วันเสาร์ ที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2567 10:17 น.

ต่างประเทศ

ผู้แทนอาเซียนพบ "มิน อ่อง หล่าย" เสนอชื่อทูตพิเศษประจำเมียนมา

วันจันทร์ ที่ 07 มิถุนายน พ.ศ. 2564, 10.22 น.

วันจันทร์ที่ 7 มิถุนายน 2564 สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) เสนอชื่อผู้แทนพิเศษที่จะทำหน้าที่เป็นผู้ไกล่เกลี่ยในการเจรจาระหว่างรัฐบาลทหารของเมียนมาและกองกำลังสนับสนุนประชาธิปไตยในอนาคต
          
นายลิม จ็อก ฮอย เลขาธิการอาเซียน และนายเอรีวัน เปฮิน ยูซอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศบรูไนคนที่ 2 ซึ่งเป็นประธานหมุนเวียนของกลุ่มอาเซียน ได้เดินทางเยือนเมียนมาเมื่อวันพฤหัสบดีและวันศุกร์ที่ผ่านมา(3-4มิ.ย.) พร้อมส่งรายชื่อผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อให้เป็นผู้แทนพิเศษจากการลงมติของประเทศสมาชิกอาเซียนให้กับรัฐบาลทหารของเมียนมา โดยขณะนี้ยังไม่มีการเปิดเผยรายชื่อดังกล่าวต่อสื่อมวลชน
          
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ทั้ง 2 รายได้เข้าพบกับนายพลมิน อ่อง หล่าย ในเมียนมา เพื่อหารือเกี่ยวกับวิกฤตทางการเมืองในประเทศ หลังจากที่มีการทำรัฐประหารเมื่อเดือนก.พ.ที่ผ่านมา
          
การส่งทูตพิเศษไปยังเมียนถือมาเป็น 1 ใน 5 ฉันทามติที่ทุกชาติบรรลุข้อตกลงร่วมกันในการประชุมสุดยอดอาเซียนนัดพิเศษ ซึ่งจัดขึ้นที่อินโดนีเซียเมื่อปลายเดือนเม.ย. เพื่อหารือเกี่ยวกับสถานการณ์ในเมียนมา โดยฉันทามติทั้ง 5 ประกอบด้วย การยุติความรุนแรง, การเจรจาที่สร้างสรรค์ของทุกฝ่าย, ทูตพิเศษอาเซียนที่จะอำนวยความสะดวกในการเจรจา, การยอมรับความช่วยเหลือ และการเดินทางเยือนของทูตพิเศษ

รัฐบาลจีนจีนเสนอตัวนัดอาเซียนถก 
 
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานความคืบหน้าสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศเมียนมา หลังล่าสุดรัฐบาลจีนได้ออกตัวเข้าไกล่เกลี่ย ส่งนายเฉิน ไฮ เอกอัครราชทูตจีนประจำเมียนมา เข้าหารือกับ พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย ผู้บัญชาการสูงสุดกองทัพเมียนมา เสนอแผนนัดประชุมหารือรอบพิเศษระหว่างชาติสมาชิกอาเซียนกับรัฐบาลจีน เพื่อส่งเสริมการสร้างความมีเสถียรภาพภายในประเทศ
          
ทั้งนี้ สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 6 มิ.ย. ว่า การนัดหารือระหว่างเอกอัครราชทูตจีนประจำเมียนมากับผู้บัญชาการทหารสูงสุดมีขึ้นหลังเลขาธิการอาเซียนได้นัดพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้นำเมียนมาไปแล้วก่อนหน้านี้ ซึ่งการหารือกับจีนดังกล่าว สื่อจีนอ้างว่า พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย กล่าวว่า เมียนมายินดีที่จะทำงานร่วมกับอาเซียนและสื่อสารกับรัฐบาลจีน เพื่อรักษาเสถียรภาพภายในประเทศ และประสานงานเพื่อให้เกิดความเห็นที่เป็นเอกภาพ
          
