การศึกษา
มข.และทีมร่วมพัฒนา “ผลิตภัณฑ์หญ้าแฝกในการควบคุมไส้เดือนฝอยรากปม”
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่

มข.และทีมร่วมพัฒนา “ผลิตภัณฑ์หญ้าแฝกในการควบคุมไส้เดือนฝอยรากปม”
นอกจากสภาพอากาศที่แปรปรวนแล้ว อีกสิ่งที่เกษตรกรต้องต่อสู้เพื่อผลผลิตที่ดูแลมาโดยตลอด คือ ศัตรูพืช ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมานี้ “ไส้เดือนฝอยรากปม” กลายเป็นศัตรูพืชที่สร้างผลกระทบให้เกษตรกรเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มผู้ปลูกพริกและอาวุธหนึ่งที่เกษตรกรเลือกจะกำจัดมันคือสารเคมี แต่วันนี้นักวิจัยมหาวิทยาลัยขอนแก่นได้คิดค้น “ผลิตภัณฑ์หญ้าแฝกในการควบคุมไส้เดือนฝอยรากปม” ตัวช่วยเกษตรกรกำจัดศัตรูพืชแบบปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ
“ไส้เดือนฝอยเป็นศัตรูพืชที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า แต่ส่งผลกระทบต่อพืชผลทางการเกษตรทำให้เกิดโรครากปมและกำลังแพร่ระบาดในหลายพื้นที่ ปัจจุบันมีการแก้ปัญหาด้วยสารเคมีนั้นพบว่ากลุ่มของยาฆ่าแมลงเป็นส่วนใหญ่ถูกนำมาใช้ แต่จะดีไหมถ้ามีผลิตภัณฑ์ที่เป็นอินทรีย์และปลอดภัยต่อทั้งเกษตรกรและสิ่งแวดล้อมมาใช้แก้ปัญหานี้แทน”
ผศ.ดร.กานต์สิรี จินดาปัณณาพัฒน์ สาขาโรคพืชวิทยา คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น บอกเล่าจุดเริ่มต้นของการเป็นที่แรกของไทยในการทำวิจัยและพัฒนา “ผลิตภัณฑ์หญ้าแฝกในการควบคุมไส้เดือนฝอยรากปม” ได้สำเร็จ พร้อมอธิบายเพิ่มเติมว่า เมื่อไส้เดือนฝอยเข้ามาโจมตีรากของพืชผลจะส่งผลให้รากเกิดเป็นปมจนไม่สามารถดูดซึมน้ำและสารอาหารได้อย่างเต็มที่จนทำให้ใบเหลืองและต้นแคระแกร็น ส่งผลต่อผลผลิตที่ลดลง กระทบรายได้เกษตรกรเป็นห่วงโซ่
“ปัจจุบันไส้เดือนฝอยรากปมที่ระบาดหนักต่อเนื่อง คือ Meloidogyne enterolobii ซึ่งเป็นชนิดที่แพร่ระบาดได้ทั้งพื้นที่เขตร้อนและเขตกึ่งร้อนเบื้องต้น พบทั้งในพริก มะเขือเทศ หัวหอม ไปจนถึงไม้ยืนต้น เช่น ฝรั่ง หม่อน และ พริกไทย โดยพบการรายงานปัญหาในหลายพื้นที่ตั้งแต่อุบลราชธานี ศรีสะเกษ รวมถึงขอนแก่นด้วยเช่นกัน ทำให้มีการเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่องไม่เพียงเฉพาะในประเทศไทยแต่ได้รับความสนใจไปทั่วโลก”
