วันเสาร์ ที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2567 03:16 น.

การศึกษา

ลดเสี่ยงฝุ่น PM2.5! “สุวิทย์” สั่งมหาวิทยาลัยเปิดเรียนออนไลน์

วันอังคาร ที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2563, 18.55 น.

“สุวิทย์”สั่งการเร่งด่วนขอความร่วมมือมหาวิทยาลัยเปิดการเรียนการสอนออนไลน์ ลดความเสี่ยงนักศึกษาผจญฝุ่น PM2.5 และหน่วยงานในสังกัดสามารถทำงานที่บ้านได้ พร้อมนำเสนอนวัตกรรมเครื่องฟอกอากาศภายนอกอาคารไอออนเฟรซ แบบไฟฟ้าสถิต ช่วยลดปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 สามารถกรองอากาศ 10,000 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง เผยหน่วยงานภาครัฐ-เอกชนสนใจสามารถติดต่อขอเทคโนโลยีไปพัฒนาและต่อยอดได้

เมื่อวันที่ 21 มกราคม 2563     ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน หรือ PM 2.5 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ปริมณฑล และภูมิภาคต่างๆ ของประเทศไทยทวีความรุนแรงขึ้นทุกวัน โดยเฉพาะในพื้นที่ของกรุงเทพฯ อยู่ในระดับที่เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน โดยล่าสุดได้สั่งการให้หน่วยงานใน อว.บางสายงานมีความคล่องตัวในการปฏิบัติงานสามารถพิจารณาความเหมาะสม โดยการให้หน่วยงานบางส่วนงานสามารถทำงานที่บ้านได้ในช่วงนี้ เพื่อลดการปล่อยฝุ่นควันจากการเดินทาง และเจ้าหน้าที่ ไม่ต้องออกมาเจอฝุ่นควัน พร้อมกันนี้ยังได้สั่งการให้สถาบันอุดมศึกษา หากในชั้นเรียนใดสามารถจัดให้มีการเรียนการสอนออนไลน์ ผ่านเทคโนโลยีต่างๆในช่วงนี้เพื่อลดการเดินทางออกมาเผชิญฝุ่นควันของนักศึกษา

นอกจากนี้ อว.ได้มีการวิจัยและพัฒนาเครื่องกรองอากาศแบบไฟฟ้าสถิต “ไอออนเฟรช” (IonFresh) เป็นถือเป็นเครื่องต้นแบบที่ใช้กรองอากาศแบบไฟฟ้าสถิต (Electrostatic air purifier) ซึ่งพัฒนาโดยทีมวิจัยศูนย์เทคโนโลยีเพื่อความมั่นคงของประเทศและการประยุกต์เชิงพาณิชย์ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) สำหรับใช้งานภายนอกอาคาร จำนวน 4 เครื่อง โดยเป็นการพัฒนาเครื่องกรองฝุ่นละอองขนาดอนุภาคเล็กกว่า 2.5 ไมครอน ด้วยเทคโนโลยีการตกตะกอนเชิงไฟฟ้าสถิต โดยต้นแบบเครื่อง ไอออนเฟรชมีขนาดความกว้าง 1 เมตร สูง 1 เมตร มีอัตราการสร้างอากาศบริสุทธิ์ประมาณ 10,000 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง เพื่อช่วยลดปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ในพื้นที่ภายนอกหรือพื้นที่ควบคุม ซึ่ง อว. พร้อมมอบองค์ความรู้ทั้งหมดให้กับภาคเอกชน องค์กรหรือสถาบันใดที่สนใจดังกล่าวไปผลิตเพื่อใช้ในพื้นที่ของหน่วยงานของตนเอง

โดยรูปแบบการทำงานของเครื่องไอออนเฟรชจะเป็นการสร้างประจุบวกให้ไปจับกับฝุ่นละออง จากนั้นอนุภาคของฝุ่นละอองที่มีประจุบวกจะถูกดูดเข้าไปติดที่แผ่นโลหะซึ่งมีประจุลบภายในเครื่อง อากาศที่ออกมาจึงเป็นอากาศสะอาด จุดเด่นของเครื่องไออนเฟรช คือ สามารถกรอง ‘ฝุ่น PM 2.5’ และเมื่อฝุ่นละอองเกาะเต็มแผ่นโลหะสามารถถอดไปล้างทำความสะอาดแล้วนำกลับมาใช้ใหม่ได้ ที่สำคัญการกรองฝุ่นแบบไฟฟ้าสถิตสามารถออกแบบแผงกรองฝุ่นให้ลมผ่านง่าย ไม่ลดแรงลมในการดูดกรองฝุ่นละออง ทำให้พัดลมดูดฝุ่นทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และช่วยให้ประหยัดไฟฟ้า