ต่อมากระทรวงต่างประเทศจีนออกแถลงการณ์ด้วยว่าในสัปดาห์นี้รัฐบาลจีนจะจัดประชุมรอบพิเศษกับรัฐมนตรีต่างประเทศชาติสมาชิกอาเซียน ประกอบด้วยมาเลเซีย อินโดนีเซีย บรูไน เวียดนาม กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา สิงคโปร์ ประเทศไทย และฟิลิปปินส์ ที่เมืองฉงชิ่ง โดยมีนายหวัง อี้ รมว.ต่างประเทศจีน นั่งเป็นประธานร่วม เนื่องในโอกาสครบรอบ 30 ปี การเจรจาอย่างเป็นทางการระหว่างจีนกับอาเซียน และจะหารือในประเด็นที่เน้นเรื่องเกี่ยวกับสถานการณ์ในเมียนมาที่การประท้วงต่อต้านรัฐบาลรัฐประหารดำเนินมากว่า 4 เดือนแล้ว
          
วันเดียวกัน สื่อท้องถิ่นเมียนมารายงานว่า ที่เมืองมัณฑะเลย์ กลุ่มผู้ชุมนุมต่อต้านรัฐบาลทหารเมียนมาได้มีการรวมตัวกันแสดงความไม่พอใจต่อกรณีตัวแทนอาเซียนเข้าหารือกับ พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย โดยบรรยากาศค่อนข้างตึงเครียด มีการจุดไฟเผาธงอาเซียน และกล่าวโทษว่าอาเซียนให้ความชอบธรรมกับรัฐบาลทหารเมียนมา พร้อมชูป้ายเขียนด้วยว่า วิถีอาเซียนเป็นแค่จุดยืนไร้ค่า
          
ส่วนที่เมืองหล่ายสเว ห่างจากนครย่างกุ้งไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ 150 กิโลเมตร ได้เกิดการเผชิญหน้าระหว่างกลุ่มชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ความมั่นคง ที่อยู่ระหว่างออกตรวจค้าแหล่งซุกซ่อนอาวุธ จนนำไปสู่การปะทะกัน เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 20 คน บาดเจ็บไม่ทราบจำนวน ซึ่งหากเป็นตัวเลขจริงจะถือว่าเป็นการสูญเสียชีวิตในวันเดียวที่มากที่สุดในรอบเกือบ 2 เดือน อนึ่ง ยอดผู้เสียชีวิตในเมียนมาอยู่ที่ราว 845 คน 

"มิน อ่อง หล่าย"สั่งรื้ออนุสรณ์ นายพลอองซาน กลางดึก  
 
เมื่อเวลา 21.15 น.วันที่ 6 มิถุนายน เจ้าหน้าที่ทหารเมียนมา และเจ้าหน้าที่ตำรวจเมียนมาในจังหวัดผาอ่าง, อ.จาอินเส้กจี, จ.กอกาเลก และ จ.เมียวดี รัฐกะเหรี่ยง ประเทศสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ตรงข้าม อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ได้นำรถแบ๊กโฮ และคนงานทำลายซุ้มทางเข้าอนุสรณ์สถานวีรบุรุษเมียนมา หรือ อนุสาวรีย์นายพล อองซาน บิดาของนางอองซาน ซูจี อดีตผู้นำรัฐบาลเมียนมา และผู้นำพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (NLD) โดยเป็นการปฏิบัติการที่ไม่มีใครทราบมาก่อน และทำพร้อมกันในช่วงกลางคืนท่ามกลางประชาชนที่พบเห็นด้วยความเศร้าสลดใจ แต่ไม่สามารถทำอะไรได้ แม้แต่การออกไปบันทึกภาพ เพราะมีเจ้าหน้าที่ถืออาวุธปืนยืนคุมเข้มในบริเวณอนุสรณ์สถาน
          
ชาวเมียนมาที่เห็นเหตุการณ์ในเมืองผาอ่าง และจังหวัดเมียวดี เล่าว่า พวกเขาทำลายซุ้มรูปโค้งประตูทางเข้า-ออกที่สร้างไว้อย่างงดงาม ในสมัยนางอองซาน ซูจี เป็นแกนนำรัฐบาล และเป็นแบบเดียวกันทุกพื้นที่ได้ถูกรื้อพังไปทั้งหมด คงเหลือแต่สภาพดั้งเดิม นอกจากนี้ ยังรื้อรูปภาพวีรบุรุษที่ร่วมกู้ชาติกับนายพล อองซานออกไปด้วย