เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2568  ดร.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ ประมวลผลงานตลอด 2 เดือนที่ได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ โดยยืนยันว่า การทำงานไม่ได้หยุดอยู่เพียงในห้องเรียน แต่คือการสร้างอาชีพ รายได้ และคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นให้กับประชาชนทุกช่วงวัย ภายใต้แนวคิด “Learn to Earn” เรียนรู้แล้วต้องมีรายได้จริง

ดร.ลิณธิภรณ์ กล่าวว่า ในฐานะรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้ขับเคลื่อนงานที่ผ่านมาด้วยการลงมือทำจริง ลงพื้นที่ รับฟังปัญหา และผลักดันการเปลี่ยนแปลงที่เห็นผลได้อย่างรวดเร็ว ตามนโยบายของรัฐบาลภายใต้การนำของพรรคเพื่อไทยที่มีหัวใจคือประชาชน โดยสรุปเป็น 6 ผลงานสำคัญ ดังนี้

1. โครงการ Vocational Education Upskill (Voc-Up) ก้าวแรกในการปฏิรูปกรมส่งเสริมการเรียนรู้ (สกร.) ยกระดับทักษะ “เรียนแล้วทำงานได้จริง” สร้างงานจริงกว่า 1,880 อัตรา คิดเป็นมูลค่าทางเศรษฐกิจกว่า 51,000 ล้านบาท ผู้เรียนที่จบหลักสูตรสามารถเข้าสู่ตำแหน่งงานที่มั่นคง เชื่อมโยงการศึกษากับแรงงานและเศรษฐกิจฐานรากได้ทันที

2. เด็ก สกร. มีที่เรียนกว่า 2,046 ศูนย์ โดย ดร.ลิณธิภรณ์ ได้บูรณาการความร่วมมือกับกระทรวงมหาดไทย ให้ศูนย์การเรียนรู้ สกร. กว่า 2,046 แห่งทั่วประเทศ เป็นพื้นที่เรียนรู้ต่อเนื่องสำหรับประชาชนทุกวัย ยืนยันว่า สกร. ไม่ใช่เพียงหน่วยงานกลาง แต่คือส่วนหนึ่งของชีวิตประชาชนทุกพื้นที่

3. Quick Win หลักสูตรสู่มาตรฐานวิชาชีพ โดย สกร. ภายใต้กำกับดูแลของ ดร.ลิณธิภรณ์ ได้ลงนามความร่วมมือกับสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (สคช.) เพื่อยกระดับหลักสูตรวิชาชีพระยะสั้นให้เข้าสู่มาตรฐานระดับชาติแล้ว 14 หลักสูตร (13 หลักสูตรผ่านการรับรอง อีก 1 หลักสูตรอยู่ระหว่างปรับปรุง) พร้อมตั้งเป้า “1 จังหวัด 1 หลักสูตร” ภายในปี 2569 เพื่อให้ประชาชนทุกจังหวัดมีหลักสูตรที่เรียนแล้วใช้ได้จริง ไม่ใช่เพียงใบประกาศ

4. Caregiver อาชีพใหม่รองรับสังคมสูงวัย โดย ดร.ลิณธิภรณ์ ประกาศความสำเร็จของหลักสูตร Caregiver ผู้ดูแลผู้สูงอายุและผู้มีภาวะพึ่งพิง เปิดโอกาสให้ผู้เรียนสมัครงานจริง ค่าตอบแทนสูงสุด 6,000 บาทต่อเดือน (สัญญารายปี) ถือเป็นอาชีพใหม่ที่ตอบโจทย์โครงสร้างประชากรไทย และเป็นการสร้างแรงงานคุณภาพที่มีหัวใจมนุษย์ ช่วยผู้สูงอายุและสังคมไปพร้อมกัน

5. ดร.ลิณธิภรณ์ ได้ผลักดันให้ สกร. ร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ยื่นขอสิทธิบัตรสินค้าและผลิตภัณฑ์ สกร. กว่า 20 ผลิตภัณฑ์ ระหว่างวันที่ 23–25 กันยายน 2568 และจัดแสดงผลงานที่เซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ เพื่อให้สินค้าจากชุมชนไม่ได้หยุดแค่งานฝีมือ แต่พัฒนาเป็น “สินค้านวัตกรรม” ที่สร้างรายได้จริง

6. สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (สมศ.) ซึ่งอยู่ภายใต้การกำกับของ ดร.ลิณธิภรณ์ ได้มีการนำระบบดิจิทัลและ AI มาช่วยประเมินสถานศึกษาแบบ Data-Driven ทำให้ผู้บริหารเข้าใจปัญหาและบริหารได้รวดเร็ว พร้อมลดภาระเอกสารครูและสถานศึกษา

“ในฐานะรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ดิฉันประกาศและลงมือขับเคลื่อน Learn to Earn ให้เป็นหัวใจที่ทำให้การศึกษาไทยไม่หยุดอยู่ในห้องเรียน แต่เดินต่อไปจนถึงตลาดแรงงานและคุณภาพชีวิตจริงของประชาชนทั่วประเทศ เรียนรู้แล้วมีรายได้ เรียนรู้ง่ายตลอดชีวิต ดิฉันพร้อมจะเดินหน้าต่อไป เพื่อทำให้การเรียนรู้ของไทยเป็นพลังสร้างอนาคตที่มั่นคงและยั่งยืนสำหรับประชาชนทุกกลุ่ม” ดร.ลิณธิภรณ์ กล่าว