อย่างไรก็ดี ในอนาคตนอกจากทีมวิจัยของ สวทช. จะพัฒนาไปใช้ในพื้นที่สาธารณะขนาดใหญ่แล้วยังมองไปถึงการกำจัดฝุ่นที่แหล่งกำเนิด ทั้งในโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ที่ยังไม่มีการใช้เทคโนโลยีป้องกันฝุ่นละอองออกสู่สาธารณะเนื่องจากเทคโนโลยีต่างประเทศยังมีราคาแพงอยู่มาก แต่ปัจจุบันเทคโนโลยีเครื่อง ไอออนเฟรชสามารถพัฒนาและผลิตได้แล้วในประเทศโดยนักวิจัยไทยและราคาถูกกว่าต่างประเทศหลายเท่า

นอกจากนี้ อว. โดย สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือจิสด้า เครือข่ายพันธมิตรมหาวิทยาลัยเพื่อการวิจัย ร่วมกับ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมควบคุมมลพิษ สร้างแพลตฟอร์มการตรวจวัดและข้อมูลค่าฝุ่นละอองที่มีความถูกต้อง แม่นยำ และเป็นมาตรฐานเดียวกันเพื่อให้ข้อมูลกับประชาชนอย่างทันท่วงที ผ่าน “ศูนย์เฝ้าระวังคุณภาพอากาศ” ซึ่งนับเป็นแพลตฟอร์มสำคัญในการตรวจวัดและข้อมูลค่าฝุ่นละอองที่มีความถูกต้อง แม่นยำ และเป็นมาตรฐานเดียวกันเพื่อให้ข้อมูลกับประชาชนอย่างทันท่วงที ผ่านระบบข้อมูลคุณภาพอากาศแบบเบ็ดเสร็จ ผ่านเว็บไซต์ https://pm2_5.nrct.go.th โดยจะแสดงผลคุณภาพอากาศจากการรวบรวมข้อมูลการรายงานค่าความเข้มข้นฝุ่นละออง PM2.5 และ PM10 จากหลายๆ หน่วยงานทั่วประเทศ รวมจุดติดตั้งประมาณ 800 จุด ซึ่งจะนับเป็นฐานข้อมูลแบบเบ็ดเสร็จที่เป็นมาตรฐานเดียวกัน (Single Database) เนื่องจากปัจจุบันข้อมูลและการรายงานผลคุณภาพ โดยเฉพาะปริมาณ PM2.5, PM10 และ ดัชนีคุณภาพอากาศ (Air Quality Index) มีความแตกต่างกันในแต่ละหน่วยงาน/สถานีตรวจวัด ทำให้ขาดการบูรณาการการเชื่อมโยงข้อมูล โดยจุดเด่นคือการสามารถรายงานสภาพอากาศรายชั่วโมง รายวัน (Real-time) รวมทั้งคาดการณ์สภาพคุณภาพอากาศล่วงหน้า 3 วัน (AQI Forecast) เพื่อให้ประชาชนสามารถเตรียมตัวได้ พร้อมทั้งให้ข้อมูลการปฏิบัติตนอย่างถูกต้องและคำแนะนำในการรับมือสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก ซึ่งข้อมูลดังกล่าวสามารถเข้าถึงประชาชนได้โดยง่าย พร้อมบูรณาการร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ทั่วประเทศ เช่นโรงเรียน โรงพยาบาล พร้อมทั้งร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขในการขยายผลและติดตั้งเครื่องวัดฝุ่นละอองขนาดเล็ก Dustboy ที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ทั่วประเทศ และคาดว่าจะติดตั้งเครื่องตรวจวัดคุณภาพอากาศได้จำนวน 8,000 แห่งทั่วประเทศ

พรรคประชาธิปัตย์ลุยเสนอญัตติด่วน แก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5

นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงผลการประชุม ส.ส. วันที่ 21 มกราคม 2563 ว่า ที่ประชุมมีมติเสนอญัตติด่วนแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 ต่อสภาผู้แทนราษฎรเพื่อให้มีการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาหาแนวทางในการแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วนที่สุด 

โดยที่ประชุมเล็งเห็นแล้วว่าขณะนี้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 เป็นปัญหาที่มีผลกระทบต่อพี่น้องประชาชนเป็นอย่างมาก การแก้ปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 เกินมาตรฐานจะต้องเร่งดำเนินการแก้ปัญหาให้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากที่สุด ทั้งข้อมูลคุณภาพอากาศที่ควรมีการจัดเก็บข้อมูลที่เป็นปัจจุบันให้รวดเร็ว วิธีการแก้ปัญหาที่นอกจากแก้ปัญหาในขณะนี้ ก็ควรมีการกำหนดการแก้ไขในระยะยาวอย่างยั่งยืน และการให้ความรู้กับประชาชนอย่างเป็นระบบ
 
ด้วยความเป็นห่วงและจะต้องดำเนินการแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนโดยเร็วที่สุด ที่ประชุม ส.สจึงมีมติร่วมกันให้เสนอญัตติด่วนแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 ต่อสภาผู้แทนราษฎร ในวันพรุ่งนี้

หน้าแรก » การศึกษา