วันศุกร์ ที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2568 23:06 น.

การศึกษา

จุฬาฯ จับมือ สสส. ดันโครงการ "เมืองเดินได้ เมืองเดินดี" กระตุ้นเศรษฐกิจ ฟื้นคุณภาพชีวิตคนเมือง

วันศุกร์ ที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2567, 17.22 น.

จุฬาฯ จับมือ สสส. ดันโครงการ "เมืองเดินได้ เมืองเดินดี" กระตุ้นเศรษฐกิจ ฟื้นคุณภาพชีวิตคนเมือง

         

 

ศูนย์ออกแบบและพัฒนาเมือง ศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านยุทธศาสตร์เมือง (Urban Design and Development Center, Center of Excellence in Urban Strategies, หรือ UDDC-CEUS) ภาควิชาการวางแผนภาคและเมือง คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมมือกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ออกแบบโครงการ "เมืองเดินได้-เมืองเดินดี" ใช้ดัชนี GoodWalk Score เลือกพื้นที่นำร่อง พัฒนาเป็นย่านเดินได้ เดินดี ในกรุงเทพ และอีกหลายเมืองทั่วประเทศ มั่นใจเมืองเดินได้จะช่วยลดมลภาวะ กระตุ้นเศรษฐกิจชุมชนและการท่องเที่ยว เสริมสร้างคุณภาพชีวิตและสุขภาวะคนเมือง

 

 

รองศาสตราจารย์ ดร.นิรมล เสรีสกุล ผู้อำนวยการศูนย์ UDDC-CEUS จุฬาฯ กล่าวถึงโครงการฯ ในงาน "GOODWALK FORUM THAILAND 2023 ก้าวสู่ทศวรรษแห่งการพัฒนาเมือง ด้วยยุทธศาสตร์เมืองเดินได้-เมืองเดินดี" ว่า “เมืองเดินได้ เมืองเดินดี” ไม่ใช่แค่เรื่องปรับปรุงคุณภาพทางเท้า หรือขยายทางเท้า แต่เป็นยุทธศาสตร์สำคัญในการพัฒนาเมืองของประเทศไทย ที่ตอบโจทย์ความท้าทายอันหลากหลายของเมือง ทั้งสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ สังคม สุขภาวะ การเตรียมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ และสังคมผู้สูงอายุ
ชีวิตดีขึ้นเมื่อ "เมืองเดินได้ เมืองเดินดี"
         

 

งานวิจัยหลายชิ้นในต่างประเทศชี้ให้เห็นว่าโครงสร้างและสภาพแวดล้อมของเมืองส่งผลต่อวิถีชีวิตและกิจกรรมทางกายของคนเรา ซึ่งการพัฒนาเมืองให้เป็น "เมืองเดินได้-เมืองเดินดี" นั้นมีประโยชน์หลายประการ ได้แก่

 

•    ผู้คนสุขภาพดีขึ้น ถ้าย่านที่อยู่นั้นดี มีพื้นที่ที่สามารถเดินได้สะดวก ปลอดภัย ก็จะมีส่วนสร้างแรงจูงใจให้ผู้คนออกมาเดินและทำกิจกรรมทางกาย ซึ่งจะช่วยส่งเสริมสุขภาพของผู้คนให้ดีขึ้น

 

 

•    เศรษฐกิจดีขึ้น โดยเฉพาะ SMEs ย่านชุมชนในเมืองที่มีทางเท้าไปถึง จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ กระจายรายได้ของเมืองสู่ผู้ประกอบการขนาดเล็ก (SME) ในย่านนั้น ๆ ซึ่งจะช่วยรักษาทั้งเศรษฐกิจเดิมและเพิ่มเศรษฐกิจใหม่ นอกจากนี้ ราคาที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ในย่านเดินได้จะมีมูลค่าสูงกว่าย่านที่เดินไม่ได้

 

 

•    บ่มเพาะนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์ (cultural creative incubation) เมื่อเมืองเดินได้ เดินดี ผู้คนก็ออกมาทำกิจกรรมในพื้นที่สาธารณะมากขึ้น ดึงดูดกลุ่มผู้มีความสามารถพิเศษและเหล่าศิลปินให้มาแสดงความสามารถ บรรยากาศเช่นนี้จะเป็นแหล่งบ่มเพาะนวัตกรและนวัตกรรมได้เป็นอย่างดี

 

 