เมื่อเล็งเห็นถึงปัญหาแล้ว ทางทีมวิจัยภายใต้ทุน สวก.จึงได้นำ “หญ้าแฝก”หญ้าอนุรักษ์ดินและน้ำในโครงการพระราชดำริ มาศึกษาร่วมกับนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยแม่โจ้ โดยการศึกษาสารสำคัญอย่าง Phenolic Content ในใบหญ้าแฝกเพื่อนำมาพัฒนาผลิตภัณฑ์ ก่อนจะนำมาทดลองกับไส้เดือนฝอยซึ่งศึกษาร่วมกันกับผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เมื่อได้ผลการศึกษาวิจัยต่าง ๆ มาแล้วก็นำไปสู่การพัฒนาผลิตภัณฑ์โดยความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยขอนแก่นและมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
ขณะที่ รศ.ดร. ดวงกมล ศักดิ์เลิศสกุล สาขาวิชาเทคโนโลยีเภสัชกรรม คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ผู้ร่วมวิจัย เปิดเผยว่า ในเฟสแรกทีมวิจัยได้มีการนำใบหญ้าแฝกไปต้มเพื่อนำน้ำมาฉีดพ่นให้กับพืชผลเลย แต่พบจุดอ่อนว่า ต้องใช้หญ้าแฝกและน้ำในปริมาณมาก รวมทั้งมีอุปสรรคด้านการเก็บรักษา จึงได้มีการพัฒนา “ผลิตภัณฑ์หญ้าแฝกในการควบคุมไส้เดือนฝอยรากปม สูตรที่ 1” ขึ้น โดยควบคุมคุณภาพและมาตรฐานตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ เริ่มตั้งแต่นำใบหญ้าแฝกมาต้ม ก่อนจะระเหยน้ำออก และนำเข้าสู่เครื่องอบแห้งแบบพ่นฝอย (Spray dryer) จนนำมาสู่ผลิตภัณฑ์ในรูปแบบผงละลายน้ำที่เกษตรกรสามารถใช้งานได้เอง เพียงแค่ใช้ผลิตภัณฑ์ 1 ซอง (50 กรัม) ผสมน้ำ 1 ลิตร ฉีดพ่นโคนต้นพริกที่มีอายุมากกว่า 1 เดือนได้ถึง 200 ต้น โดยสามารถฉีดรอบรากได้ทุก 3 สัปดาห์ เพื่อกำจัดและป้องกันไส้เดือนฝอยรากปม
“งานวิจัยของเราทดสอบทั้งในระบบปฏิบัติการ ต่อด้วย Green House และลงแปลงเกษตรกรจริงที่ตำบลซำสูง เนื่องจากเป็นพื้นที่ปลูกพริกของขอนแก่น โดยทดสอบกับพื้นที่ 3 แปลงในต่างหมู่บ้าน เพื่อเก็บข้อมูลเกี่ยวกับประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ในดินที่แตกต่างกัน ซึ่งฟีดแบ็กจากเกษตรกรเป็นไปในทิศทางที่ดี มีผลิตผลเพิ่มมากขึ้น”
อย่างไรก็ตาม ต่อมาทีมวิจัยได้พัฒนา “ผลิตภัณฑ์หญ้าแฝกในการควบคุมไส้เดือนฝอยรากปม สูตรที่ 2” สูตรรองก้นหลุม ชนิดผงปลดปล่อยสารช้า (Slow Release Product) โดยสามารถใช้งาน 1 ซอง (2 กรัม) ใช้รองก้นหลุมพร้อมปลูกสำหรับต้นพริก 2 ต้น หรือ 1 ช้อนชาต่อหลุมปลูก เพื่อควบคุมและป้องกันการเข้าทำลายของไส้เดือนฝอยรากปมได้ประมาณ 1 เดือนหลังการย้ายปลูก
“สำหรับสูตรที่ 2 นี้ จะช่วยยืดระยะคลุมรากให้มากขึ้น ปริมาณการใช้ลดลง ลดความถี่ในการใช้งานผลิตภัณฑ์น้อยลงเฉลี่ย 30 วันจึงจะใช้ 1 ครั้ง ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนของเกษตรกรลงไปได้ด้วย ทำให้เห็นว่าผลิตภัณฑ์ของเรามีคุณภาพและได้รับการรับรองความปลอดภัยจากสถานสัตว์ทดลองเพื่อการวิจัย มหาวิทยาลัยนเรศวร”
