วันพุธ ที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2568 12:36 น.

การศึกษา

เสวนา "สันติวิธีวิถีครูบาศรีวิชัย" พบวิถีล้านนา วิถีพหุวัฒนธรรม วิถีปัสสนาสังคม สู้กลเกมดึงศรัทธามวลชน

วันอังคาร ที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2565, 21.42 น.

วันที่ 27 กันยายน 2565 ที่วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร  จังหวัดเชียงใหม่ พระปราโมทย์  วาทโกวิโท,ดร. อาจารย์หลักสูตรสันติศึกษา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย(มจร) เลขานุการศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทภาคประชาชน มจร เปิดเผยว่า ได้ร่วมรับฟังการเสวนาทางวิชาการเรื่อง "สันติวิธีวิถีครูบาศรีวิชัย" จัดโดย มูลนิธิสถาบันครูบาเจ้าศรีวิชัย และภาคีเครือข่าย จัด ณ พระวิหารหลวง วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร โดยพระเทพสิงหวราจารย์  เจ้าอาวาสวัดพระสิงห์วรมหาวิหาร และรองเจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ นำบูชาพระรัตนตรัย และกล่าวสัมโมทนียถาประเด็นสำคัญว่า ครูบาศรีวิชัยมีการใช้สันติวิธีอย่างชัดเจน ชัดเจนอย่างไรวิทยากรจะร่วมเสวนามิติสันติวิธีเชิงกายภาพ สันติวิธีเชิงสังคม และสันติวิธีเชิงจิตวิญญาณ       

    

ศ. เกียรติคุณ ดร.อานันท์ กาญจนพันธุ์ ปาฐกถาการเสนาประเด็นสำคัญว่า ล้านนามีความเป็นพหุวัฒนธรรม หรือ พหุสังคม มานานแล้วมีความหลากหลายในทางชาติพันธุ์ โดยครูบาศรีวิชัยมุ่งคำถึงความหลากหลาย แต่การเปลี่ยนผ่านทางสังคมของรัฐไม่สอดรับกับความเป็นล้านนา แต่ครูบาศรีวิชัยเข้าใจในความหลากหลายพหุสังคมล้านนาครูไม่เห็นด้วยกับการบังคับแต่ควรอยู่ร่วมกันแบบอิสรภาพ เสรีภาพ อยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขในพหุสังคม บทบาทที่สุดยอดของครูบาศรีวิชัยจึงเป็นการต่อสู้ทางจิตวิญญาณ นับเป็นการเคลื่อนไหวที่เป็นผู้นำแห่งการเปลี่ยนแปลงทางโลกและทางธรรม การเปลี่ยนแปลงสองทางจึงเป็นเครื่องมือสันติวิธี       

    

การเสวนาทางวิชาการเรื่อง "สันติวิธีวิถีครูบาศรีวิชัย" ดำเนินรายการเสวนาทางวิชาการ โดย รศ.ดร.วสันต์ ปัญญาแก้ว หัวหน้าภาควิชาสังคมวิทยาและมนุษยวิทยา คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โดยมีการสะท้อนการปฏิรูปของสงฆ์ เช่น ธรรมยุติกับมหานิกาย ซึ่งครูบาศรีวิชัยเป็นนักคิดรูปสำคัญครูบาศรีวิชัยเน้นการกระจายอำนาจมุ่งเน้นพระพุทธศาสนาแบบล้านนามิติของจิตวิญญาณ โดยผู้ร่วมเสวนาประกอบด้วย   

  

