เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 24 มิถุนายน 2568 พระสงฆ์ 3 รูป ได้แก่ พระมหายศวัจน์ จิตตปาโล (ดร.) จากวัดเจริญวราราม จ.สมุทรปราการ, พระสุขสันต์ โพธิรัตโถ (ดร.) จากวัดพุทธโรคยา ประเทศอินเดีย และวัดไพชยนต์พลเสนราชวรวิหาร จ.สมุทรปราการ และ พระสุน ปภัสสโร (ดร.) จากวัดสะพานพระโขนง กรุงเทพฯ ได้เข้าพบ ดร.นิยม เวชกามา หรือ “ดร.มหานิยม” ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (ภายใต้การกำกับของ รศ.ชูศักดิ์ ศิรินิล) ที่ทำเนียบรัฐบาล ฝั่งตึก กพ. เขตดุสิต เพื่อหารือแนวทางสนับสนุนการเผยแผ่พระพุทธศาสนา โดยเฉพาะด้านการฝึกอบรมพระวิปัสสนาจารย์ในระดับชาติและนานาชาติ

พระสงฆ์ทั้ง 3 รูปเสนอว่า แม้ปัจจุบันมีพระสงฆ์ผู้มุ่งมั่นในการปฏิบัติธรรมจำนวนไม่น้อย แต่ยังพบว่าบางรูปมีวัตรปฏิบัติที่ไม่สอดคล้องกับพระธรรมวินัย การฝึกอบรมพระวิปัสสนาจารย์อย่างเป็นระบบจึงถือเป็นแนวทางสำคัญในการยกระดับคุณภาพของพระพุทธศาสนาและสร้างผู้นำจิตวิญญาณในยุคปัจจุบัน

ทั้งนี้ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร) ได้ดำเนินโครงการฝึกอบรมพระวิปัสสนาจารย์มาแล้ว 3 รุ่น ณ มจร วังน้อย มจร วิทยาเขตอุบลราชธานี และวิทยาเขตลำพูน โดยการฝึกอบรมแต่ละครั้งใช้เวลา 15 วัน พระผู้เข้าอบรมต้องผ่านการสอบคัดเลือกตามกระบวนการที่เข้มข้น โดยมี พระครูภาวนาวรบัณฑิต (วิ.ดร.) ผู้อำนวยการส่วนวางแผนและพัฒนาการอบรม สถาบันวิปัสสนาธุระ เป็นผู้รับผิดชอบหลักสูตร

โครงการนี้มีเป้าหมายเพื่อผลิตพระวิปัสสนาจารย์ที่สามารถอบรมธรรมภาคปฏิบัติให้แก่ทั้งนิสิตพระพุทธศาสนาและประชาชนทั่วไป ทั้งนี้จำกัดจำนวนพระภิกษุผู้เข้าอบรมไม่เกิน 100 รูปต่อรุ่น เพื่อให้สามารถควบคุมคุณภาพและเน้นการปฏิบัติอย่างเข้มข้น

แม้ผลการดำเนินการใน 3 รุ่นที่ผ่านมาจะประสบความสำเร็จและสร้างพระวิปัสสนาจารย์ได้เป็นจำนวนมาก แต่โครงการยังคงประสบปัญหาด้านงบประมาณ เนื่องจากที่ผ่านมาใช้งบจากการบริจาคของประชาชนชาวพุทธ และภัตตาหารเช้า-เพลส่วนใหญ่ได้รับจากจิตศรัทธา รวมถึงพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์จาก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

พระสงฆ์ทั้งสามรูปจึงเข้าพบ ดร.มหานิยม เพื่อขอให้รัฐบาลร่วมสนับสนุนโครงการในรุ่นที่ 4 ซึ่งจะจัดขึ้น ณ มจร วิทยาเขตอุบลราชธานี เพื่อส่งเสริมการสร้างพระวิปัสสนาจารย์อย่างยั่งยืน เป็นพลังสำคัญในการสืบสานพระพุทธศาสนาให้เจริญมั่นคงต่อไป