•    เกิดพื้นที่ความสัมพันธ์ทางสังคมสำหรับทุกคน (Inclusive Society) เมื่อผู้คนออกมาเดินกันมากขึ้น ก็นำไปสู่การมีปฏิสัมพันธ์กันมากขึ้น เกิดความรู้สึกผูกพันกับถิ่นที่อยู่ของตัวเอง รู้จักคนในละแวกเดียวกัน สร้างความปลอดภัยในชุมชน ส่งเสริมความเท่าเทียมกันในสังคม รวมถึงการช่วยตอบโจทย์ผู้สูงวัย (หัวใจยังแอคทีฟ) ที่จะไม่เหงาติดบ้านอีกต่อไป

 

เมืองเดินได้ เมืองเดินดี เป็นอย่างไร
         

 

รศ.ดร.นิรมล ให้คำนิยามของ เมืองเดินได้ เมืองเดินดี ว่า “เมืองเดินได้” คือพื้นที่หรือย่านของเมืองที่จุดหมายปลายทางในชีวิตประจำวันของผู้คนอยู่ในระยะที่เดินเท้าถึง หรือประมาณ 500-800 เมตร ส่วน “เมืองเดินดี” เป็นเมืองที่มีการออกแบบคุณภาพการเดินให้น่าเดิน เดินสะดวก ปลอดภัย ความกว้างทางเท้าเพียงพอ ไม่มีสิ่งกีดขวาง แสงสว่างเพียงพอ สภาพแวดล้อมเอื้อต่อการเดิน ความร่มรื่นของทางเท้า เป็นต้น ซึ่งปัจจัยเหล่านี้จะเป็นเกณฑ์ในการให้คะแนนและจัดอันดับของเมืองเดินดี"
         

 

โครงการฯ ได้พัฒนาเว็บไซต์ GoodWalk (http://goodwalk.org/) ให้เป็นช่องทางนำเสนอเรื่องราว ข่าวสาร มุมมองเกี่ยวกับเมืองเดินได้ เมืองเดินดี ทั้งในและต่างประเทศ โดยไฮไลต์ของเว็บไซต์คือแผนที่ GoodWalk Score ที่มีการจัดอันดับพื้นที่ "เดินได้" และ "เดินดี" ในกรุงเทพมหานคร และต่างจังหวัด

         

 

สำหรับเกณฑ์ในการวัดและให้คะแนน "เมืองเดินได้" มีการกำหนดแหล่งที่เป็นจุดหมายปลายทางที่เกี่ยวข้องกับการใช้ชีวิตของผู้คนไว้ 6 ข้อ ได้แก่ 1) แหล่งงาน 2) สถานศึกษา 3) อุปโภค-บริโภค 4)นันทนาการ 5) ธนาคาร/ธุรกรรม และ 6) ขนส่งสาธารณะ
         

 

ในกรุงเทพมหานคร พื้นที่ที่ได้ระดับคะแนน "เดินได้" สูงสุด คือ ย่านสยามสแควร์ ข้าวสาร และเขตบางรัก ตามลำดับ และ "ถนนเดินดี" ในกรุงเทพมหานคร ได้แก่ ถนนราชวงศ์ ถนนจักรพงษ์ ถนนลาดหญ้า ซอยสยามสแควร์ 7 ถนนพระราม 1 ฯลฯ
         

 

นอกจากกรุงเทพมหานครแล้ว ยังมีการประเมินค่าการเดินดี ในต่างจังหวัดด้วย เช่น ในจังหวัดเชียงใหม่ ย่านที่เข้าข่ายเดินได้-เดินดี ได้แก่ ย่านช้างเผือก ย่านท่าแพ ตลาดวโรรส เป็นต้น

 


เดินสร้างความเข้าใจ ร่วมสร้าง "เมืองเดินได้-เมืองเดินดี"

 

โครงการฯ ได้ใช้ข้อมูลจากแผนที่ GoodWalk Score ในการเลือกพื้นที่ที่จะพัฒนาอย่างลงลึกให้เป็นรูปธรรม ซึ่งสิ่งที่จะต้องดำเนินการต่อจากนี้ คือการเดินเข้าหาผู้คนที่เกี่ยวข้องเพื่อสร้างความเข้าใจในประโยชน์ของเมืองเดินได้ เมืองเดินดี ที่สำคัญ โครงการฯ เน้นการทำงานร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคีพัฒนา และภาคประชาชนในพื้นที่ ทั้งในเรื่องการสำรวจ และออกแบบพื้นที่ย่านต่าง ๆ ในกรุงเทพฯ และเมืองในจังหวัดอื่น ๆ ให้เป็นพื้นที่หรือย่านเดินได้และเดินดี
ย่านจุฬาฯ - Sandbox เมืองเดินได้-เมืองเดินดี
         

