วันเสาร์ ที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2567 07:42 น.

ต่างประเทศ

เผด็จการทหารเมียนมายิงม็อบดับ 4 ศพ "มิน อ่อง หล่าย"จัดโชว์รัสเซียวันกองทัพ

วันเสาร์ ที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2564, 12.41 น.

เมื่อวันที่ 27 มีนาคม พ.ศ.2564 พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นประธานพิธีสวนสนามเนื่องในวันกองทัพ โดยแสดงถึงความแข็งแกร่งของทหารและกองทัพ ท่ามกลางสถานการณ์เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงยังเดินหน้าปราบปรามผู้ชุมนุมต่อต้านรัฐประหารด้วยความรุนแรง จนทำให้มีผู้ประท้วงถูกยิงเสียชีวิตอีก 4 ศพ ในช่วงสายของวันนี้ ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 331 ศพแล้ว

อย่างไรก็ตามล่าสุดมีรายงานว่ามีผู้เสียชีวิตมากถึง 16 ราย ในจำนวนนั้นมีนายชิต โบเยียน นักฟุตบอลเมียนมา ชุดยู-21 ของทีมหงสาวดี ยูไนเต็ด และเป็นกัปตันทีมรวมอยู่ด้วย โดยได้ถูกกองกำลังทหารของคณะรัฐประหารเมียนมายิงด้วยอาวุธสงคราม จนเสียชีวิตเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา (27 มี.ค.)  รายงานระบุว่า ขณะเกิดเหตุนายชิต โบเยียน กำลังช่วยงานในร้านอาหารของครอบครัว ก่อนที่ทหารจะบุกเข้ามา และตัวเขาถูกยิงจนเสียชีวิตในเวลาต่อมา เป็นบุคลากรในวงการกีฬาคนแรกที่ถูกกลุ่มทหารทำร้ายจนถึงแก่ชีวิต 

พล.อ.อาวุโสมิน อ่อง หล่าย ได้กล่าวในพิธีให้คำมั่นว่ากองทัพจะปกป้องประชาชนและมุ่งมั่นเพื่อประชาธิปไตย และให้สัญญาว่ากองทัพจะจัดให้มีการเลือกตั้ง พร้อมกล่าวขอบคุณกองทัพรัสเซียถือเป็นเพื่อนแท้  

"การใช้ความรุนแรง ซึ่งส่งผลกระทบกับเสถียรภาพและความมั่นคง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อการเรียกร้องต่างๆ เป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสม"  พล.อ.อาวุโสมิน อ่อง หล่าย กล่าว

เมื่อค่ำวันศุกร์ที่ผ่านมา สถานีโทรทัศน์ของทางการเมียนมาได้ประกาศเตือนผู้ชุมนุมว่า "เสี่ยงที่จะถูกยิงศีรษะ คุณควรเรียนรู้จากโศกนาฏกรรมความตายที่น่าสะพรึงก่อนหน้านี้ว่า คุณสามารถตกอยู่ในอันตราย ที่จะถูกยิงเข้าที่ศีรษะและด้านหลัง" 

ทั้งนี้เฟซบุ๊ก suthichai Yoon ได้โพสต์ภาพและข้อความว่า พลเอกมินอ่องหล่ายตรวจแถวในพิธีสวนสนาม “วันกองทัพพม่า” เช้านี้ แขกต่างชาติหลักมีคนเดียวคือรัฐมนตรีช่วยกลาโหมจากรัสเซีย อเล็กซานเดอร์ โฟมินที่บอกว่าพม่าเป็นพันธมิตรยุทธศาสตร์สำคัญของรัสเซียในเอเชีย ในคำปราศรัย มินอ่องหล่ายเรียกรัสเซียเป็น “มิตรแท้”

