เวลา 10.00 น. วันที่ 3 พ.ย. 68  นายสรกฤช  จันทรคณา  เลขานุการมูลนิธิเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่น(มตช) ยื่นหนังสือถึง นางสาว ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ขอให้ตรวจสอบ “โครงการพัฒนาแพลตฟอร์มบริหารจัดการฐานข้อมูลและการบริการสำหรับแรงงานนอกระบบ ” โดย อดีตปลัดกระทรวงแรงงาน และ ผอ. ส่อไม่สุจริต กรณีร่วมมือกับ บริษัทเอกชนฯ  ขออนุมัติงบกลางจำนวน 94.5 ล้านบาท ประจำปีงบประมาณ 2566 มาจัดทำ “โครงการพัฒนาแพลตฟอร์มบริหารจัดการฐานข้อมูลและการบริการสำหรับแรงงานนอกระบบ ” ล่วงหน้า หรือทำระบบรอล่วงหน้า และยังพบว่าในงบประมาณปี 2569 มีการของบซ่อมบำรุงรักษาระบบงานฯ  11 ล้านบาท ในขณะที่ระบบงานดังกล่าวไม่มีการใช้งานตั้งแต่ซื้อระบบมา เนื่องจาก พรบ. แรงงานนอกระบบฯ ยังไม่ผ่านสภาฯ

โดยสืบเนื่องมาจากกระทรวงแรงานได้มีการจัดซื้อจัดจ้าง โครงการพัฒนาแพลตฟอร์มบริหารจัดการฐานข้อมูลและการบริการสำหรับแรงงานนอกระบบ ด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) เลขที่โครงการ : 66069247295 ปีงบประมาณ พ.ศ.2566 (งบกลาง) และได้ทำสัญญาเมื่อวันที่ 5 กันยายน 2566 ปัจจุบัน เวลาผ่านไป 2 ปี ตั้งแต่มีการซื้อระบบงานดังกล่าวมา พบข้อเท็จจริงว่ายังไม่ได้มีการใช้งานใดๆ เป็นการของบประมาณมาทำระบบงานดังกล่าวล่วงหน้า นอกจากนี้ ยังพบว่าในปีงบประมาณ 2569 มีการของบประมาณสำหรับซ่อมบำรุงรักษาระบบงานดังกล่าวเป็นเงินจำนวน 11 ล้านกว่าบาท ซึ่งจะล๊อกสเปกให้กับบริษัทเดิม  

จากเอกสารหลักฐานจากมูลนิธิเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอรัปชั่น(มตช) ได้รับเรื่องร้องเรียนและลงพื้นที่ตรวจสอบเก็บข้อมูล พบความผิดปกติของโครงการ ฯ ดังกล่าวตั้งแต่ในขั้นตอนการของบกลางประจำปี 2565 และ 2566 ขั้นตอนการจัดทำร่างทีโออาร์ กระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง และกระบวนการของบซ่อมบำรุงรักษาระบบ ส่อไปในทางทุจริต เอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มบริษัทเอกชนฯ นำความลับทางราชการออกมาโดยพบว่ามีอดีตปลัดกระทรวงแรงงาน และ ผอ. ผู้ร่วมมือกับข้าราชการประจำ ฝ่ายการเมือง อ้างเหตุผล เรื่อง พรบ. แรงงานนอกระบบฯ  กำลังเข้าสภาฯ ร่วมมือกับบริษัทเอกชนทำเอกสารขออนุมัติงบกลาง ประจำปีงบประมาณ 2566 มาซื้อระบบหลักรอไว้ล่วงหน้า ขณะที่ พรบ. ดังกล่าว ยังผ่านสภาฯ มองว่าเป็นการซื้อมาทิ้ง หรือ App ตังค์ทอน

ทั้งนี้ ผอ. นำเอกสารความลับของทางราชการออกมา ตลอดระยะเวลาที่เริ่มของบประมาณจนถึงขั้นตอนการประกวดราคา เอื้อประโยชน์ และทำทุกขั้นตอนเพื่อให้ได้ผู้ชนะการประมูลตามแผนที่กำหนดไว้ล่วงหน้า เป็นผู้ประสานงานกับบริษัทเอกชนเพื่อจัดฮั้วทำราคากลางตั้งแต่ในขั้นตอนการของบประมาณจากกรมบัญชีกลาง และฮั้วประมูลในขั้นตอนการทำทีโออาร์ การจัดซื้อจัดจ้าง และ ฮั้วราคากลาง ทำราคากลางให้สูงเพื่อนำเงินทอนส่งฝ่ายการเมือง อดีตปลัดฯ และ ผอ. มีการเรียกรับผลประโยชน์จากบริษัทเอกชนฯ เป็นจำนวนเงิน 32 ล้านบาท 

นากจากนั้น มูลนิธิเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอรัปชั่น(มตช) ตรวจสอบแล้วพบว่าระบบงานดังกล่าวยังไม่เคยใช้งาน เพราะพรบ.แรงงานนอกระบบฯ ยังไม่ผ่านสภาฯ นอกจากนี้ยังพบว่าในปีงบประมาณ 2569 มีการของบประมาณสำหรับซ่อมบำรุงระบบงานดังกล่าวอีก 11 ล้านบาท (ในขณะที่ ระบบงานดังกล่าว ไม่มีการใช้งานตั้งแต่ ซื้อระบบมา) เตรียมประมูลโดยได้บริษัทเดิมเป็นงบกินเปล่า ทั้งที่ระบบงานดังกล่าวตั้งแต่ซื้อมายังไม่เคยใช้งานใดๆ
      
มูลนิธิเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอรัปชั่น(มตช)  เห็นว่า หากปล่อยให้ดำเนินการต่อไปจะก่อเกิดความเสียหาย และกระทบต่องบประมาณของแผ่นดิน ซึ่งโครงการฯ ดังกล่าว มีการร่วมกันทุจริตมาตั้งแต่ต้น จึงนำเรื่องทั้งหมดมาร้องเรียน ต่อ นางสาว ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เพื่อขอความอนุเคาระห์ ให้ดำเนินการตรวจสอบ การทุจริตโครงการฯ  ระงับยกเลิกการประกวดงานจ้างบำรุงรักษาโครงการฯ ในงบประมาณปี 2569 และ ตั้งกรรมการสอบสวน