เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2568     หลังจาก พระธรรมวชิรานุวัตร หรือ “เจ้าคุณแย้ม” จ้าอาวาสวัดไร่ขิง จ.นครปฐม เจ้าคณะภาค 14 พร้อมด้วยทนายความ และ คณะพระผู้ติดตามเดินทางเข้าพบ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป. พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. เพื่อเข้ามอบตัวแสดงความบริสุทธิ์ใจ หลังถูกกล่าวหาว่า ทุจริตยักยอกเงินวัดจำนวน 300 ล้านบาท นั่น

ดร.นิยม เวชกามา ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ระบุว่า ตนเองในฐานะชาวพุทธเป็นห่วงเรื่องนี้เป็นอย่างมาก เนื่องจาก พระธรรมวชิรานุวัตร หรือ เจ้าคุณแย้ม ที่ผ่านมาบำเพ็ญตนเป็นประโยชน์ต่อคณะสงฆ์ พระพุทธศาสนา เป็นอย่างมาก เอาเงินที่โยมบริจาคไปสร้างโรงพยาบาล สร้างมหาวิทยาสงฆ์ สร้างโรงเรียน สงเคราะห์คนสูงวัย ให้ทุนการศึกษาเด็ก และท่านถือว่าพระมหาเถระระดับเจ้าคณะภาคและมีสมณศักดิ์สูง

เรื่องนี้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ซึ่งมีสำนักนิติกรอยู่ ต้องเข้าไปดูแลท่านด้วย อย่าปล่อยให้พระท่านเดียวดาย หน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติต้องดูแลคุ้มครองพระพุทธศาสนาและต้องดูแลพระสงฆ์ด้วย สงสารท่าน จะผิดจะถูกก็ว่ากันไปตามกฎหมาย  ณ ตอนนี้เจ้าคุณแย้ม ท่านยังบริสุทธิ์อยู่ เพราะศาลยังไม่ได้ติดสิน คณะสงฆ์และสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ต้องมีตั้งคณะกรรมการขึ้นมาดูแลพระสงฆ์ที่ต้องคดีแบบนี้ ไม่อยากเห็นพระที่ต้องคดี โดดเดียวเดียวดาย..”

“แหล่งข่าว” จากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ระบุว่า เมื่อเช้าจากวัดไร่ขิงได้ประสานมาเบื้องต้น บ้างแล้ว พระธรรมวชิรานุวัตร ท่านมีทนายของท่านเอง  ซึ่งทางสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้แนะนำขบวนการตามกฎหมายรวมทั้งสิทธิไป 4-5 ข้อ 

“โดยส่วนตัวเชื่อว่าทางศาลคงเมตตาให้ประกันตัวออกมา เพราะคดีมันบางเรื่องอาจจะไม่ใช่อย่างที่สื่อสารมวลชนเสนอข่าวออกไป และท่านเป็นพระผู้ใหญ่ ซึ่งเดินทางไปพบตำรวจเอง ไม่คิดหลบหนี  เรื่องนี้ทางสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติมิได้นิ่งนอนใจ เราได้ประสานกับเจ้าคณะปกครองและตำรวจอย่างใกล้ชิดอยู่แล้ว..”