วันศุกร์ ที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2568 04:09 น.

การศึกษา

Google สนับสนุนโครงการพัฒนา “ห้องเรียนดิจิทัลเพื่อการเรียนรู้” ของ กทม. ในพื้นที่กรุงเทพฯ และทั่วประเทศด้วย Chromebook และ Gemini for Education

วันพฤหัสบดี ที่ 04 ธันวาคม พ.ศ. 2568, 16.30 น.
Google สนับสนุนโครงการพัฒนา “ห้องเรียนดิจิทัลเพื่อการเรียนรู้” ของ กทม. ในพื้นที่กรุงเทพฯ และทั่วประเทศด้วย Chromebook และ Gemini for Education
 
 
 

วันนี้ Google ได้ตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นต่อการศึกษาไทย เดินหน้าสนับสนุน กรุงเทพมหานคร (กทม.) ในโครงการพัฒนา “ห้องเรียนดิจิทัลเพื่อการเรียนรู้” ซึ่งเป็นโครงการริเริ่มสำคัญที่มุ่งปฏิรูปการศึกษาทั่วกรุงเทพฯ ด้วยการนำเครื่องมือ AI ใหม่ๆ มาประยุกต์ใช้ในการเรียนการสอน  

 

ในการเริ่มต้นดำเนินการอย่างเป็นทางการของโครงการนี้ กทม. ได้จัดพิธีมอบ Chromebook ชุดใหม่อย่างเป็นทางการ ณ โรงเรียนราชบพิธ ซึ่งเป็นหนึ่งใน 437 โรงเรียนในสังกัด กทม. ที่จะได้รับประโยชน์จากโครงการนี้ โดยจะมีการส่งมอบ Chromebook จำนวนทั้งหมด 43,700 เครื่อง ให้แก่นักเรียนตั้งแต่ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ถึงระดับมัธยมศึกษาปีที่ 6 ในโรงเรียนสังกัด กทม. ทั้งหมด ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่มุ่งพลิกโฉมห้องเรียนที่มีการเรียนการสอนด้วยวิธีการแบบดั้งเดิมให้กลายเป็นสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ที่มีชีวิตชีวา สนุกสนาน และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น 

 

Chromebook ได้รับเลือกให้เป็นอุปกรณ์พื้นฐานสำหรับโครงการนี้ ซึ่งเหมาะสำหรับการเข้าถึงฟีเจอร์ AI ล่าสุด ทั้งนี้ เพื่อให้มั่นใจว่าโครงการนี้จะประสบความสำเร็จ Google จะให้การสนับสนุนและฝึกอบรมอย่างครอบคลุมแก่บุคลากรทางการศึกษาของ กทม. ในการใช้ Chromebook, Google Classroom และ Gemini for Education ซึ่งเป็นแอปพลิเคชัน Gemini เวอร์ชันที่สร้างขึ้นสำหรับชุมชนการศึกษาโดยเฉพาะ โดยการส่งมอบ Chromebook ณ โรงเรียนราชบพิธ แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ กทม. ที่จะมอบอุปกรณ์และทักษะที่จำเป็นให้กับนักเรียนทุกคนเพื่อให้พวกเขาเติบโตและมีความก้าวหน้าในอนาคตที่ขับเคลื่อน
ด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลและ AI ของกรุงเทพฯ

 

การประยุกต์ใช้ AI ของ Google เพื่อความเป็นเลิศทางการศึกษา

งานวิจัยโดยจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยที่ดำเนินการในโรงเรียนสังกัด กทม. จำนวน 111 แห่ง ได้แสดงให้เห็นว่าการนำอุปกรณ์ใหม่ๆ ที่ทำงานด้วยระบบ AI มาใช้ในชั้นเรียนสามารถช่วยปรับปรุงผลลัพธ์การเรียนรู้ของนักเรียนได้อย่างมีนัยสำคัญ รวมทั้งช่วยครูประหยัดเวลาในการทำงานธุรการ ทำให้มีเวลาสอนนักเรียนได้อย่างเต็มที่มากขึ้น โดยงานวิจัยนี้พบว่าชั้นเรียนที่ใช้ Chromebook ส่งผลให้