 

คุณอดิศักดิ์ กันทะเมืองลี้ รองผู้อำนวยการศูนย์ออกแบบและพัฒนาเมือง (UDDC-CEUS) จุฬาฯ กล่าวว่า กรุงเทพมหานครมีโอกาสพัฒนาเป็น เมืองเดินได้-เมืองเดินดี สูงมาก นโยบายของผู้ว่ากรุงเทพฯ ทั้งสมัยก่อนหน้าและสมัยปัจจุบัน ให้ความสำคัญกับการขนส่งสาธารณะระบบราง ทำให้คนเดินมากขึ้น แต่การเปลี่ยนกรุงเทพฯ ให้เป็นเมืองเดินได้ทั้งเมืองนั้น เป็นไปได้ยาก จากหลายปัจจุย ทางโครงการฯ จึงใช้แนวคิด "การฝังเข็มเมือง" หรือการพัฒนาพื้นที่ขนาดเล็กเป็นย่าน ๆ ที่เพื่อนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทางกายภาพและสังคมในระดับเมืองใหญ่ และ หนึ่งในย่านที่พร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงคือย่านจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
         

 

จากการศึกษาและสำรวจพื้นที่ พบว่าย่านปทุมวัน สยาม สามย่าน เป็นพื้นที่ที่มีค่าดัชนีเดินได้มากที่สุดในกรุงเทพและประเทศไทย เนื่องจากเป็นย่านที่มีจุดหมายปลายทางในชีวิตประจำวันในระยะที่เดินถึง ไม่ต้องพึ่งรถยนต์ในการเดินทาง ทางโครงการฯ จึงได้ร่วมมือกับหลายภาคส่วนในมหาวิทยาลัย ทำผังแม่บท CU2040 Masterplan: ผังแม่บทจุฬาฯ ศตวรรษที่ 2 "ปรับ-เปลี่ยน-เปิด" เพื่อทุกคน
         

 

รองศาสตราจารย์ ดร.จิตติศักดิ์ ธรรมาภรณ์พิลาศ รองอธิการบดี ด้านการจัดการทรัพย์สินและกายภาพ จุฬาฯ กล่าวถึงการดำเนินการให้จุฬาฯ เป็นพื้นที่เดินได้-เดินดี ว่า จุฬาฯ เป็น sandbox นำร่องที่สำคัญ มีการทำทางเท้าที่มีหลังคาคลุมเชื่อมต่ออาคารต่าง ๆ มีการใช้รถบัสไฟฟ้า ตุ๊กตุ๊กไฟฟ้า มีระบบ car sharing และ bike sharing ที่ไม่ก่อให้เกิดรอยเท้าคาร์บอนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อส่งเสริมการเชื่อมต่อการเดินทางตั้งแต่ต้นทางและปลายทาง (First and Last Mile Connectivity)"
         

 

นอกจากนี้ จุฬาฯ ยังผลักดันให้พื้นที่สยามแสควร์ สวนหลวง สามย่าน เป็นย่านที่ทั้งเดินได้และเดินดี ไม่ว่าจะเป็นการปรับปรุงทางเท้า โครงสร้างกันแดดกันฝน การเชื่อมต่อพื้นที่โดยรอบ การสร้างจุดชะลอความเร็วรถยนต์ ตลอดจนการปิดถนนบริเวณสยามแสควร์ เป็น walking street ที่ส่งเสริมการเดินเท้าไปพร้อม ๆ กับกิจกรรมนันทนาการต่าง ๆ

 

เดิน เปลี่ยนเมือง
         

นอกจากย่านจุฬาฯ แล้ว ทีมโครงการฯ ร่วมมือกับกรุงเทพมหานคร ในโครงการกรุงเทพฯ 250 เพื่อพลิกเมืองเก่าให้น่าอยู่ มีประสิทธิภาพ เพื่อให้กรุงเทพเป็นมหานครระดับโลก ฉลองวาระ 250 ปีกรุงเทพฯ ในปี 2575
         

