วันศุกร์ ที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2568 04:55 น.

การศึกษา

“บวรศักดิ์” นั่งหัวโต๊ะสภานโยบาย เคาะจัดตั้ง วท.กห. เป็นหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านความมั่นคง

วันพฤหัสบดี ที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2568, 14.42 น.

“บวรศักดิ์” นั่งหัวโต๊ะสภานโยบาย เคาะจัดตั้ง วท.กห. เป็นหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านความมั่นคง พร้อมเห็นชอบตั้ง รวพ. กระตุ้นการลงทุนวิจัย-นวัตกรรม เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมไทย 

เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สภานโยบาย) ครั้งที่ 2/2568 เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม ที่ผ่านมา โดยมี ศาสตราจารย์กิตติคุณบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานฯ และมี นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) รองประธานคนที่สอง พร้อมด้วย พลโทอดุลย์ บุญธรรมเจริญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ศ. ดร.ศุภชัย ปทุมนากุล ปลัดกระทรวง อว. และ ดร.สุรชัย สถิตคุณารัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.) ในฐานะกรรมการและเลขานุการสภานโยบาย รวมถึงผู้บริหารระดับสูงจากกระทรวงที่เกี่ยวข้อง ณ ห้องประชุม 301 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล นั้น ที่ประชุม ได้มีมติในนโยบายที่สำคัญเพื่อขับเคลื่อนการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อววน.) ของประเทศ

โดยได้เห็นชอบ “แนวทางการขับเคลื่อนการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเพื่อตอบสนองนโยบายรัฐบาล” ซึ่งสอดคล้องกับภารกิจเร่งด่วน 4 ด้าน ที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีได้กำหนดไว้ ได้แก่ ปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาความมั่นคง ปัญหาภัยธรรมชาติ และปัญหาภัยสังคม ซึ่ง ดร.สุรชัย ได้เสนอแนวทางการขับเคลื่อน อววน. ดังกล่าวผ่านการใช้กลไกของหน่วยงานในระบบ อววน. โดยวางเป้าหมายการทำงานในระยะเร่งด่วน 4 ประเด็น ได้แก่ การยกระดับและพัฒนาทักษะ (Upskill & Reskill), การพัฒนาเทคโนโลยีพร้อมใช้, การสนับสนุน SMEs, Startups และ Local Enterprises, และการใช้กลไก “พื้นที่นวัตกรรม” และขยายผลการบริหารจัดการน้ำ ผ่านการขับเคลื่อนที่สำคัญ เช่น กลไก Thailand Plus Package มาตรการพัฒนาบุคลากรทักษะในอุตสาหกรรมเป้าหมายภายใต้กองทุนเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน (Competitiveness Fund) การสร้างรายได้ให้ชุมชนผ่านการถ่ายทอดเทคโนโลยีที่เหมาะสม การยกระดับศักยภาพ SMEs/Startup การบริหารจัดการน้ำโดยใช้มหาวิทยาลัยในพื้นที่ และการวิจัยเพื่อความมั่นคงและการป้องกันประเทศ เป็นต้น

ผู้อำนวยการ สอวช. ยังได้เสนอแนวทางการขับเคลื่อนในประเด็นสำคัญตามนโยบายรัฐบาลในระยะ 2 ปี (ปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 – 2570) โดยการใช้ศักยภาพ อววน. ในแต่ละด้าน โดยด้านการอุดมศึกษา เน้นการพัฒนาหลักสูตรที่ Reskill และ Upskill โดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัล สร้างโอกาสให้บัณฑิตมีรายได้สูงขึ้น สร้างโอกาสให้คนไทยทุกกลุ่มสามารถเข้าถึงการศึกษาในระดับอุดมศึกษา การปฏิรูปกฎหมายการศึกษาให้ทันสมัย และการส่งเสริมการสอนและการสร้างความตระหนักรู้ในหลักสูตรการศึกษาเกี่ยวกับการรับมือภัยพิบัติและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ  ในขณะที่ด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (ววน.) เน้นการส่งเสริม ววน. ในอุตสาหกรรมเป้าหมาย โดยเฉพาะอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์และอิเล็กทรอนิกส์ขั้นสูง อุตสาหกรรมเทคโนโลยีชีวภาพ และอุตสาหกรรม Future Mobility รวมถึงการส่งเสริมให้ภาคเกษตรกรรมของไทยเปลี่ยนไปสู่เกษตรอัจฉริยะ การพัฒนาเทคโนโลยีและเครื่องมือสำหรับเตือนภัยพิบัติที่มีประสิทธิภาพ การพัฒนาผู้ประกอบการ SMEs เข้าสู่ห่วงโซ่อุปทานสีเขียว และการพัฒนาเชิงพื้นที่และลดความเหลื่อมล้ำ เป็นต้น

