วันอาทิตย์ ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2568 18:22 น.

การศึกษา

114 ปี กรมศิลปากรเดินหน้าเปลี่ยนผ่านจากยุคแห่งการอนุรักษ์สืบทอด สู่การต่อยอดและพัฒนา

วันพฤหัสบดี ที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2568, 22.18 น.

114 ปี กรมศิลปากรเดินหน้าเปลี่ยนผ่านจากยุคแห่งการอนุรักษ์สืบทอด สู่การต่อยอดและพัฒนา

 

 

นายพนมบุตร จันทรโชติ อธิบดีกรมศิลปากร แถลงการเปลี่ยนผ่านจากยุคอนุรักษ์สืบทอดสู่การต่อยอดพัฒนา เนื่องในโอกาส 114  ปี แห่งการสถาปนากรมศิลปากร พร้อมเปิดตัวของที่ระลึกจากต้นทุนทางวัฒนธรรม  ณ พระที่นั่งอิศราวินิจฉัยพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร

 

อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า นับแต่พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้จัดตั้งกรมศิลปากร เมื่อวันที่  27  มีนาคม พุทธศักราช 2454  เพื่อการอนุรักษ์ และสืบทอดมรดกศิลปวัฒนธรรมสาขาต่าง ๆ ของชาติ ตลอดเวลาที่ผ่านมา กรมศิลปากร ได้มีการปรับเปลี่ยนและพัฒนาแนวทางการดำเนินงานให้สอดคล้องกับยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงไป สร้างการมีส่วนร่วมของประชาชน มีการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้อย่างเหมาะสม มุ่งเน้นการอนุรักษ์ สืบทอด และนำมรดกทางวัฒนธรรมมาสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ เพื่อประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศ ในโอกาส 114 ปี แห่งการสถาปนากรมศิลปากร จึงถือเป็นอีกก้าวย่างสำคัญที่จะเกิดการเปลี่ยนผ่านจากการอนุรักษ์ สืบทอด สู่ยุคแห่งการต่อยอดและพัฒนา โดยมีการดำเนินภารกิจสำคัญ ดังนี้

 

 

              

พัฒนาโรงละครแห่งชาติ ตามมาตรฐานโรงละครระดับนานาชาติ ทัดเทียมกับอารยประเทศให้เป็นโรงละครที่งดงามสมเกียรติภูมิของประเทศชาติ ซึ่งจะแล้วเสร็จในปีนี้ และได้เตรียมจัดการแสดงเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่ในการกลับมาของโรงละครแห่งชาติ ,   เปิดแหล่งเรือจมพนม-สุรินทร์ จังหวัดสมุทรสาคร ให้เป็นแหล่งเรียนรู้ใหม่ เชื่อมโยงกับแหล่งเรียนรู้และแหล่งท่องเที่ยวอื่น ๆ ที่อยู่ใกล้เคียง พัฒนาเป็นเส้นทางท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม เพื่อเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับท้องถิ่น , ศึกษาเรื่องคนก่อนประวัติศาสตร์ในประเทศไทย จากยุคบุกเบิกสู่ยุคแห่งการต่อยอดและพัฒนา โดยนำเทคโนโลยีและการประยุกต์ศาสตร์ต่าง ๆ เข้ามาใช้ ทำให้องค์ความรู้ด้านโบราณคดียุคก่อนประวัติศาสตร์ของไทยก้าวหน้าและทันสมัยขึ้น พัฒนาแหล่งโบราณคดียุคก่อนประวัติศาสตร์เป็นแหล่งเรียนรู้ให้ทุกคนได้ภาคภูมิใจในพัฒนาการอันยาวนานของผืนแผ่นดินนี้

              

จัดทำหลักสูตรประวัติศาสตร์ท้องถิ่น และหนังสือคู่มือท้องถิ่นของเรา เพื่อให้เด็กและเยาวชนได้รับรู้เรื่องราวท้องถิ่นของตนเอง สร้างความรัก ผูกพัน และความภาคภูมิใจในบ้านเกิด ซึ่งประสานสอดคล้องกับภารกิจของกรมศิลปากร , ศิลปากรสัญจร เผยแพร่องค์ความรู้มรดกศิลปวัฒนธรรมของชาติ สู่การส่งเสริมการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ผลักดันให้คุณค่าของมรดกศิลปวัฒนธรรมกลายเป็นยุทธศาสตร์และทุนทางสังคมที่ช่วยสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจแก่ประเทศชาติ  ,  สถานีดิจิทัลศิลปวัฒนธรรม กรมศิลปากร รวบรวมบริการด้านดิจิทัลของกรมศิลปากรไว้ในที่เดียว เพิ่มความสะดวกและการเข้าถึงที่ง่ายขึ้น ประชาชนเข้าถึงบริการและข้อมูลมรดกศิลปวัฒนธรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพ

              

ปรับปรุงพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จ พระราชดำเนินไปทรงเปิด จำนวน ๗ แห่ง เพื่อเทิดพระเกียรติในโอกาสพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงมีพระชนมายุ ๑๐๐ พรรษา ในปีพุทธศักราช ๒๕๗๐ ได้แก่ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เจ้าสามพระยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ รามคำแหง จังหวัดสุโขทัย พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ อู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ขอนแก่น พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เชียงใหม่ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ  นครศรีธรรมราช โดยเพิ่มศักยภาพให้มีการบริการที่ทันสมัย ตอบสนองสังคมอย่างมีส่วนร่วมและสอดรับกับนโยบายของรัฐบาลในการนำทุนทางวัฒนธรรมมาเป็นพลังสร้างสรรค์เศรษฐกิจ

 

จดหมายเหตุไทยในยุคแห่งการต่อยอดและพัฒนา พัฒนาระบบบริหารเอกสาร เพื่อรองรับนโยบายรัฐบาลในการส่งเสริมให้ภาครัฐใช้วิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ในการปฏิบัติราชการตลอดจนการเผยแพร่ความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการปฏิบัติงานบริหารเอกสารแก่หน่วยงานของรัฐอย่างต่อเนื่อง ,  รักษ์รากเหง้า ก้าวสู่อนาคต การเปลี่ยนผ่านของหอสมุดแห่งชาติ พัฒนา ต่อยอดบทบาทของหอสมุดแห่งชาติจาก "แหล่งอนุรักษ์" ไปสู่ "ศูนย์กลางนวัตกรรมทางปัญญาของชาติ" นำเทคโนโลยีดิจิทัลเป็นตัวขับเคลื่อนหลักให้ประชาชนเข้าถึงข้อมูลได้สะดวก รวดเร็ว พร้อมมุ่งต่อยอดการสร้างนวัตกรรมการบริการและการเรียนรู้ด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ ,  เปิดอาคารศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการอนุรักษ์แห่งใหม่ จังหวัดปทุมธานี เสริมศักยภาพในการยกระดับมาตรฐานงานอนุรักษ์โบราณวัตถุและมรดกทางวัฒนธรรมทุกประเภทของประเทศไทยให้ทัดเทียมสากล, สร้างต้นทุนทางวัฒนธรรม วัฒนธรรมนำสู่เศรษฐกิจ พัฒนาผลิตภัณฑ์ต้นแบบที่เป็นอัตลักษณ์ สอดแทรกกลิ่นอายของศิลปกรรมในแหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ จำหน่ายส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์จากทุนทางวัฒนธรรมของชาติ

 

โอกาสนี้ กรมศิลปากรได้เปิดตัวต้นแบบผลิตภัณฑ์ทุนทางวัฒนธรรม โดยสำนักช่างสิบหมู่ ได้ดำเนินโครงการออกแบบและจัดทำของที่ระลึกของกรมศิลปากร ต่อยอดทุนทางวัฒนธรรมจากแหล่งเรียนรู้ ไม่ว่าจะเป็นโบราณสถาน โบราณวัตถุในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ผ่านการศึกษา วิเคราะห์สู่การออกแบบผลิตภัณฑ์ที่มีความสวยงาม คำนึงถึงการใช้ประโยชน์ ถือเป็นการรักษาองค์ความรู้ทางศิลปวัฒนธรมที่กําลังจะสูญหาย และเพิ่มพูนประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญในเชิงช่างและการออกแบบของบุคลากรในสำนักช่างสิบหมู่ ขณะนี้ มีผลิตภัณฑ์ของที่ระลึก จากพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เจ้าสามพระยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ อู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สุพรรณบุรี และจะขยายไปสู่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติในจังหวัดที่มีแหล่งท่องเที่ยวทางศิลปวัฒนธรรมที่สำคัญเพิ่มขึ้น

 

กรมศิลปากรยังคงมุ่งมั่นในการอนุรักษ์ ทำนุบำรุง สืบสานมรดกศิลปวัฒนธรรมของชาติ พร้อมปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลก เป็นการเปลี่ยนผ่านจากยุคอนุรักษ์ สืบทอด สู่การต่อยอดและพัฒนา และคงธำรงรักษามรดกทางวัฒนธรรมของชาติไทยไว้อย่างยั่งยืนมั่นคงสืบไป    

 

   

ส่งข่าวได้ที่  email : saowaporn12345@gmail.com    และ  bat_mamsao@yahoo.com

 

หน้าแรก » การศึกษา