วันที่ 30 ต.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ชานุมาน อำเภอชานุมาน จังหวัดอำนาจเจริญ ได้รับแจ้งจากสายลับว่า จะมีการขบวนการค้ายาเสพติดลำเลียงยาบ้าจากประเทศเพื่อนบ้าน เข้าสู่พื้นที่ตอนในอำเภอชานุมาน จังหวัดอำนาจเจริญ โดยจะมีการรับยาบ้าที่บริเวณริมถนนระหว่างบ้านโคกจักจั่น - บ้านโคกสาร (เส้นโรงแป้ง) ตำบลคำเขื่อนแก้ว อำเภอชานุมาน จังหวัดอำนาจเจริญ ในช่วงเวลาค่ำคืน ของวันที่ 29 ต.ค.68 ที่ผ่านมา โดยจะใช้รถกระบะยกสูงเป็นยานพาหนะ ขนส่งยาบ้าให้กับลูกค้าตามใบสั่ง

จากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ชานุมาน อำเภอชานุมาน จังหวัดอำนาจเจริญ ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.โชติ์นรินทร์ ศุภาวรัตม์ ผกก.สภ.ชานุมาน สั่งการให้ พ.ต.ท.คมสันต์ คำวัน รอง ผกก.สส.สภ.ชานุมาน พร้อมชุดสืบสวน สภ.ชานุมาน จำนวนหนึ่ง ทำการวางแผนเพื่อจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดดังกล่าว ตามที่สายลับรายงาน

ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ชานุมาน ชุดจับกุม เดินทางไปดับชุ่มอยู่ที่ บริเวณถนนระหว่างบ้านโคกจักจั่น – บ้านโคกสาร หมู่ที่ 3 ตำบลคำเขื่อนแก้ว อำเภอชานุมาน จังหวัดอำนาจเจริญ กระทั่ง พบรถกระบะ 2 คัน วิ่งตามกันมายังที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงส่งสัญญาณให้หยุด และแสดงตัวเพื่อขอตรวจค้น ปรากฏว่า ภายในรถยนต์กระบะ พบกระสอบสีเขียวและกระสอบสีเทา อย่างละ 1 ใบ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม จึงได้เปิดกระสอบตรวจสอบ ภายในมีห่อยาบ้า รวมกันอยู่ทั้งสิ้น จำนวน 180 มัด ยาบ้า 260,000 เม็ด ราคาประมาณ 650,000 บาท และจับกุมผู้ต้องหา 2 คน ซึ่งเป็นคนขับรถ พร้อมรถยนต์อีก 2 คัน โดยกล่าวหาว่า ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1(ยาบ้า) โดยมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำที่ก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชนและเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย

ซึ่งผู้ต้องหารับสารภาพ โดยนำยาบ้าจากประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อส่งให้พ่อค้าในพื้นที่จังหวัดทางภาคอีสานตามใบสั่ง โดยอาศัยช่วงกลางคืนทำการลำเลียง หลบหลีกสายตาเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง และ ใช้รถกระบะยกสูง 2 คันร่วมกันทำงาน ด้วยแบ่งหน้าที่ คือ  คันแรกเปิดทางดูเส้นทางลำเลียงให้ปลอดเจ้าหน้าที่ ส่วนคันที่ 2 ทำหน้าที่ขนยาบ้า ส่งตามใบสั่ง ทว่า ไม่รอดถูกจับกุมในที่สุด จากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ชานุมาน ชุดจับกุม ส่งผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ให้พนักงานสอบสวน สภ.ชานุมาน ดำเนินคดีตามกฎหมาย และ จะมีการขยายผลจับกุมพ่อค้ารายใหญ่ต่อไป