  • นักเรียนมีส่วนร่วมมากขึ้นและส่งเสริมการเรียนรู้เชิงรุก: ข้อมูลจากการศึกษานักเรียนกว่า 4,000 คน แสดงให้เห็นถึงการตอบรับในเชิงบวกอย่างล้นหลาม โดย 91% ใช้เทคโนโลยีเป็นเครื่องมือในการเรียน ที่สำคัญกว่านั้น กว่า 87% มีทัศนคติเชิงบวกต่อเทคโนโลยีและรู้สึกอยากมีส่วนร่วมในการเรียนอย่างกระตือรือร้น นอกจากนี้ 68% ของนักเรียนรู้สึกว่าครูให้คำติชม ที่มีความหมายและมีความสำคัญต่องานมากขึ้น

  • ส่งเสริมการพัฒนาทักษะในศตวรรษที่ 21: คะแนนทักษะในศตวรรษที่ 21 ของนักเรียน (เช่น การคิดอย่างมีวิจารณญาณ การทำงานร่วมกัน) เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด (จาก 7.9 เป็น 10 คะแนน) จากการประเมิน 3 ครั้งโดยใช้ Google Classroom ซึ่งช่วยให้การให้คะแนนจากชิ้นงานจริงของนักเรียนเป็นเรื่องง่ายและมีหลักฐานอ้างอิงที่ชัดเจน

  • ครูมีความสามารถในการใช้เทคโนโลยีและทำงานได้อย่างมีประสิทธิผลมากขึ้น: การบูรณาการ Chromebook และ Google Workspace ในการเรียนการสอน ไปพร้อมๆ กับการสนับสนุนการพัฒนาทางวิชาชีพ ส่งผลให้คะแนนความสามารถในการบูรณาการเทคโนโลยีของครูเพิ่มขึ้นถึง 21% ซึ่งทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานเพิ่มขึ้น โดย 81% ของครูเห็นพ้องต้องกันว่าโซลูชันด้านการศึกษาของ Google ช่วยประหยัดเวลาในการทำงาน ในขณะที่ 95% ของครูเห็นด้วยว่าควรขยายโครงการนี้ไปยังโรงเรียนในสังกัด กทม. ทั้งหมด

 

นายเอกวรัญญู อัมระปาล ผู้ช่วยเลขานุการผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และโฆษกของกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า “โครงการพัฒนา “ห้องเรียนดิจิทัลเพื่อการเรียนรู้” ของ กทม. มีจุดมุ่งหมายเพื่อขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลของโรงเรียนในสังกด กทม. ภายใต้การสนับสนุนจาก Google ผ่านเครื่องมืออย่าง Google Classroom, Chromebook และ Gemini for Education เราจะเพิ่มศักยภาพการเรียนรู้ของนักเรียนด้วยการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ พร้อมทั้งจัดหาทรัพยากรที่จำเป็นให้กับครู เพื่อส่งเสริมสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ที่กระตุ้นการมีส่วนร่วมของนักเรียนและทำให้การเรียนการสอนมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โครงการนี้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเราในการยกระดับการศึกษาให้ทันสมัยและเตรียมความพร้อมให้กับพลเมืองรุ่นต่อไปของกรุงเทพฯ สำหรับอนาคตในยุคดิจิทัล”

 

Stuart Miller หัวหน้าฝ่ายการตลาด Google for Education ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า “เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้สนับสนุนการเปลี่ยนแปลงสู่ยุคดิจิทัลของโรงเรียนในสังกัด กทม. ผ่าน Chromebook และ Gemini for Education เรามุ่งมั่นที่จะพลิกโฉมการศึกษาด้วยการช่วยให้นักเรียนและครูเข้าถึงเครื่องมือ AI ที่ล้ำสมัย ทรัพยากรการเรียนรู้ที่หลากหลาย และสภาพแวดล้อมดิจิทัลที่ปลอดภัยและเอื้อต่อการเรียนรู้ เราเชื่อว่า Chromebook, Google Classroom และความสามารถที่ตอบโจทย์การเรียนรู้เฉพาะด้านของ Gemini for Education จะช่วยยกระดับผลลัพธ์การเรียนรู้ของนักเรียนและเสริมสร้างศักยภาพให้กับคนรุ่นต่อไปที่จะเป็นกำลังสำคัญของชาติได้อย่างมาก” 


เครื่องมือและผลิตภัณฑ์ที่ทำงานด้วยระบบ AI อันล้ำสมัยของ Google กำลังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเรียนการสอนของนักเรียนและครูทั่วประเทศไทย และ Google ยังคงมองหาวิธีในการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาช่วยสนับสนุนสถานศึกษาในไทยอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสอดคล้องกับความมุ่งมั่นในการยกระดับการศึกษาของไทยที่ Google ให้ความสำคัญมาโดยตลอด

 

หน้าแรก » การศึกษา

Top 5 ข่าวการศึกษา