วันเสาร์ ที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2568 12:03 น.

การศึกษา

นศ.ราชมงคลพระนคร ร่วมพัฒนาผู้ช่วยการตลาดอัจฉริยะ ลดต้นทุน ให้ SME ไทย

วันศุกร์ ที่ 01 สิงหาคม พ.ศ. 2568, 10.37 น.

นศ.ราชมงคลพระนคร ร่วมพัฒนาผู้ช่วยการตลาดอัจฉริยะ ลดต้นทุน ให้ SME ไทย

 

มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร (ราชมงคลพระนคร) แสดงความยินดีกับ นายรัชชานนท์ รัตนิวิจิตร นักศึกษาสาขาวิชาการจัดการ คณะบริหารธุรกิจ และนายธนทัต สฤษดิ์รัตน์ นักศึกษาสาขาวิชาการออกแบบบรรจุภัณฑ์และการพิมพ์ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และการออกแบบ ซึ่งเป็นหนึ่งในสมาชิกทีม Axis Solution ได้ร่วมแข่งขันและผ่านการคัดเลือก 1 ใน 26 ทีมจากทั่วประเทศ และรับเงินทุนสนับสนุนจำนวน 200,000 บาท ในรอบ Final Pitching ภายใต้กิจกรรมการตัดสินดิจิทัลสตาร์ทอัพ ระยะ Idea Stage รอบ Final Pitching จัดโดยสำนักงานเศรษฐกิจดิจิทัล (depa Thailand) ซึ่งเป็นหนึ่งในกลไกสำคัญในการสร้างระบบนิเวศสตาร์ทอัพ และผู้ประกอบการรุ่นใหม่ของไทยที่สามารถแปลงแนวคิดให้เป็นธุรกิจที่มีศักยภาพ สามารถเติบโต และพร้อมแข่งขัน ทั้งในระดับประเทศและระดับนานาชาติ  ณ สำนักงานใหญ่ depa

 

นายรัชชานนท์ รัตนิวิจิตร หรือ บอส ตำแหน่ง Founder&CEO กล่าวว่า การร่วมแข่งขันครั้งนี้ทีมได้นำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการ ภายใต้ชื่อ Axis Solution – AI - Powered Marketing ServiceTech (ระบบปฏิบัติการสำหรับการตลาด ที่ขับเคลื่อนด้วย AI Agents อัจฉริยะ) ทีมมองเห็นถึงปัญหาจากวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อย (SME) ภายในประเทศไทย ในกลุ่มธุรกิจร้านอาหาร ประสบปัญหาในการทำการตลาดออนไลน์ เนื่องจากขาดความสมดุลด้านเวลา งบประมาณ ความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีดิจิทัล และการใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ส่งผลให้ผู้ประกอบการส่วนใหญ่เสียโอกาสทางธุรกิจและไม่สามารถแข่งขันในยุคดิจิทัลได้อย่างเต็มศักยภาพ  ดังนั้น การพัฒนาระบบปฏิบัติการสำหรับการตลาดที่ขับเคลื่อนด้วย AI Agents อัจฉริยะ จะทำหน้าที่เสมือนทีมการตลาดครบวงจร โดยระบบ AI Agents หรือระบบปัญญาประดิษฐ์สามารถตัดสินใจแทนมนุษย์ด้วยการวิเคราะห์ข้อมูลเมื่อนำมาใช้หลายตัวจะทำงานร่วมกันอัตโนมัติในกระบวนการทางการตลาด ตั้งแต่การคิดและวางแผนกลยุทธ์ การสร้างสรรค์เนื้อหาจากรูปภาพและข้อความโฆษณา การดำเนินการแคมเปญโฆษณาบนโซเชียลมีเดีย เช่น เฟซบุ๊ก (Facebook) อินสตาแกรม (Instagram) ติ๊กต๊อก (TikTok) จนถึงการวิเคราะห์ผลลัพธ์และเรียนรู้เพื่อปรับปรุงแคมเปญให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง

 

 

 

บอส เล่าต่อว่า นวัตกรรมที่นำมาใช้งานในการสร้างระบบซึ่งทำให้แตกต่างกว่าระบบ Automation ทั่วไปที่ทำงานตามคำสั่ง คือ เทคโนโลยี Agentic AI และ AI Agents ที่นำมาใช้ร่วมกันทำให้เกิดการคิดวิเคราะห์ ตัดสินใจ และทำงานร่วมกันได้อย่างอิสระและชาญฉลาด เช่น เมื่อป้อนคำสั่งให้ช่วยโปรโมทเมนูใหม่ของร้าน ระบบที่ถูกพัฒนาจะวางแผนตั้งแต่ช่วงเวลาในการโพสต์คอนเทนต์ การสร้างภาพ แคปชัน หลังจากนั้นระบบจะทำการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อปรับปรุงแผนการทำงานครั้งต่อไป ซึ่งระบบสามารถเรียนรู้และพัฒนาตัวเองให้เก่งขึ้น (Self-Improving System) จากข้อมูลและการใช้งานจริง “ผมมุ่งหวังว่าการพัฒนาระบบครั้งนี้ให้ใช้งานง่ายไม่ซับซ้อน และเป็นโครงสร้างพื้นฐานการตลาดใหม่ (New Marketing Infrastructure) ที่ยั่งยืนสำหรับผู้ประกอบการ ไม่ใช่เพียงแค่เครื่องมือ (SaaS Tool)” หลังจากนี้จะมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ต้นแบบ (MVP) ของ Axis Agentic Engine ซึ่งเป็นระบบหลังบ้านที่พัฒนาขึ้นมาเอง และจะเป็นระบบ AI หลักของโครงการ โดยจะนำไปทดสอบตลาดกับกลุ่ม SME ที่ประกอบร้านอาหาร เพื่อเก็บข้อมูล (Data) และความคิดเห็น (Feedback) มาปรับปรุงและพัฒนาระบบให้ตอบโจทย์ผู้ใช้งานได้อย่างดีที่สุด ซึ่งจะเป็นการสร้างความเท่าเทียมในการแข่งขันทางธุรกิจให้กับธุรกิจขนาดเล็ก และเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศไทย

 

ส่งข่าวได้ที่  email : saowaporn12345@gmail.com   และ  bat_mamsao@yahoo.com

หน้าแรก » การศึกษา

ข่าวในหมวดการศึกษา