1)พระครูปลัดปัญญาวรวัฒน์ ศ.ดร. ผู้อำนวยการหลักสูตรสันติศึกษา และผู้อำนวยการวิทยาลัยพุทธศาสตร์นานาชาติ มจร กล่าวประเด็นสำคัญว่า มาลงพื้นที่ในการจัดการความขัดแย้งแม่น้ำตาช้าง ได้เข้าใจการทำงานของครูบาศรีวิชัย ทำให้มองมิติสันติวิธีวิถีครูบาศรีวิชัย เวลาพูดถึงครูสันติวิธี  ครูบาศรีวิชัยพยายามรักษาจิตวิญญาณล้านนานิยม แต่ไปชนกับรัฐชาตินิยม "ล้านนานิยมชนกับรัฐชาตินิยม" ครูบาศรีวิชัยพยายามรักษาพุทธแบบล้านนา ทำให้เกิดการชนกัน เช่น ระบบการศึกษา ทางรัฐพยายามมุ่งการศึกษาทางโลก ส่วนครูบาศรีวิชัยพยายามจะมุ่งการศึกษาแบบภายในคือ พุทธศาสนาแบบล้านา เป็นวัฒนธรรมแบบล้านนา
   
ครูบาศรีวิชัยพยายามรักษาอัตลักษณ์วิถีพระพุทธศาสนาแบบล้านนาด้วยสันติวิธี   3 ชุด ประกอบด้วย 1) สันติวิธีวิถีใจ เป็นสันติภายในผ่านการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานทำให้เกิดสติ ขันติ สันติ เป็นฐานของครูบาศรีวิชัย  2)สันติวิธีเครื่องมือการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ  โดยใช้กุศลโลบายมาใช้เป็นเครื่องมือ ทำถนนเพื่อสร้างวัด เอาวัดเป็นฐานการสร้างบารมี จุดแข็งของครูบาศรีวิชัยคือการสร้างวัด  3)สันติวิธีไม่ใช้ความรุนแรง ใช้กระบวนการของอริยะขัดขืนของครูบาศรีวิชัย เป็นการดื้อแพ่งของกฎหมายของรัฐ แต่ครูบาศรีวิชัยใช้พระธรรมวินัยนำ โดยยึดการบวช 10 พรรษา สามารถบวชพระได้ เพราะกฎหมายออกมาทีหลังพระธรรมวินัย ครูบาศรีวิชัยใช้พุทธพัวพันกับสังคมได้อย่างชัดเจนถือว่าเป็นสันติวิธี 

ปัจจุบันมีการจัดกลุ่มมหาวิทยาลัย ซึ่งรัฐปรับตัวจากความผิดพลาด ทำให้เขาเป็นเราจึงขัดแย้ง แต่ควรให้เขาเป็นเขา เป็นวิถีแห่งล้านนา โดยล้านนาจะต้องปรับตัวให้เหมาะกับบริบท เราจะรักษาลมหายใจแห่งล้านนาเป็นพุทธแบบดั่งเดิมได้อย่างไร  โดยไม่เจือจางกับโลกสมัยใหม่ จะรักษาท้องถิ่นนิยม รักษาภาษา ได้อย่างไร ? จะมีวิธีการส่งต่อให้คนรุ่นใหม่ได้อย่างไร ? ในวิถีวัฒนธรรมล้านนา  คำถามพระสงฆ์ในล้านนาจะรักษาไว้อย่างไร ? ด้วยความภูมิภาคใจ โดยเราไม่ให้แค่ครูบาศรีวิชัยมาเพียงแค่ขอพรเท่านั้น ? เราจะออกแบบพุทธแบบล้านนาให้เหมาะกับคนรุ่นใหม่อย่างไร ? พุทธล้านนาตอบโจทย์สังคมล้านนาได้อย่างไร ? เป็นวัดส่งมอบปัญญา วัดส่งมอบความตื่นรู้ ปฏิบัติสมาธิปัญญาแบบครูบาศรีวิชัย  เป็นวัดที่ส่งมอบความจริงแบบอริยสัจ 4   เราจะออกแบบวิถีปฏิบัติของครูบาศรีวิชัยอย่างไร ?    

