Red Sun  (เรดซัน) ร้านอาหารเกาหลีชื่อดังที่ขึ้นชื่อด้วยรสชาติเมนูอาหารเกาหลีต้นตำรับระดับแชมป์ประกาศรีแบรนด์ครั้งใหญ่ เอาใจ New Gen ปูทางสู่การเป็นผู้นำร้านอาหารเกาหลีในประเทศไทย ภายใต้แนวคิด Korean with a Twist  สลัดภาพเดิมสู่โฉมใหม่สดใสและสนุกกว่าเคย ทั้งบรรยากาศร้าน ประสบการณ์การรับประทานอาหาร และเมนูใหม่ พร้อมจัดเต็มต่อยอดเมนูสุดฮิตสู่บริการ Grab & Go เพื่อขยายฐานกลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบอาหารเกาหลี เดินเกมรุกทุ่ม 40 ล้านบาท สำหรับการรีแบรนด์ เปิดสาขาใหม่และรีโนเวทสาขาเดิมรวมถึงสิ้นปีนี้มี 15 สาขา พร้อมตั้งเป้ายอดขายโตไม่น้อยกว่า 40% ในปีนี้

 

นายนพวินท์ รอดริน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฟู้ดซัน จำกัด กล่าวถึงแผนเดินเกมรุกสู่เป้าหมายผู้นำร้านอาหารเกาหลีในประเทศไทย และจุดเริ่มต้นของการรีแบรนด์ในครั้งนี้ว่า Red Sun มีเป้าหมายในการเป็นผู้นำร้านอาหารเกาหลีในประเทศไทย ซึ่งนั่นหมายถึงการทำให้เกิดปรากฏการณ์อาหารเกาหลีในระดับแมส เช่นเดียวกับวัฒนธรรมเกาหลีในรูปแบบอื่นๆ ทั้งแฟชั่น ดนตรี และซีรีส์ ซึ่งพบว่าวัฒนธรรมอาหารเกาหลีในประเทศไทยได้รับความนิยมเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้มูลค่าตลาดอาหารเกาหลีในไทยมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องโดยมีมูลค่าถึงกว่า 2,000 ล้านบาทในปัจจุบัน

 

 

แต่อย่างไรก็ตาม เรามีความเชื่อมั่นว่าตลาดอาหารเกาหลีจะยังเติบโตได้อีกมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับกลุ่ม New Gen ทั้งปัจจัยเรื่องเทรนด์เกาหลีที่มาแรง และความเป็นเอกลักษณ์ของรสชาติอาหารเกาหลีที่มีความโดดเด่นไม่เหมือนใคร ซึ่งด้วยเป้าหมายธุรกิจและโอกาสทางการตลาดทำให้ Red Sun มองหาแนวทางที่จะขยายตลาดเชิงรุกโดยเจาะกลุ่มเป้าหมาย New Gen ที่มีอายุ 18 – 25 ปี ควบคู่ไปกับการสร้างจุดเปลี่ยนให้กับตลาดอาหารเกาหลีในประเทศไทยให้เกิดการรับรู้และความนิยมเพิ่มมากขึ้น

 

นี่จึงเป็นที่มาของแผนการรีแบรนด์ Red Sun แบบพลิกโฉม 360 องศา ภายใต้แนวคิด “Korean with a Twist” ซึ่งถูกคิดมาจากจุดแข็งของแบรนด์ คือ “การพัฒนาสินค้าที่ไม่หยุดยั้งและแปลกใหม่เสมอ” เพื่อตอบสนองความต้องการและตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของกลุ่มเป้าหมายที่ปรับเปลี่ยนไปตามกระแสความนิยมเกาหลีในยุคใหม่ โดยยังคงรักษากลิ่นอายของความเป็นออริจินัลไว้ตามแบบฉบับของ Red Sun  

 

เริ่มตั้งแต่ Corporate Identity โดย Red Sun ทุกสาขาในประเทศไทยจะมีการเปลี่ยนโลโก้ใหม่ทั้งหมด ซึ่งโลโก้ดังกล่าว ถูกพัฒนามาจากรูปแบบของกระทะของ Red Sun ที่ไม่เหมือนใคร และออกแบบให้ดูทันสมัยขึ้น สำหรับโทนสีใหม่ จากเดิมสีแดงเข้ม มีการเพิ่มคู่สีน้ำเงินและขาว เข้ามาเสริม เพื่อให้เข้ายุคสมัย Dynamic มากขึ้นสดใสขึ้น

ร้าน Red Sun โฉมใหม่ ที่จะเป็นลุคใหม่ของแบรนด์ที่จะดูสว่างขึ้น สดใสมากขึ้น โดยเลือกใช้วัสดุและงานดีไซน์ที่เหมาะกับคนรุ่นใหม่ การตกแต่งภายใน เน้นกราฟิกที่ดัดแปลงจากลวดลายโลโก้และวัตถุดิบภายในร้าน

 

