วันศุกร์ ที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2568 23:00 น.

การศึกษา

กสศ. เปิดแคมเปญ “เพราะทุกที่คือโรงเรียน” รวมพลังหุ้นส่วนการศึกษา ช่วยเด็กหลุดระบบการศึกษา ยกระดับการเรียนรู้แบบยืดหยุ่นทั่วประเทศ

วันพุธ ที่ 04 มิถุนายน พ.ศ. 2568, 15.01 น.

กสศ. เปิดตัวแคมเปญ “เพราะทุกที่คือโรงเรียน” จับมือ ศธ. เอกชน ท้องถิ่น ร่วมพลิกโฉมการศึกษาไทย ด้วยรูปแบบการเรียนรู้ยืดหยุ่น ทุกที่คือโรงเรียน   รองรับเด็กและเยาวชนหลุดจากระบบการศึกษากว่า 8.8 แสนคน เปิดรับความร่วมมือ “หุ้นส่วนการศึกษา”  สร้างโอกาสใหม่ให้อนาคตเด็กไทย และเศรษฐกิจของประเทศ

วันที่ 4 มิถุนายน 2568 กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) จัดงานแถลงข่าว และกิจกรรมเปิดตัวแคมเปญ “เพราะทุกที่คือโรงเรียน” ณ ลานกิจกรรม ชั้น G ศูนย์การค้าสามย่านมิตรทาวน์ พร้อมชวนภาคีเครือข่าย ภาครัฐ เอกชน ชุมชน และสื่อมวลชน รู้จัก และร่วมสร้าง “โรงเรียนในความหมายใหม่ ” ที่ออกแบบขึ้นเพื่อรองรับเด็กและเยาวชนที่หลุดจากระบบการศึกษา ให้สามารถกลับมาเรียนรู้ในบริบทที่เหมาะสมกับชีวิตของตนเองได้
 
ดร.ไกรยส ภัทราวาท ผู้จัดการ กสศ. กล่าวว่า ปัจจุบัน ประเทศไทยมีเด็กและเยาวชนที่หลุดจากระบบการศึกษาอายุระหว่าง 3-24 ปี จำนวน 880,463 คน  ลดลงจากปี 2567 ซึ่งมีอยู่ราว 1.02 ล้านคน แต่ยังเป็นตัวเลขที่สะท้อนปัญหาเชิงโครงสร้างอย่างชัดเจน
 
จากการสำรวจของ กสศ. เด็กและเยาวชนจำนวนมากที่หลุดจากระบบการศึกษา ไม่มีเป้าหมายทางการศึกษาและอาชีพที่ชัดเจน ร้อยละ 78.23 ของกลุ่มตัวอย่าง  29,452 คน ไม่มีแผนการศึกษาในอนาคต ขณะที่ร้อยละ 49.42 แสดงความต้องการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะอาชีพ มากกว่าการเรียนแบบวิชาการในระบบเดิม
 
แคมเปญ “เพราะทุกที่คือโรงเรียน” เป็น วิสัยทัศน์ใหม่ร่วมของภาคส่วนต่าง ๆ เพื่อแก้ปัญหาเด็กและเยาวชนหลุดจากระบบการศึกษา ด้วยรูปแบบ การเรียนรู้ที่ยืดหยุ่น (Flexible Learning) ที่สามารถเกิดขึ้นได้ในทุกสถานที่ ทุกเวลา โดยเน้นการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน ร่วมจัดการเรียนรู้ เด็กไม่จำเป็นต้องเรียนเฉพาะในโรงเรียนแบบเดิม แต่สามารถเรียนรู้ผ่านพื้นที่เรียนรู้หลากหลาย การทำมาหาเลี้ยงชีพ  กิจกรรมในชีวิตจริง บริบทของชุมชน หรือแม้แต่ในสถานประกอบการ นอกจากนี้ยังเปิดโอกาสให้ทุกคนสามารถเป็นครูได้    
   
“เราไม่ได้แค่ดึงเด็กกลับเข้าสู่ระบบเดิม แต่เรากำลังร่วมกันสร้างระบบใหม่ที่ยืดหยุ่นตอบโจทย์ชีวิตของเด็กจริง ๆ” ดร.ไกรยส กล่าวถึงเป้าประสงค์ของโครงการพร้อมย้ำว่า เป้าหมายของการศึกษาคือการเปิดโอกาสให้เด็กเป็นเจ้าของการเรียนรู้ของตนเอง ไม่ใช่เพียงผู้รับความรู้แบบเดิม
   
