วันอังคาร ที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2568 15:09 น.

ต่างประเทศ

จีนมุ่งสู่“ไฟฟ้าสีเขียว”เดินหน้าหนุนการเปลี่ยนผ่านระดับโลก

วันจันทร์ ที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2568, 19.06 น.

จีนมุ่งสู่“ไฟฟ้าสีเขียว”เดินหน้าหนุนการเปลี่ยนผ่านระดับโลก

ปักกิ่ง, 22 ธ.ค. (ซินหัว) — ในฐานะที่เป็นผู้ใช้ไฟฟ้าอันดับหนึ่งของโลก จีนประสบความสำเร็จครั้งสำคัญในการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาด ซึ่งมีสัดส่วนถึงหนึ่งในสามของปริมาณการผลิตไฟฟ้าทั้งหมดภายในประเทศ การเปลี่ยนแปลงนี้ได้ปรับโฉมภูมิทัศน์โครงสร้างอุตสาหกรรมทั้งระดับประเทศและระดับโลก ด้วยการบูรณาการแหล่งพลังงานหมุนเวียนเข้ากับชีวิตประจำวันและการผลิตในภาคอุตสาหกรรมขนาดใหญ่

ภูมิภาคตะวันตกเฉียงเหนือของจีน อาทิ ชิงไห่ ซินเจียง และหนิงเซี่ย ได้เปลี่ยนพื้นที่ทะเลทรายอันกว้างขวางให้กลายเป็นศูนย์กลางพลังงานหมุนเวียน โดยพื้นที่เหล่านี้ได้ใช้ประโยชน์จากทรัพยากรแสงอาทิตย์และกระแสลมที่อุดมสมบูรณ์ ประกอบกับต้นทุนค่าที่ดินที่ต่ำ ในการผลิตพลังงานสะอาดปริมาณมหาศาล

ตำบลหมิ่นหนิง เขตปกครองตนเองหนิงเซี่ยหุยทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีน ถือเป็นตัวอย่างสำคัญของการพัฒนา จากเดิมที่เป็นพื้นที่ยากจนสู่การเป็นเขตสาธิตพลังงานสะอาดตลอด 24 ชั่วโมง โดยตำบลหมิ่นหนิงสามารถผลิตไฟฟ้าได้มากกว่า 550 ล้านกิโลวัตต์ชั่วโมง (kWh) ต่อปี ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนได้ถึง 188,300 ตัน พร้อมทั้งเป็นแหล่งพลังงานหลักให้แก่ภาคอุตสาหกรรมในท้องถิ่นและครัวเรือนกว่า 11,000 หลังคาเรือน

ตำบลหมิ่นหนิงได้ใช้ระบบจัดเก็บพลังงานขั้นสูงที่ช่วยกักเก็บพลังงานแสงอาทิตย์ส่วนเกินในช่วงกลางวัน เพื่อนำออกมาใช้ร่วมกับพลังงานลมในช่วงกลางคืน โครงสร้างพื้นฐานนี้ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายด้านระบบทำความร้อนของผู้อยู่อาศัยลดลงอย่างมากเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยในระดับสากล

ในมณฑลแถบชายฝั่งทะเลอย่างกว่างตง (กวางตุ้ง) และเจียงซู ได้มุ่งเน้นการสร้างคลัสเตอร์กังหันลมใกล้ชายฝั่ง (Offshore wind clusters) และระบบพลังงานแสงอาทิตย์แบบกระจายศูนย์ในบริเวณใกล้เคียงสวนอุตสาหกรรม กลยุทธ์นี้สามารถตอบสนองความต้องการใช้ไฟฟ้าที่สูงในท้องถิ่น พร้อมกับลดค่าใช้จ่ายด้านโครงสร้างพื้นฐานและการส่งสัญญาณทางไกล

ความแข็งแกร่งของภาคอุตสาหกรรมจีนสะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนผ่านศักยภาพการผลิตชิ้นส่วนโซลาร์เซลล์ ซึ่งปัจจุบันครองส่วนแบ่งสูงถึง 80-90% ของผลผลิตทั่วโลก ยิ่งไปกว่านั้น กลุ่มธุรกิจสตาร์ตอัปของจีนเริ่มประสบความสำเร็จในการพัฒนาเชื้อเพลิงการบินที่ยั่งยืน (SAF) โดยการเปลี่ยนก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และไฮโดรเจนสีเขียวให้กลายเป็นเชื้อเพลิงเหลว

การบูรณาการทางเทคโนโลยีถือเป็นสิ่งสำคัญ จีนได้นำเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตแห่งสรรพสิ่ง (loT) มาใช้สร้าง “ศูนย์ประสานงานกลาง” (Nerve center) สำหรับโครงข่ายไฟฟ้า การเชื่อมต่อกันนี้ช่วยให้อุปกรณ์ประเภทต่างๆ สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถจัดการกระแสข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสร้างเสถียรภาพในกับกระบวนการการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน

(แฟ้มภาพซินหัว : โครงการบูรณาการพลังงานความร้อนแสงอาทิตย์และไฟฟ้าโซลาร์เซลล์ขนาด 1 กิกะวัตต์ (GW) อำเภอซ่านซ่าน เมืองถู่หลู่ฟาน เขตปกครองตนเองซินเจียงทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีน วันที่ 28 ก.ค. 2025)

(แฟ้มภาพซินหัว : สถานีกักเก็บพลังงานร่วมภายในสวนอุตสาหกรรม ในตำบลหมิ่นหนิง อำเภอหย่งหนิง เมืองอิ๋นชวน เขตปกครองตนเองหนิงเซี่ยหุย ทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีน วันที่ 30 ก.ค. 2025)

(แฟ้มภาพซินหัว : โครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนทุ่นลอยน้ำในทะเลของบริษัทซิโนเปก ชิงเต่า รีไฟน์นิง แอนด์ เคมีคอล ในเมืองชิงเต่า มณฑลซานตงทางตะวันออกของจีน วันที่ 4 ก.ค. 2025