ประสบการณ์ใหม่ มีการออกแบบประสบการณ์แบบอร่อยหลากหลายได้ในมื้อเดียว กับ ชุดเมนู ”Combo Set”  ชู  3 แกนเมนูหลัก ทั้งเมนูชึกซอกต็อกปกกี่, ข้าวผัดเรดซัน, ชิคเก้นบอง เพื่อให้ลูกค้าได้ลิ้มรสชาติเมนูเด็ดอันเป็นเอกลักษณ์ทั้ง 3 แบบ ได้ครบจบในเซตเดียว โดยเพิ่มทางเลือกขนาดเมนูไซส์เล็ก หรือ “S” เพื่อให้ลูกค้าที่มาตั้งแต่  1 – 2 คนขึ้นไป สามารถเข้าถึงเมนูได้หลากหลายเมนูมากขึ้น ในราคาที่เข้าถึงได้ รวมถึงการเพิ่มโซนบริการแนว Grab & Go บริเวณหน้าร้าน เพื่อเพิ่มประสบการณ์การรับประทานอาหารเกาหลี ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การกินอาหารในแบบคนเมือง และให้คนทั่วไปสามารถเข้าถึงการรับประทานอาหารเกาหลีในเวลาเร่งรีบ พร้อมกันนี้ ยังเอาใจ New Gen ด้วยประสบการณ์ความสนุกในการเข้ามาทานอาหารในร้าน Red Sun ให้ได้สนุกกับมื้ออาหารของตัวเองบนโต๊ะ อย่างเมนู เมนูจูม๊อบบับ ที่มาพร้อมอุปกรณ์มาให้ลูกค้าได้ปั้นข้าวผสมสาหร่ายเพื่อรับประทานเองในแบบที่ชอบ หรือ ข้าวเขย่าที่ให้ลูกค้าสนุกกับการเขย่าข้าวกล่องในสไตล์เกาหลีด้วยตัวเอง หรือ แม้แต่เมนูไก่พันชีส ที่จะมีพนักงานมาพันชีสรอบไก่ทอดสไตล์เกาหลีให้ตรงหน้าลูกค้า เพิ่มสีสันการรับประทานอาหารเกาหลีที่สนุกยิ่งขึ้น

 

 

 

เพิ่มเมนูใหม่ จากหัวใจสำคัญของแนวคิด “Korean with a Twist” คือ รักษาความเป็นออริจินัลด้านคุณภาพและรสชาติ ที่เป็นซิกเนเจอร์ของ Red Sun ได้แก่ ต๊อกปกกี่ และข้าวผัดเรดซัน ได้ถูกนำมาปรับ หรือ Twist เพื่อให้เกิดเมนูใหม่ๆ รวมถึงการสร้างสรรค์ประสบการณ์การรับประทานอาหารเกาหลีแนวใหม่ ด้วยสโลแกน Eat Twist More เพื่อให้ Red Sun เป็นร้านอาหารที่มอบประสบการณ์ความอร่อยระดับแชมป์แบบเกาหลีที่จะมีการปรับให้สนุกและถูกปากคนไทยยิ่งขึ้น โดยมีการพัฒนาเมนูเพิ่มเติมขึ้นกว่า 20 เมนู ทั้ง หม้อต็อกปกกี่ ข้าวผัดเรดซัน ชิคเก้นบอง ของทานเล่น จานเดี่ยว รวมทั้งเครื่องดื่มและของหวานในสไตล์เกาหลีที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะสำหรับ Red Sun

 

ด้านแผนการขยายสาขาภายใต้โฉมใหม่นี้ นายนพวินทร์กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบัน Red Sun มีสาขาในประเทศไทยทั้งสิ้นรวม 13 สาขา (กรุงเทพ 11 สาขา และต่างจังหวัด 2 สาขา) โดยสาขาล่าสุด สาขาที่ 13 คือ สาขาสยามเซ็นเตอร์ เป็นร้าน Red Sun ในลุคใหม่ เปิดให้บริการตั้งแต่ต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา และหลังจากนี้ จะเปิดเพิ่มในปีนี้อีก 2 สาขา คือ สาขาเดอะมอลล์ งามวงศ์วาน และสาขาเซ็นทรัล ลาดพร้าว โดยเตรียมเงินลงทุนไว้ทั้งสิ้น 40 ล้านบาท สำหรับการรีแบรนด์, เปิดสาขาใหม่ และรีโนเวทร้านเดิม โดยสาขาเดิมจะรีโนเวท ปรับโลโก้ อุปกรณ์ในร้าน และเมนูเป็นแบบใหม่ทั้งหมด ซึ่งลูกค้าสามารถเข้าไปพิสูจน์ประสบการณ์ความอร่อยและความสนุกได้แล้วตั้งแต่เดือนกันยายนนี้ สำหรับสาขาใหม่ที่สยามเซ็นเตอร์ และจะปรับโฉมทุกสาขา แล้วเสร็จในเดือนพฤศจิกายน  

 

“เรามั่นใจว่าด้วยโฉมใหม่นี้จะทำให้ Red Sun เข้าถึงและตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของกลุ่มเป้าหมายอายุ 18 - 25 ปี ด้วยภาพลักษณ์ใหม่ที่สดใส สนุกกว่าเดิม จะเข้ามาช่วยให้เกิดการเข้าถึงที่มากขึ้น ซึ่งจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้     แบรนด์ Red Sun เข้าไปอยู่ในใจกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น ด้านเป้าหมายธุรกิจในปีนี้ Red Sun ตั้งเป้ารายได้โตไม่น้อยกว่า 40% ซึ่งมีปัจจัยมาจากความสำเร็จของโปรโมชั่นต่างๆ รวมถึงผลตอบรับจากการรีแบรนด์ในครั้งนี้…  

 

การรีแบรนด์คือหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจ Red Sun ตามเป้าหมายสู่การเป็นผู้นำร้านอาหารเกาหลีในประเทศไทย และนับเป็นปรากฏการณ์การตลาดครั้งสำคัญของการพลิกโฉมครั้งใหญ่ของแบรนด์สัญชาติเกาหลี ภายใต้การพัฒนาและสร้างสรรค์โดยผู้บริหารสิทธิแฟรนไซส์สัญชาติไทย รวมถึงการได้รับความไว้วางใจจากเจ้าของแบรนด์และผู้ก่อตั้งให้สามารถนำแบรนด์โฉมใหม่นี้ไปใช้ในการขยายสาขาในระดับภูมิภาคต่อไป” นายนพวินท์ กล่าว