ถ้อยแถลงของเขาบอกว่าที่กองทัพต้องยึดอำนาจเพราะมีการทุจริตในการเลือกตั้ง และประกาศจะจัดให้มีการเลือกใหม่ แต่ไม่บอกเมื่อไหร่ วันเดียวกันนี้ ทหารพม่าก็ย้งเดินหน้าปราบปรามประชาชนเพราะผู้ต่อต้านก็ยังประท้วงต่อ ยอดคนตายตั้งแต่รัฐประหารสูงถึง 327 รายแล้ว

ดร.ซาซา โฆษกของกลุ่ม CRPH ซึ่งเป็นกลุ่มต่อต้านรัฐบาลทหารเมียนมาเปิดเผยในการประชุมออนไลน์ว่า "วันนี้เป็นวันแห่งความอัปยศของกองทัพ บรรดานายพลของกองทัพกำลังเฉลิมฉลองวันกองทัพ หลังจากที่พวกเขาเพิ่งสังหารพลเรือนที่บริสุทธิ์ไปกว่า 300 ราย"

เคเอ็นยู ถล่มฐานที่ทหารเมียนมา ยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์จำนวนมาก

เมื่อเช้ามืดวันที่ 27 มี.ค.นี้ แหล่งข่าวกองทัพกู้ชาติไทยใหญ่ SSA รายงานว่า กองพลน้อยที่ 5 KNU ได้ปฏิบัติการทางทหารเข้าโจมตี ยึดฐานที่มั่นของทหารเมียนมา สังกัดกองพันทหารราบที่ 73 (ฐานเซหมื่อท่า)ตรงข้ามชายแดนไทย-เมียนมา อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน โดยทหารกะเหรี่ยงอิสระ สามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ และอุปกรณ์สื่อสารของทหารเมียนมาได้เป็นจำนวนมาก
          
ก่อนหน้านั้น เมื่อวันที่ 25 มี.ค.64 ที่ผ่านมา ทหารกะเหรี่ยงอิสระ KNU ได้ปฏิบัติการทางทหาร ต่อทหารเมียนมา สังกัดกองพันเคลื่อนที่เร็ว ที่ 341 ฐานตรงข้ามบ้านแม่สามแลบ อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน ที่เคยเข้ามารับข้าวสารจากไทยที่บ้านแม่สามแลบ โดยทางกลุ่ม KNU ได้ทำการซุ่มโจมตีทหารพม่ากองพันดังกล่าว เสียชีวิตไป 3 นาย และบาดเจ็บอีก 2 นาย
          
การเปิดฉากโจมตีของกะเหรี่ยง KNU ดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากทการพม่าได้ทำการลาดตระเวนในแม่น้ำสาละวิน และมีคำสั่งให้โจมตีเรือของกะเหรี่ยงอิสระที่เคลื่อนไหวในพื้นที่ดังกล่าว ทำให้กลุ่มกะเหรี่ยงอิสระ ทำการซุ่มโจมตีทหารเมียนมาดังกล่าว
          
ก่อนหน้านั้น  ร.อ.แนมินอ่อง ผบ.ฐาน ทหารเมียนมา พัน.คร.341  ฐานห้วยแม่สลอร์ค อ.บือโซ๊ะ จ.หมื่อตรอ (ผาปูน) รัฐกะเหรี่ยง สหภาพเมียนมา ด้านตรงข้าม ต.แม่สามแลบ อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน ได้สั่งการให้ ผู้ใต้บังคับบัญชาจัดกำลังพล จำนวน 5 นาย ทำการลาดตระเวนรอบฐาน โดยให้ ไปวางกำลังเฝ้าตรวจความเคลื่อนไหวของ กองกำลังกะเหรี่ยงอิสระ KNU กองพลน้อยที่ 5 ตามแนวแม่น้ำสาละวิน หากมีการเดินเรือผ่านพื้นที่ตั้งฐานทหารเมียนมา ให้สามารถยิงเรือได้โดยเฉพาะเรือของ กกล.KNU พล.น.5 เท่านั้นหลังจากที่ ทหารเมียนมา ไม่สามารถทำการส่งเสบียงให้กับ หน่วยทหารของพวกตน ตามแนวแม่น้ำสาละวินได้

