วันอังคาร ที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2568 03:08 น.

อาชญากรรม

แก๊งวัยรุ่นทะลุถุงยาง อาละวาดทำลายทรัพย์สินราชการ ปาระเบิดก่อความวุ่นวายในหมู่บ้าน

วันจันทร์ ที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2568, 17.05 น.

กรณี มีคลิปวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งในพื้นที่จังหวัดนครพนม ทำตัวเป็นอันธพาลว่อนในโลกโซเชียล จำนวน 2 คลิป โดยคลิปแรกใช้อาวุธมีดดาบยาว ทำลายป้ายบอกทางเข้าหมู่บ้านนาคำกลาง บริเวณริมทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 22 สายสกลนคร-นครพนม ช่วงบ้านหัวโพน หมู่ 6 ต.นาทราย อ.เมืองนครพนม 

ส่วนคลิปที่สองเป็นกล้องวงจรปิดจากบ้านหลังหนึ่ง ริมถนนเข้าหมู่บ้านนาคำกลาง หมู่ 4 ต.นาทราย กลุ่มวัยรุ่นขับรถจักรยานยนต์ขว้างปาระเบิดปิงปอง พร้อมส่งเสียงเอะอะโวยวาย เหมือนท้าทายให้วัยรุ่นฝ่ายตรงข้ามออกมาดวลกัน โดยทั้งสองคลิปเป็นเหตุการณ์ในคืนวันเดียวกันของวันที่ 19 กันยายน ที่ผ่านมา

ล่าสุด วันที่ 22 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง พบกับผู้นำหมู่บ้านนายวิโรจน์ เสนนันท์ อายุ 57 ปี ผู้ใหญ่บ้านนาคำกลางหมู่ 4 ต.นาทราย พร้อมเปิดเผยว่าวัยรุ่นในหมู่บ้านบางคน จะออกไปก่อกวนสร้างปัญหาข้างนอก ก็จะถูกเขาไล่ตีหนีกลับเข้ามาในบ้าน ในฐานะผู้นำหมู่บ้านก็พยายามบอกกล่าวแต่ก็ยังประพฤติอีก 

ในส่วนป้ายปากทางเข้าเป็นการทำลายแบบสะสม คือทุบป้ายซ้ำแล้วซ้ำเล่าหลายครั้งจนพังเสียหาย รู้ชื่อหมดแต่พอไปถาม ก็บอกไม่ได้เป็นคนทำ ส่วนคลิปขว้างปาระเบิดก็ได้รายงานกำนันไปก่อนหน้านี้แล้ว อยากให้หลายหน่วยงานลงมาตรวจสอบ ลำพังผู้นำหมู่บ้านคงจะกำราบแก๊งอันธพาลกลุ่มนี้ไม่อยู่

ในวันเดียวกัน นายจำนง อ่อนพินา กำนัน ต.นาทราย พร้อมด้วย นายอนุชา วรัญญูสุธน สารวัตรกำนัน  เดินทางไปยังบ้านนางสาวจารุวรรณ เสนจันตะ อายุ 40 ปี เจ้าของกล้องวงจรปิดที่บันทึกเหตุการณ์วัยรุ่นปาระเบิดปิงปอง ก็ส่งเสียงท้าทายกับคู่อริดัง เพื่อสอบถามข้อเท็จจริง โดยนางสาวจารุวรรณเล่าว่า ในเวลาประมาณ 21.00 น.เป็นต้นไป เหตุการณ์ขว้างปาระเบิดชาวบ้านได้ยินกันจนชิน 

สำหรับในคืนวันที่ 19 กันยายน ที่ผ่านมา เวลา 22.59 น. มีกลุ่มวัยรุ่นขับรถจักรยานยนต์วิ่งมาจากปากทาง จำนวน 5 คัน ไม่นานก็มีเสียงระเบิดดังขึ้น พร้อมกับเสียงโวยวายท้าทายฝ่ายอริที่ไล่ตามมา ลักษณะรถจักรยานยนต์ทั้ง 5 คันขับเข้ามาตามเพื่อน โดยขว้างปาระเบิดข่มขู่ฝ่ายตรงข้าม ก่อนจะสมทบเพื่อนมากกว่า 10 คนโต้คืนอริต่างถิ่นหนีกลับไป

ด้าน นายสงัด พิมพ์โพธิ์ อายุ 83 ปี และ นางอัมพร พิมพ์โพธิ์ อายุ 69 ปี สองตายายที่มีบ้านใกล้กัน เล่าว่ารู้สึกหวาดกลัวกลุ่มผู้ก่อเหตุ รู้ว่าเป็นลูกหลานในหมู่บ้านเดียวกัน ฝากเจ้าหน้าที่ช่วยดับทุกข์บำรุงสุข อย่าให้ต้องอยู่ด้วยความหวาดระแวงเช่นนี้

โดยนายจำนง อ่อนพินา กำนัน ต.นาทราย กล่าวว่าวัยรุ่นในหมู่บ้านนาคำกลางรู้ชื่อหมดแล้ว ว่าเป็นลูกเต้าเหล่าใคร ส่วนคู่กรณีก็ทราบเบื้องต้นว่าเป็นกลุ่มวัยรุ่นอยู่หมู่บ้านหนึ่ง ในพื้นที่ ต.หนองญาติ อ.เมืองนครพนม โดยหัวหน้าแก๊งจะใช้รถเก๋งสีขาวเป็นพาหนะ หลังเกิดเหตุได้ประชุมร่วมกับตำรวจ ฝ่ายปกครอง เพื่อจับกุมวัยรุ่นทั้งสองหมู่บ้านมาดำเนินคดี  ยิ่งใกล้ถึงเทศกาลไหลเรือไฟ จึงต้องมีมาตรการเข้มข้นกว่าปกติ โดยจะเข้าไปหาครอบครัววัยรุ่นที่มีประวัติอยู่แล้ว หากก่อความวุ่นวาย เช่น ก่อเหตุทะเลาะวิวาทหน้าเวทีการแสดงคอนเสิร์ต หรือหมอลำในงานไหลเรือไฟ จนทำให้การแสดงดำเนินต่อไปได้ นอกจากผู้ก่อเหตุต้องจ่ายค่าจ้างศิลปินแล้ว จะต้องถูกดำเนินคดีอีกด้วย 

หน้าแรก » อาชญากรรม