การศึกษา
นักวิชาการ มธ. หนุน ‘ริบรถ’ เมาแล้วขับ
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่

นักวิชาการ มธ. หนุน ‘ริบรถ’ เมาแล้วขับ
นักวิชาการธรรมศาสตร์ เห็นด้วยกับแนวปฏิบัติฟ้องคดี “เมาแล้วขับ” ของอัยการ หนุนขอให้ศาลสั่งริบรถของกลาง เหตุดื่มแล้วขับขี่สะท้อนเจตนาฝ่าฝืนกฎหมาย ยกเคสฝรั่งเศสก็ทำเช่นนี้ ระบุบังคับใช้กฎหมายจริงจังมีผลดีกว่าการเพิ่มโทษให้รุนแรงขึ้น แนะตำรวจควรติดกล้องขณะปฏิบัติหน้าที่
รศ. ดร.ปกป้อง ศรีสนิท คณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) เปิดเผยว่า เห็นด้วยกับการที่สำนักงานอัยการสูงสุดได้กำหนดแนวทางปฏิบัติในการฟ้องคดีให้พนักงานอัยการขอให้ศาลสั่งริบรถของกลางได้ หากพิจารณาแล้วเห็นว่าพฤติการณ์ของผู้ต้องหาเมาแล้วขับมีลักษณะเป็นการขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น โดยหลักในการริบทรัพย์ที่ใช้ในการกระทำความผิดจะดำเนินการเฉพาะฐานที่ผู้กระทำความผิดได้กระทำโดยเจตนาเท่านั้น ดังนั้นผู้ที่รู้ในเบื้องต้นอยู่แล้วว่าตัวเองเมาเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดแล้วยังไปขับรถ ย่อมแสดงถึงเจตนาอย่างชัดเจนที่จะฝ่าฝืนกฎหมาย โดยหลักการจึงสามารถริบรถได้
“เห็นด้วยหากศาลอาจจะมีคำสั่งริบรถของคนที่เมาแล้วขับ เพราะการริบทรัพย์เป็นการริบเพื่อไม่ให้เขาไปทำผิดอีกในอนาคต แต่โดยหลักการแล้วต้องไม่ใช้การเอามาใช้เป็นกรณีทั่วๆ ไป มันต้องอยู่บนหลักพื้นฐานของการลงโทษที่ได้สัดส่วนและมีเหตุจำเป็น ยกตัวอย่างการริบรถคนเมาแล้วขับในประเทศฝรั่งเศสก็จะริบเฉพาะกรณีร้ายแรง เช่น กระทำผิดซ้ำ หรือเมาแล้วขับจนก่อให้เกิดอุบัติเหตุมีคนตายหรือบาดเจ็บ เป็นต้น” รศ. ดร.ปกป้อง กล่าว
นักวิชาการธรรมศาสตร์ กล่าวว่า การยกระดับมาตรการความรุนแรงทางกฎหมายเพื่อแก้ไขปัญหาเป็นสิ่งที่กระทำได้ แต่ในเชิงทฤษฎีแล้วหากไม่มีการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง แม้กฎหมายจะมีโทษรุนแรงเพียงใดคนก็จะไม่เกรงกลัว ฉะนั้นต่อให้เราเพิ่มโทษริบรถยนต์หรือเพิ่มโทษปรับเป็นร้อยเท่า สองร้อยเท่า แต่ถ้าไม่มีการบังคับใช้กฎหมาย ไม่มีการจับ การปรับจริงๆ หรือยังปรากฏการให้สินบนเจ้าหน้าที่ หรือมีการขอให้ล้มคดี ขอให้ปล่อยตัวคนเมาแล้วขับ ที่สุดแล้วก็จะไม่มีใครเกรงกลัวกฎหมาย ฉะนั้นหัวใจสำคัญของเรื่องนี้จึงไม่ใช่การเพิ่มโทษ แต่อยู่ที่การบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง ดังนั้นควรจะกำหนดให้ตำรวจที่ตั้งด่านติดกล้องขณะปฏิบัติหน้าที่ เพื่อสร้างความโปร่งใสในการทำหน้าที่และคุ้มครองเจ้าหน้าที่ที่สุจริต จะทำให้การบังคับใช้กฎหมายเมาแล้วขับมีประสิทธิภาพมากขึ้น