 
ภายในงาน ผู้ร่วมกิจกรรมยังได้สัมผัสกับห้องเรียนหลากหลายรูปแบบที่เกิดจากการร่วมมือกันระหว่าง กสศ. และภาคีเครือข่าย ทั้งภาครัฐ เอกชน และชุมชน ภายใต้แนวคิด ทุกคนสามารถเป็นครูได้ และทุกที่คือโรงเรียน ได้แก่ เช่น โรงเรียนหมอลำศึกษานิวเจน    โรงเรียนนักขายออนไลน์  Shopee  โดย Sea Thailand  โรงเรียนผู้ประกอบการ ของ CJ MORE  โรงเรียนสร้างนักข่าวของ The reporters   โรงเรียนนอกกรอบของ KFC   โรงเรียน ChickLab  ฟาร์มไก่โคราช  ของ พลูโตฟาร์ม    โรงเรียนช่างตัดผมมืออาชีพ ของ อบต.หนองสนิท จ.สุรินทร์  เจริญกาแฟและเบเกอรี่  ของโรงเรียนไร่ส้มวิทยา เป็นต้น
 
“เด็กไม่ใช่ปัญหา เด็กคือศักยภาพของประเทศ ถ้าเรายุติปัญหาเด็กหลุดจากระบบการศึกษาได้ เศรษฐกิจไทยจะโตเพิ่มขึ้นอีก 1.7% ของ GDP จากรายได้ตลอดชีวิตที่สูงขึ้นของเด็กเหล่านี้” ดร.ไกรยส ย้ำด้วยความมั่นใจ
 
 
ในโอกาสนี้ กสศ. ได้นำเสนอ 3 ตาข่ายการเรียนรู้หลักเพื่อรองรับเด็กหลุดจากระบบ ได้แก่
1. โรงเรียนที่มีการปรับให้ยืดหยุ่น เช่น 1 โรงเรียน 3 รูปแบบ
2. การศึกษานอกระบบและตามอัธยาศัยผ่านกรมส่งเสริมการเรียนรู้
3. ศูนย์การเรียนโดยสถาบันทางสังคม เช่น มูลนิธิ สมาคม หรือกลุ่มอาชีพ ซึ่งเปิดโอกาสให้ทุกคนเป็นครู เป็นผู้จัดการศึกษาได้
 
ผู้จัดการ กสศ. ระบุว่า ปัจจุบัน นโยบายเรียนฟรี 15 ปี ยังไม่ครอบคลุมศูนย์การเรียนโดยสถาบันทางสังคม ยังไม่ได้รับงบประมาณอุดหนุนรายหัว หรือสิทธิประโยชน์พื้นฐาน เช่น อาหารกลางวัน นม วัคซีน หรือการตรวจสุขภาพ กสศ. จึงเสนอให้มีการสนับสนุนอย่างเท่าเทียมกับโรงเรียนในระบบ รวมถึงเปิดโอกาสให้ภาคเอกชนเข้าร่วมสนับสนุนด้วยสิทธิประโยชน์ทางภาษีเหมือนโรงเรียนอื่น ๆ ปกติ
 
“โรงเรียนของเด็กบางคนอาจไม่มีอาคาร แต่ต้องมีคุณภาพ และต้องได้รับการสนับสนุนอย่างเท่าเทียม” ดร.ไกรยส ย้ำ

ผู้จัดการ กสศ. ยังแสดงความหวังถึงตัวอย่างความสำเร็จที่เกิดขึ้นแล้ว ในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ  จะเป็นแรงบันดาลใจ ให้เกิดเครือข่ายหุ้นส่วนการศึกษาเพิ่มขึ้นเท่าทวีคูณทั่วประเทศ เพื่อสามารถรองรับความต้องการที่หลากหลายของเด็กและเยาวชนที่ยังคงหลุดจากระบบการศึกษาเกือบล้านคนได้  เพราะนี่คือเรื่องฉุกเฉินเร่งด่วน สำหรับอนาคตของประเทศที่หายไป
 
ภาคเอกชน ท้องถิ่น หรือประชาชนทั่วไป สนใจร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนารูปแบบการศึกษายืดหยุ่น หรือเป็นอาสาสมัครในโครงการ “โรงเรียนเคลื่อนที่ Mobile School”  หรือสามารถร่วมบริจาคเพื่อสนับสนุน กสศ. โดยได้รับสิทธิลดหย่อนภาษี 2 เท่า สามารถติดต่อได้ที่กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.)
โทร. 02-079-5475 (ไม่เว้นวันหยุดราชการ)
เว็บไซต์ www.eef.or.th
อีเมล: flexiblelearning@eef.or.th
LINE กสศ.การศึกษายืดหยุ่น
Facebook: กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (EEF Thailand)
 

หน้าแรก » การศึกษา