การศึกษา
Open House บ้านพญาไท และบ้านปากเกร็ด
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่

Open House บ้านพญาไท และบ้านปากเกร็ด
เตรียมความพร้อม New Normal ก่อนเปิดภาคเรียน ปีการศึกษา 2563
กรมกิจการเด็กและเยาวชน กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ มีหน่วยงานในสังกัด 107 หน่วย ได้แก่ บ้านพักเด็กและครอบครัว จำนวน 77 แห่ง และสถานรองรับ 30 แห่ง ประกอบด้วย สถานสงเคราะห์เด็กอ่อน (อายุแรกเกิด - 6 ปี) สถานสงเคราะห์เด็กโต (อายุ 6 - 18 ปี) โดยสถานสงเคราะห์ให้การอุปการะเด็กที่กําพร้า ถูกทอดทิ้ง ครอบครัวแตกแยก ติดเชื้อเอดส์ หรือได้รับผลกระทบจาก โรคเอดส์ หรือบิดามารดาหรือผู้ปกครองไม่สามารถให้การอุปการะได้อย่างเหมาะสม สถานแรกรับ (อายุ 6 - 18 ปี) ให้การอุปการะเด็กที่เร่ร่อน ขอทาน ถูกกระทําทารุณกรรม มีปัญหาพฤติกรรม และเด็กที่ตกเป็นเหยื่อของการค้ามนุษย์ สถานคุ้มครองสวัสดิภาพ (อายุ 6 - 18 ปี) ให้การอุปการะเด็กที่มีปัญหาด้านความประพฤติ เด็กที่ประพฤติตนไม่เหมาะสม และเด็กที่ได้รับการเลี้ยงดูไม่เหมาะสมสถานพัฒนาและฟื้นฟูเด็ก (อายุ 6 – 18 ปี) ให้การอุปการะเด็กที่จําเป็นต้องได้รับการสงเคราะห์หรือคุ้มครองสวัสดิภาพ
นางสุภัชชา สุทธิพล อธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน กล่าวว่า จากสถานการณ์ระบาดของโรคไวรัสโคโรนา (COVID-19) กรมกิจการเด็กและเยาวชนได้กำหนดแนวทางปฏิบัติสำหรับการป้องกันโรคระบาดดังกล่าวในสถานรองรับเด็กทั้ง 107 แห่ง ซึ่งเป็นสถานที่ที่ดูแลกลุ่มเป้าหมายเด็กและครอบครัว โดยการดำเนินการตามแนวทางนั้นเป็นไปตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข ทำให้กลุ่มเป้าหมาย ของกรมกิจการเด็กและเยาวชน ได้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยและมีความเหมาะสม ส่งผลให้ปลอดจากการติดเชื้อดังกล่าว รวมทั้งในช่วงที่ผ่านมา กระทรวงศึกษาธิการได้กำหนดให้มีการจัดการเรียนการสอนแบบออนไลน์ในทุกระดับชั้น ทางสถานรองรับเด็กทั้ง 107 แห่ง ได้ดำเนินการจัดการเรียนการสอนออนไลน์ให้กับกลุ่มเป้าหมายของกรมกิจการเด็กและเยาวชน
วันพฤหัสบดีที่ 25 มิถุนายน 2563 เวลา 10.00 น. ณ สถานสงเคราะห์เด็กอ่อนพญาไท นางสุภัชชา สุทธิพล อธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน เปิดกิจกรรม “Open House บ้านพญาไท และบ้านปากเกร็ด” และตรวจเยี่ยมการเตรียมความพร้อมสถานรองรับเด็ก New Normal (ต้นแบบ) สถานสงเคราะห์เด็กอ่อนพญาไท และสถานสงเคราะห์เด็กชายบ้านปากเกร็ด ก่อนเปิดภาคเรียน ปีการศึกษา 2563 ในวันที่ 1 กรกฎาคม 2563 โดยทางสถานศึกษาได้แจ้งกำหนดการให้เด็ก ๆ ได้กลับเข้าสู่ระบบการเรียนการสอนแบบปกติ ทางกรมกิจการเด็กและเยาวชน จึงได้เตรียมความพร้อมให้เด็กๆ ที่อยู่ในความดูแลของกรมกิจการเด็กและเยาวชน ที่จะต้องไปโรงเรียนได้สามารถปรับตัวให้เข้าสู่ความปกติใหม่ (NEW NORMAL) และนำไปใช้ในสถานรองรับของกรมกิจการเด็กและเยาวชน 107 แห่งทั่วประเทศ
การเตรียมพร้อมสำหรับเด็กในสถานรองรับก่อนเปิดภาคเรียน ปีการศึกษา 2563 ประกอบด้วย
1. การให้ความรู้แก่เด็กในด้านการป้องกันตนเองจากการแพร่กระจายของโรคไวรัสโคโรนา (COVID-19) เช่น การเว้นระยะห่าง ทางสังคมอย่างน้อยหนึ่งช่วงแขน, การสวมหน้ากากอนามัย, ไม่สัมผัสสิ่งของสาธารณะ เช่น ราวบันได, ไม่ใช้สิ่งของร่วมกันกับเพื่อน ๆ, ไม่ดื่มน้ำหรือทานอาหารของเพื่อน, การล้างมือด้วยน้ำสบู่หรือเจลแอลกอฮลล์, ไม่เล่นหรือใกล้ชิดกับเพื่อน ๆ ที่มีอาการคล้ายหวัด รวมทั้งให้สังเกตอาการของตนเองหากมีอาการ ไอ จาม ปวดศรีษะ รีบแจ้งพี่เลี้ยงประจำอาคารพัก หรือคุณครูประจำชั้นทันที