รศ. ดร.ปกป้อง กล่าวต่อไปถึงกรณีผู้กระทำความผิดโดยไม่ได้ใช้รถของตนเองว่า หากมีพบว่าทรัพย์นั้นเป็นของคนอื่นที่ไม่ได้รู้เห็นเกี่ยวกับการกระทำความผิด เจ้าของทรัพย์สามารถขอคืนทรัพย์หรือรถคันดังกล่าวได้ แต่หากบุคลคลผู้เป็นเจ้าของรถให้ยืมรถโดยรู้ว่าผู้ที่ยืมรถมีอาการเมา และจะนำรถของตนไปขับ กรณีเช่นนี้จะสามารถริบรถได้ เพราะถือว่าได้มีส่วนรู้เห็นกับการที่ผู้อื่นเมาแล้วขับ แล้วได้กระทำความผิด รายละเอียดเหล่านี้ คือหลักกฎหมายที่มีอยู่เดิมแล้ว โดยไม่ต้องไปแก้ไข หรือปรับปรุงเพิ่มเติม
ส่งข่าวได้ที่ email : saowaporn12345@gmail.com และ bat_mamsao@yahoo.com
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่
หน้าแรก » การศึกษา
Top 5 ข่าวการศึกษา ![]()
- คณะมนุษยศาสตร์ ม.หอการค้าไทย จัดหลักสูตรรุกหน้าการันตี “เรียนภาษาให้ได้ดี มีรายได้หลักแสน!!” 18 มิ.ย. 2568
- มทร.ธัญบุรี คว้า 12 รางวัลเวทีนวัตกรรมระดับนานาชาติ เซี่ยงไฮ้ 2025 18 มิ.ย. 2568
- เริ่มแล้ว.....ที่แรกจังหวัดลำพูน กิจกรรมขยายผลภูมิปัญญาศิลปินสู่การพัฒนาอาชีพ ระดับภูมิภาค 70 พรรษา สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า “ศิลปินสร้างศิลปิน” ณ หอศิลป์อินสนธิ์ วงค์สาม 18 มิ.ย. 2568
- สุดยิ่งใหญ่ 114 ปี วันคล้ายวันสถาปนาคณะลูกเสือแห่งชาติ 18 มิ.ย. 2568
- ซินโครตรอน เปิดตัว 2 นวัตกรรมล้ำสมัย “เครื่องสังเคราะห์กราฟีน” และ “เครื่องเคลือบฟิล์ม DLC” 18 มิ.ย. 2568
ข่าวในหมวดการศึกษา ![]()
ประกวดสร้างสรรค์ คลิป TikTok “เป็นหนึ่ง ไม่พึ่งยา” 15:28 น.
- "บ้านปลามีชีวิต” ฟื้นทรัพยากรสัตว์น้ำ ฟื้นชีวิตประมงพื้นบ้าน ทะเลสาบสงขลา 11:57 น.
- “รมว.ปุ๋ง” ขับเคลื่อนกิจกรรม “ศิลปินสร้างศิลปิน” สืบสานพระราชปณิธาน ส่งเสริมอนุรักษ์พื้นฟูมรดกภูมิปัญญาของชาติ และหนุน Soft Power 10:59 น.
- 'ณหทัย ทิวไผ่งาม' ลงพื้นที่พะเยา ติดตามภารกิจ Thailand Zero Dropout ชูเมืองแห่งการเรียนรู้ สานพลังทุกภาคส่วนช่วยเด็กนอกระบบ ลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา 09:30 น.
- จุฬาฯ – ไปรษณีย์ไทย เปิดมิติใหม่แห่งการดูแลสุขภาพสัตว์เลี้ยง 09:01 น.