ที่ประชุมยังได้อนุมัติการจัดตั้ง กรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีกลาโหม (วท.กห.) สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม เป็นหน่วยบริหารและจัดการทุน (PMU) ด้านความมั่นคง โดยมีเป้าหมายสำคัญเพื่อให้โจทย์วิจัยด้านความมั่นคงและการป้องกันประเทศตรงกับความต้องการของกองทัพซึ่งเป็นผู้ใช้งานจริง โดยมุ่งเน้นการบูรณาการงานวิจัยด้านความมั่นคงให้มีทิศทางและเป็นเอกภาพ ลดความซ้ำซ้อน และมีการบริหารจัดการแบบครบวงจร ซึ่งกระทรวงกลาโหมมีความพร้อมด้านบุคลากร สถานที่ทดสอบ และหน่วยงาน นอกจากนี้ ยังวางเป้าหมายในการลดการพึ่งพาการนำเข้าเทคโนโลยีและยุทโธปกรณ์จากต่างประเทศ ซึ่งปัจจุบันมีการนำเข้าสูงถึงร้อยละ 98 ทั้งนี้ กรอบภารกิจของ วท.กห. จะครอบคลุมการดำเนินงานด้านความมั่นคงตั้งแต่ต้นน้ำ (การวิจัยพื้นฐาน) ไปจนถึงปลายน้ำ (การนำไปใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์และสังคม) โดยรับผิดชอบโครงการวิจัยระดับสีเหลืองยุทธภัณฑ์/งานวิจัยด้านความมั่นคงที่ไม่มีชั้นความลับ และงานวิจัยด้านความมั่นคงที่เป็น Dual Use นอกจากนี้ วท.กห. ได้เสนอให้ศูนย์การอุตสาหกรรมป้องกันประเทศและพลังงานทหาร เป็นหน่วยงานที่ทำการวิจัยและสร้างนวัตกรรมแทน วท.กห. ภายหลังการเป็น PMU เพื่อให้การทำวิจัยเกิดความต่อเนื่องและไม่ขัดกับมาตราใน พ.ร.บ. การส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม พ.ศ. 2562

นอกจากนี้ สภานโยบายยังได้เห็นชอบการจัดตั้ง สำนักงานเร่งรัดการวิจัยและนวัตกรรมเพื่อเพิ่มความสามารถการแข่งขันและการพัฒนาพื้นที่ (องค์การมหาชน) หรือ รวพ. ซึ่งจะมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อน อววน. โดย รวพ. ประกอบไปด้วย 1) หน่วยบริหารจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถการแข่งขัน 2) หน่วยบริหารจัดการทุนด้านการพัฒนาพื้นที่ 3) หน่วยบริหารจัดการทุนด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่ออุตสาหกรรมแห่งอนาคต ซึ่งทั้ง 3 หน่วยดังกล่าวเป็นหน่วยบริหารจัดการทุนที่ดำเนินการอยู่แล้วในปัจจุบัน จัดตั้งขึ้นตามมติสภานโยบาย โดยมีการดำเนินการในลักษณะแซนด์บ็อกซ์ภายใต้ร่มนิติบุคคลของ สอวช. และ 4)  หน่วยบริหารจัดการทุนด้านการนำวิทยาการ เทคโนโลยีและศิลปกรรมที่เหมาะสมไปใช้ประโยชน์ ซึ่งเป็นหน่วยบริหารจัดการทุนที่เสนอเพิ่มเติมขึ้นใหม่ ภายใต้ รวพ. มีหน้าที่หลักในการขับเคลื่อนการนำผลงานวิจัยไปใช้ประโยชน์ตามเจตนารมณ์ของพระราชบัญญัติส่งเสริมการใช้ประโยชน์ผลงานวิจัยและนวัตกรรม พ.ศ. 2564

สำหรับแนวทางการดำเนินงานของ รวพ. มุ่งสร้างประโยชน์ต่อประเทศในหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็น การกระตุ้นและเพิ่มการลงทุนวิจัยและนวัตกรรมจากภาครัฐและเอกชน รวมถึงการร่วมลงทุน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมไทย และสร้างผลงานนวัตกรรมที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจสูง รวพ. จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถทางเทคโนโลยีขั้นแนวหน้า และสร้างกลไกขับเคลื่อนชุดใหม่ (New Growth Engine) เพื่อรองรับอุตสาหกรรมอนาคตและการเติบโตในระยะยาว นอกจากนี้ ยังมีเป้าหมายในการพัฒนาเศรษฐกิจ ยกระดับคุณภาพชีวิต และลดความเหลื่อมล้ำในพื้นที่ โดยการเพิ่มศักยภาพของมหาวิทยาลัยในการใช้วิจัยและนวัตกรรมสร้างการเปลี่ยนแปลงในพื้นที่และสร้างขีดความสามารถการบริหารจัดการตนเองของชุมชนท้องถิ่น การดำเนินงานจะขับเคลื่อนการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมตลอดห่วงโซ่คุณค่า (Value-chain) ของภาคส่วนสำคัญตามยุทธศาสตร์ของประเทศ และสร้างผลกระทบจากการบริหารจัดการทุนผ่านแผนงานวิจัยเชิงยุทธศาสตร์ (Strategic Funding) อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของประเทศ

ทั้งนี้ สอวช. จะเร่งดำเนินการเสนอร่างพระราชกฤษฎีกาจัดตั้ง รวพ. ซึ่งเป็นร่างกฎหมายที่คณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้วเสร็จต่อคณะรัฐมนตรี และดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป
 

หน้าแรก » การศึกษา