อย่างไรก็ตาม ผศ.ดร.กานต์สิรี ทิ้งท้ายว่า ในอนาคต “ผลิตภัณฑ์หญ้าแฝกในการควบคุมไส้เดือนฝอยรากปม” จะมีการพัฒนาต่อยอดการใช้งานทั้งปริมาณและประสิทธิภาพในพืชผลอื่น ๆ เพิ่มเติม โดยเฉพาะเมล่อนที่มีผู้สนใจติดต่อเข้ามาแล้ว ขณะเดียวกันทางทีมวิจัยยังเล็งเห็นถึงโอกาสในการพัฒนาไปสู่ระดับอุตสาหกรรมเพื่อให้เกษตรกรมีผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัยทั้งสำหรับผู้ใช้ พืชผล และสิ่งแวดล้อมที่เข้าถึงได้ทั้งในด้านปริมาณและราคาต่อไปในอนาคต สำหรับผู้ที่สนใจใช้งานหรือร่วมพัฒนาในระดับอุตสาหกรรมสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ผศ.ดร.กานต์สิรี จินดาปัณณาพัฒน์ 043-202-360 หรือ Kansji@kku.ac.th
ส่งข่าวได้ที่ email : saowaporn12345@gmail.com และ bat_mamsao@yahoo.com
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่
หน้าแรก » การศึกษา
Top 5 ข่าวการศึกษา ![]()
- ตร.ยันไม่ได้บุกค้นกุฏิเจ้าอาวาสวัดประยูรฯ แค่พูดคุยขอข้อมูลการเงิน พร้อมรับหนังสือธรรมะไปศึกษา 17 ก.ค. 2568
- ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ ชูแนวคิด “Moral‑Tech Mindset” ยกเครื่องการศึกษาไทย สู่สังคมเทคโนโล‑จริยธรรม 17 ก.ค. 2568
- สสส.-สถาบันวิจัยประชากรฯ ม.มหิดล เปิดตัว "รายงานสุขภาพคนไทย 2568" ชี้ 4 ปรากฏการณ์ใหญ่: เกิดน้อยกู่ไม่กลับ - สุขภาพจิตถดถอย – บุหรี่ไฟฟ้าระบาดหนัก - หนี้ครัวเรือนพุ่ง 17 ก.ค. 2568
- KU - CPF ติดอาวุธนิสิตก้าวสู่มืออาชีพ คิกออฟ “KU Alumni Mentoring Program” 17 ก.ค. 2568
- ราชมงคลพระนคร จัดอบรมเตรียมแผนฉุกเฉิน และความพร้อมรับมือเหตุแผ่นดินไหว 17 ก.ค. 2568
ข่าวในหมวดการศึกษา ![]()
"ข้าวทุกเม็ดคือศรัทธา" เจ้าคุณหรรษาเตือนใจภิกษุ พึงสำรวมวินัยก่อนออกบิณฑบาต 09:33 น.
- ถอดบทเรียนให้แล้วกรณีสีกากอล์ฟ! ดำเนินการเลยทางออกเพื่อการปฏิรูปคณะสงฆ์ไทย 14:49 น.
- สมเด็จพระสังฆราช ประทานพระคติธรรม วันงดดื่มสุราแห่งชาติ ละเว้นสิ่งมึนเมาที่ตั้งแห่งความประมาท 13:17 น.
- พิธีสวนสนามลูกเสือแห่งชาติ ครบรอบ 114 ปี ยิ่งใหญ่ เด็กกว่า 10,000 คนร่วมงาน ลูกเสือ-เนตรนารีทั่วประเทศ แสดงทักษะความสามารถต่อหน้าผู้แทนพระองค์ 11:14 น.
- วว. จับมือ มรภ.ราชนครินทร์/ มรภ.กำแพงเพชร ลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกในชุมชน 06:01 น.