       
2)อาจารย์ ดร.โสภา ชานะมูลโคล ผู้เขียนหนังสือเรื่องครูบาเจ้าศรีวิชัย คนบุญล้านนา กล่าวประเด็นสำคัญว่า โดยเริ่มต้นจากการทำวิจัยของธรรมศาสตร์ ที่มีความเก่าแก่มาก ได้นำมาตีพิมพ์ผลงานออกมาเพื่อสร้างการรับรู้รับทราบ ครั้นเมื่อที่ครูบาศรีวิชัยต่อสู้ไม่ใช้ความรุนแรงใดๆ แต่เป็นอหิงสาโดยไม่ใช้ความรุนแรง ทำให้ครูบาศรีวิชัยใช้แนวทางของสันติวิธีประกอบด้วย "ศีลบารมี ทานบารมี ขันติบารมี" มุ่งพัฒนาตนแต่ใส่ใจคนในชุมชน ต่างจากพระวัดป่าทั่วไปมุ่งเฉพาะตนมุ่งนิพพาน แต่ครูบาศรีวิชัยมุ่งทางสังคมที่มีฐานของการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน


               
3)อาจารย์ณัฐพงศ์ ดวงแก้ว ผู้เขียนหนังสือเรื่องครูบาคติใหม่ กล่าวประเด็นสำคัญว่า โดยเริ่มต้นจากการศึกษาคูบาสมัยใหม่ พบว่า แท้จริงรัฐสมัยนั้นกลัวเพราะครูบาศรีวิชัยมีมวลชนจำนวนมาก มวลชนศรัทธาครูบาศรีวิชัยมากกว่าศรัทธารัฐ จึงต้องจัดการทุกรูปแบบ ถือว่าเป็นเหตุผลใต้ภูเขาน้ำแข็งอย่างแท้จริง แต่ครูศรีวิชัยใช้เครื่องมือสันติวิธี 


        
ศ.เกียรติคุณ ดร. ธเนศวร์ เจริญเมือง คณะรัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ประเด็นสำคัญว่า  การเสวนาทางวิชาการในครั้งนี้ 6 สะท้อนประเด็น 1)ศาสนา เป็นการเสนอความเชื่อความศรัทธา ซึ่งมีความหลากหลายอย่างมาก 2)นิกาย เกิดขึ้นระหว่างมหานิกายและธรรมยุติ ผู้นำศาสนาเกิดขึ้นระหว่างการเมืองกับศาสนา สองนิกายอยู่ร่วมกันได้ 3)ศาสนากับการเมือง พุทธแบบล้านนาจึงมีความแตกต่างกับพุทธแบบในเมืองหลวง ซึ่งชื่อเสียงของครูบาศรีวิชัยโด่งดังนำไปสู่ความขัดแย้ง 4)ความมุ่งมั่นของครูบาศรีวิชัยทั้งปริยัติและปฏิบัติ ทำให้ปะทะกันระหว่างการปฏิบัติและไสยศาสตร์  5)โลกหลากหลาย การกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น การพัฒนาศาสนา ซึ่งศาสนามีบทบาทสำคัญในการพัฒนาท้องถิ่น จะปฏิรูปศาสนาอย่างไร  6)รณรงค์ให้ครูบาศรีวิชัย เป็นบุคคลสำคัญ คนมุ่งขอพรครูบาศรีวิชัยแต่เราจะยกระดับครูบาศรีวิชัยให้สู่ปัญญาอย่างไร ? 

 

ช่วงท้าย พระครูธีรสุตพจน์ (พระมหาสง่า) เจ้าอาวาสวัดผาลาด เป็นประธานกล่าวปิดการเสวนาทางวิชาการ โดยสรุปสาระสำคัญว่า เราจะให้ครูบาศรีวิชัยเป็นคนสำคัญของโลกได้อย่างไร ? เราอาจจะมองหลายมิติของครูบาศรีวิชัยเช่น ขัดแย้ง มหัศจรรย์ แต่สิ่งที่ครูบาศรีวิชัยมุ่งมั่นมากคือเส้นทางบุญกุศล ซึ่งวิหารแห่งนี้คือครูบาศรีวิชัย จบความขัดแย้งที่นี่ วัดนี้เป็นวัดที่ครูบาศรีวิชัยอยู่จำพรรษายาวนานมากที่สุด         

หน้าแรก » การศึกษา