2. จัดเตรียมอุปกรณ์ในการป้องกันโรค คือ หน้าการอนามัยชนิดผ้า และเจลแอลกอฮอล์สำหรับพกพา
3. จัดเตรียมเจ้าหน้าที่พยาบาลในการคัดกรองสุขภาพเด็ก โดยการตรวจอุณหภูมิร่างกายของเด็กในช่วงเช้า และหลังกลับจากสถานศึกษา มีการจดบันทึกรายละเอียด รวมถึงมีการตรวจอาการเจ็บป่วยเด็ก ๆ ทุกคนในช่วงเวลา 22.00 น. อีกครั้ง หากมีอาการเจ็บป่วยให้หยุดพักงดไปโรงเรียนเพื่อสังเกตอาการ นำส่งพบแพทย์ทันทีหากมีอาการผิดปกติ
4. จัดเตรียมกำหนดจุดรับ-ส่งเด็กในสถานรองรับให้ชัดเจน ใกล้กับจุดที่เด็กสามารถทำความสะอาดมือได้ สำหรับยานพาหนะให้การ รับ-ส่งเด็ก ให้มีแอลกอฮอล์ประจำรถยนต์ทุกคัน และทำความสะอาดยานพาหนะทุกคันด้วยแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อทุกวัน
5.และเมื่อกลับจากสถานศึกษาจะมีการล้างมือ อาบน้ำ สระผม ชำระร่างกาย เปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนจะไปทำกิจกรรมต่าง ๆ ในช่วงเย็น และพี่เลี้ยงประจำอาคารพักจะนำเสื้อผ้าซักล้าง เช็ดทำความสะอาดกระเป๋า รองเท้า อุปกรณ์เครื่องเขียนด้วยแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อทุกวัน
รวมทั้งมีการจัดเจ้าหน้าที่งานการศึกษาประสานงานกับสถานศึกษา เพื่อติดตามสุขภาพของเด็ก, สถานการณ์ภายในสถานศึกษา และการเรียนการสอน หากมีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ที่เป็นสถานการณ์ฉุกเฉินทางสถานรองรับจะดำเนินการตามแผนและขั้นตอนตามแผนบริหารความต่อเนื่อง (BCP) ที่สถานรองรับทุกแห่งได้จัดทำขึ้นทันที เพื่อให้เด็กทุกคนที่อยู่ในความดูแลของกรมกิจการเด็กและเยาวชนได้มีความปลอดภัยจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไวรัสโคโรนา (COVID-19) นางสุภัชชา กล่าวทิ้งท้าย
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่
หน้าแรก » การศึกษา
Top 5 ข่าวการศึกษา ![]()
- สถาบันช่างศิลป์ท้องถิ่น “สืบสานภูมิปัญญาหัตถศิลป์สู่คนรุ่นใหม่” ตามรอยพระบาท “พระพันปีหลวง” 1 ส.ค. 2568
- มฟล.ลงพื้นที่เชียงรายสร้างเครือข่ายแก้ปัญหาโลหะหนักในน้ำ เสริมความยั่งยืนการจัดการลุ่มน้ำ 1 ส.ค. 2568
- “นฤมล”นำ สพฐ.-สอศ.ลงพื้นที่ จ.น่าน ตรวจเยี่ยมสถานศึกษาเสียหายจากอุทกภัย ลุย ให้กำลังใจครู นักเรียน เผย เตรียมของบกลางเร่งฟื้นฟูพื้นที่ 1 ส.ค. 2568
- นศ.ราชมงคลพระนคร ร่วมพัฒนาผู้ช่วยการตลาดอัจฉริยะ ลดต้นทุน ให้ SME ไทย 1 ส.ค. 2568
ข่าวในหมวดการศึกษา ![]()
ม.รามคำแหง จัดพิธีถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 19:47 น.
- “เทวัญ” รมช.ศึกษาฯ นำทัพลูกเสือโคราชกว่า 500 ชีวิต บริจาคโลหิตช่วยแนวหน้า – พร้อมเปิดค่ายลูกเสือ 4 จังหวัด รองรับผู้ประสบภัยชายแดนไทย-กัมพูชา 15:58 น.
- เสมา 2 ‘ลิณธิภรณ์’ นำ ครู สกร.อุบลฯ เปิดโรงก๋วยเตี๋ยวศูนย์พักพิ เล็งชงแผนเลื่อนสอบช่วย นร.หลังเหตุปะทะ 14:05 น.
- “นฤมล” เยี่ยมศูนย์พักพิง จ.สุรินทร์ ซาบซึ้งครูเสียสละแม้เป็นผู้ประสบภัย แต่ยังดูแลนักเรียนไม่ห่าง 10:56 น.
- สพม.พังงา ภูเก็ต ระนอง เสริมสร้างสมรรถนะครูผู้ช่วยสู่ครูมืออาชีพในศตวรรษที่21 21:34 น.