ท่าขี้เหล็กเงียบสงัดคนปิดบ้าน-พ่อค้าปิดร้านถนนแทบร้าง

รายงานจากชายแดนไทย-เมียนมา แจ้งว่าในวันกองทัพเมียนมานี้ ชาวเมืองท่าขี้เหล็ก หัวเมืองชายแดนเมียนมาตรงข้าม อ.แม่สาย จ.เชียงราย ต่างพากันปิดบ้านเรือน-ห้างร้าน รวมถึงท้องถนนก็เงียบสงัด ไม่มียานพาหนะสัญจรไปมาเหมือนก่อนหน้านี้ ขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจเมียนมาได้ตั้งจุดตรวจตามจุดสำคัญๆ ซึ่งสามารถมองเห็นการตั้งจุดตรวจดังกล่าวได้จากฝั่งไทย เพื่อตรวจตราผู้คน-สกัดการออกมารวมตัวชุมนุมต่อต้านการก่อรัฐประหารของกองทัพ รวมทั้งมีรายงานว่าได้มีการจับกุมผู้ที่จะออกมาเคลื่อนไหวเพิ่มเติมอีก 3 ราย หลังจากช่วงประมาณ 1 สัปดาห์ก่อนได้จับกุมไปแล้ว 6 ราย
          
ด้านการค้าชายแดน แม้ทางการไทยและเมียนมายังคงเปิดใช้จุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา ข้ามลำน้ำสายแห่งที่ 2 เชื่อมระหว่าง อ.แม่สาย -ท่าขี้เหล็ก ตามปกติ แต่การค้าชายแดนในช่วงเช้าของวันนี้เป็นไปด้วยความซบเซา ผู้ประกอบการไม่กล้าขนส่งสินค้าข้ามไปยังฝั่งท่าขี้เหล็กเหมือนทุกวัน เพราะเกรงว่าจะเกิดสถานการณ์ความไม่สงบขึ้นในวันกองทัพเมียนมา
          
อย่างไรก็ตาม ต่อมาพ่อค้าค้าชายแดนที่มีสายสัมพันธ์ดีกับเจ้าหน้าที่ ได้ทดลองนำรถตู้ขนส่งสินค้าข้ามจากแม่สายไปยังฝั่งท่าขี้เหล็ก และสามารถกลับมาได้ ทำให้ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ทยอยขนส่งสินค้าข้ามแดนกันเหมือนเดิมแล้ว แต่ก็ยังคงต้องตรวจสอบสถานการณ์ในเมียนมาอย่างต่อเนื่อง
          
ส่วนเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างๆ ทั้งทหาร ตำรวจ ด่านตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ฯลฯ ต่างเฝ้าระวังชาวเมียนมาลักลอบข้ามฝั่งเข้าไทยหากเกิดสถานการณ์รุนแรง ซึ่งก่อนหน้านี้ทหารร้อย ม.4 บก.ควบคุมที่ 2 ฉก.ม.3 กองกำลังผาเมือง สกัดจับผู้นำพาชาวเมียนมา 3 คน และผู้ที่หลบหนีข้ามฝั่ง ซึ่งเป็นชาวเมืองพงและเมืองโกในรัฐฉาน 5 คน ได้ที่ท่าทรายกำนันแดงเก่า บ้านปางห้า หมู่ที่ 1 ต.เกาะช้าง อ.แม่สาย สอบถามเบื้องต้นทั้งหมดยืนยันว่าไม่ได้ลี้ภัยการเมืองมา เพียงแต่ข้ามฝั่งมาหางานทำ เนื่องจากในฝั่งเมียนมาหางานทำได้ยากมากเท่านั้น เจ้าหน้าที่จึงนำตัวไปคัดกรองและดำเนินคดีรวมทั้งผลักดันให้กลับไปแล้ว 

Cr.ภาพม็อบจาก Know Shan State