วันที่ 9 พ.ย.2563  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แม้สำนักข่าวเอเอฟพีได้รายงานบรรยากาศการเลือกตั้งทั่วไปของประเทศเมียนมาเมื่อวันที่ 8 พ.ย.ที่ผ่านมา ท่ามกลางวิกฤตโรคโควิด-19 และความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างรัฐบาลพลเรือนของประธานาธิบดี อู วิน มินต์ ภายใต้อำนาจของนางออง ซาน ซู จี ที่ปรึกษาแห่งรัฐและรมว.ต่างประเทศ ถึงอย่างนั้นประชาชนจำนวนมากออกมาลงคะแนนกันอย่างคึกคัก และส่วนมากปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อ ภายหลังผู้ป่วยใหม่ยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง มียอดสะสมเพิ่มเป็น 60,348 คน และเสียชีวิต 1,396 ราย ขณะที่หลายฝ่ายคาดว่า พรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (เอ็นแอลดี) จะคว้าชัยชนะได้เป็นรัฐบาลในสมัยที่ 2          

ทั้งนี้พรรค NLD ของอองซาน ซูจี เปิดเผยผ่านเฟซบุ๊กเพจ National League for Democracy ว่า ทางพรรคได้คว้าเก้าอี้ในสภาล่างไปแล้ว 15 ที่นั่ง โดยมีเก้าอี้ให้ชิงตำแหน่งทั้งหมด 315 ที่นั่ง จากทั้งหมด 425 ที่นั่งในสภาล่าง ซึ่งเก้าอี้ที่ไม่ได้เปิดให้ชิงตำแหน่งนั้นเป็นของกองทัพ พรรค NLD จำเป็นต้องได้ 322 ที่นั่งเพื่อจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งคาดว่าพรรค NLD จะได้รับชัยชนะแต่ก็ทิ้งห่างพรรคอื่นน้อยลง เพราะมีพรรคเล็กๆ และพรรคใหม่เกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก

พรรค NLD ของซูจี คว้าที่นั่งในสภาฯได้แล้ว 18 ที่นั่ง 

ขณะที่คณะกรรมการการเลือกตั้งของเมียนมา จะทยอยประกาศผลคะแนนเบื้องต้นในเย็นวันนี้ หลังการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวาน มีประชาชนไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งจำนวนมาก แม้ว่าจะมีความหวั่นวิตกเรื่องการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 หลายฝ่ายคาดว่าพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย(NLD) ของนางอองซาน ซูจี ที่ปรึกษาแห่งรัฐบาลเมียนมาจะชนะการเลือกตั้งครั้งนี้ บริหารประเทศต่อไปอีก 5 ปี          

การเลือกตั้งเมื่อวานเป็นเสมือนการลงประชามติต่อรัฐบาลภายใต้รัฐบาลของนางซูจี ซึ่งแม้ว่าจะยังคงได้รับความชื่นชมจากประชาชนในประเทศ แต่ภาพลักษณ์รัฐบาลของนางซูจีในสายตาของประชาคมระหว่างประเทศเสื่อมเสีย เนื่องจากข้อครหาเรื่องการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชนกลุ่มน้อยชาวมุสลิมโรฮิงญาในรัฐยะไข่ทางภาคตะวันตกของประเทศ
          
ผลคะแนนเบื้องต้น พรรค NLD ระบุทางเฟซบุ๊กว่า ผลการนับคะแนนเบื้องต้น พรรคคว้าที่นั่งส.ส.ได้แล้ว 18 ที่นั่งจาก 315 ที่นั่งที่คณะกรรมการการเลือกตั้งของเมียนมา จัดให้มีการเลือกตั้ง
          
ขณะที่ นายมโย นยุน (Myo Nyun)โฆษกพรรค NLD แสดงความมั่นใจว่าพรรคจะชนะการเลือกตั้ง คว้าที่นั่งส.ส.322 ที่นั่ง หรือครองเสียงมากพอที่จะจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่มาบริหารประเทศต่อไป
          
ทั้งนี้ รัฐบาลเมียนมา ซึ่งปกครองประเทศมาเกือบ 50 ปี เริ่มถอนตัวจากการเมือง ถ่ายโอนอำนาจให้กับรัฐบาลพลเรือนของนางซูจีในปี 2554 แต่กองทัพยังคงมีอำนาจแต่งตั้งนายทหารระดับสูงเป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติในสัดส่วนร้อยละ 25 ของทั้งสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา ภายใต้รัฐธรรมนูญที่กองทัพเมียนมาจัดทำขึ้น ซึ่งนางซูจีนและพันธมิตรของเธอต้องการจะแก้ไขใหม่

ขณะที่ผลการลงคะแนนที่รัฐฉานปรากฏว่า พรรคสันนิบาตแห่งชาติรัฐฉานเพื่อประชาธิปไตย (Shan Nationalities League for Democracy) โดยมีหัวเสือเป็นโลโก้พรรค เป็นพรรคการเมืองในรัฐฉาน มีสมาชิกเป็นทั้งชาวไทใหญ่และชนกลุ่มน้อยอื่น ๆ ในรัฐฉาน เช่น ชาวปะหล่อง ชาวปะโอ เป็นพรรคการเมืองของชนกลุ่มน้อยที่ใหญ่พรรคหนึ่งในพม่า ในการเลือกตั้งเมื่อ พ.ศ. 2533 ได้ 23 ที่นั่ง แม้ช่วงหาเสียงจะเกิดการสู้รบระหว่างทหารเมียนมากับทหารไทใหญ่ที่เมืองจ๊อกเมร์ รัฐฉานภาคเหนือ ตั้งแต่วันที่ 8 ต.ค.และมีการหยุดยิงหลังจาก กกต.เมียนมาได้ประกาศพื้นที่รัฐฉานไม่สามารถจัดการเลือกตั้งได้จำนวน 6 เขตการเลือกตั้ง ทำให้ ส.ส.จากรัฐฉานลดไปอีก 6 คน

ทั้งนี้เพจ Tai Community Online ได้รายงานว่า ผลการนับคะแนนที่พรรค SNLD หรือพรรคหัวเสือไทใหญ่นำมาแบบขาดๆ  ในพื้นที่รัฐฉานทั้งหมดจากเมืองต่างๆ มีเมืองหมู่เจ้ เมืองจ๊อกเมร์ เมืองสี่ป้อ เมืองต้างยาน เมืองสาด เมืองโขหลำ  เมืองลายค่า เมืองสู้ เมืองเกซี เมืองน้ำตู่ ส่วนที่ยังไม่ชัดแจนก็มีเมืองหลอยแหล่ม เมืองนาย เมืองลางเคอ เมืองหนอง เมืองป๋างโหลง เมืองน้ำสัน เมืองหมอกใหม่

อย่างไรก็ตามเป็นที่น่าสังเกตว่า เมืองเชียงตุง พรรคที่มีอดีตทหารเป็นแกนนำได้คะแนนนำพรรค NLD รวมถึงพรรคไทใหญ่ทั้ง 2 พรรค