเชิงเทรา วัยเกษียณอายุราชการ โดยมีทรัพย์สินที่สูญหายไปเป็นพระเครื่องและเงินสดจำนวนหนึ่งมูลค่ารวมกว่า 3 แสนบาท

หลังการติดตามสืบสวนเพื่อจับกุม ทราบว่าคนร้ายคือนายสุรศักดิ์ (ตั้ม) อายุ 37 ปี อ.เมือง จ.สระแก้ว จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขอหมายจับจากศาล จ.ฉะเชิงเทรา ที่ จ.209/2568 ลงวันที่ 30 ก.ค.68 ในข้อกล่าวหา “ลักทรัพย์ในเคหะสถานในเวลากลางคืน” หลังการประสานเพื่อติดตามจับกุมตัวกับ กองกำกับการสืบสวน ภ.จว.สระแก้ว สามารถติดตามจับกุมตัวคนร้ายมาได้ เมื่อวันที่ 1 ก.ย.68 พร้อมของกลางเป็นเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายที่สวมใส่มาในวันก่อเหตุ

ในชั้นสอบสวนผู้ต้องหาได้ให้การรับสารภาพว่าเป็นบุคคลตามหมายจับจากศาล จ.ฉะเชิงเทรา จริง และยังพบข้อมูลในทางการสืบสวนว่านายตั้ม ได้เคยก่อเหตุและถูกดำเนินคดีอาญาในความผิดเกี่ยวกับทรัพย์มาแล้วเป็นจำนวนมากถึง 9 คดี ในท้องที่ สภ.โชคชัย 8 คดี และ สภ.โพธิ์กลาง จ.นครราชสีมา อีก 1 คดี
 

หน้าแรก » อาชญากรรม