ทีมโครงการฯ ร่วมฟื้นฟู 17 เขตเมืองชั้นในของกรุงเทพฯ หรือคิดเป็น 60% ของกรุงเทพฯ ให้เป็นเมืองเดินได้ ได้แก่ ย่านราชดำเนินกลาง ย่านท่าช้าง-ท่าเตียน ย่านบ้านหม้อ ย่านบางขุนนท์-ไฟฉาย ย่านกะดีจีน-คลองสาน ย่านถนนโยธี-ราชวิถี ย่านชุมชนซอยโปโล-ร่วมฤตี ย่านตลาดน้อย ย่านสะพานปลา-ยานนาวา-ถนนตก ย่านวงเวียนใหญ่ และฟื้นฟูเมืองโซนที่อยู่อาศัยในย่านจรัญสนิทวงศ์ ยานาวา-บางคอแหลม
         

นอกจากนี้ ยังได้ร่วมฟื้นฟูเมืองโซนประวัติศาสตร์รัตนโกสินทร์ และธนบุรี และเมืองโซนกลางพาณิชยกรรมปทุมวัน-บางรัก และพาณิชยกรรมตากสิน และยังมีโครงการพัฒนาทางเดินริมน้ำต่อเนื่องในย่านกะดีจีน โครงการสะพานเขียวกรุงเทพฯ และแผนพัฒนาพื้นที่หรือย่านโดยรอบ ที่เชื่อมต่อระบบรางและขนส่งสาธารณะร่วมกับกรุงเทพมหานครด้วย
         

อีกหนึ่งจุดสำคัญที่ขณะนี้ ทางโครงการฯ และกรุงเทพมหานคร กำลังสำรวจคือย่านราชวิถี -โยธี เพื่อทำทางเดินยกระดับ Sky walk เชื่อมต่อพื้นที่ให้บริการทั้งสองฝั่งถนนและย่านโดยรอบ

เดินหน้าโปรโมทการท่องเที่ยวด้วยวิถี "เมืองเดินได้-เมืองเดินดี"
         

ทีมวิจัยของโครงการฯ ร่วมมือกับหน่วยงานส่วนท้องถิ่นที่มีความเข้าใจเมือง ลงสำรวจพื้นที่พิจารณาจุดขายและจุดแข็งของแต่ละเมือง รวมถึงทำประชาคมเพื่อรับฟังเสียงจากคนในพื้นที่  จากนั้นจึงร่วมออกแบบเมืองเชื่อมต่อการเดินเท้าให้กลายเป็นเมืองเดินได้-เมืองเดินดี โดยแบ่งออกเป็นเส้นทางมรดกวัฒนธรรม เส้นทางเศรษฐกิจ เส้นทางการเรียนรู้ และเส้นทางสีเขียว เพื่อสร้างสุขภาวะที่ดีและกิจกรรมทางสังคมให้กับคนในชุมชน
         

ตลอด 9 ปีที่ผ่านมา โครงการฯ ได้ร่วมพัฒนาเมืองรอง 33 เมืองในแต่ละภูมิภาคร่วมกับหน่วยงานส่วนท้องถิ่น เพื่อส่งเสริมสุขภาวะ สังคม ส่งเสริมเศรษฐกิจ พัฒนาธุรกิจรายย่อยของย่าน พัฒนาสู่เมืองเดินได้-เดินดี และตอบโจทย์ของแต่ละเมืองได้มากที่สุด แต่สิ่งที่ยังเป็นโจทย์ท้าทายคือมุมมองของหน่วยงานภาครัฐ
         

"หน่วยงานราชการยังไม่เห็นและยอมรับให้แนวทาง เมืองเดินได้ เมืองเดินดี ให้เป็นการพัฒนาเมืองในประเทศไทย ทำให้ไม่มีการจัดสรรงบประมาณเพื่อใช้ในการขับเคลื่อนเมืองเดินได้-เมืองเดินดี ส่วนใหญ่ในการพัฒนาเมืองยังเป็นเรื่องงบทำถนน งบปรับปรุงถนน" รศ.ดร.นิรมล กล่าว
         

อย่างไรก็ตาม ศูนย์ UDDC-CEUS และภาคีพัฒนา ยังคงเดินหน้าผลักดันให้แนวคิดการพัฒนาเมืองเดินได้-เดินดี เป็นยุทธศาสตร์การพัฒนาเมืองของประเทศไทยต่อไป

 

หน้าแรก » การศึกษา