บิ๊กซี ศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้าชั้นนำของประเทศไทย ร่วมพันธมิตรกับ แอคมีเดีย ประเทศไทย ผู้นำการให้บริการโซลูชั่นด้านสื่อโฆษณาและกิจกรรมทางการตลาดในร้านค้าปลีกสมัยใหม่ ขยายสื่อโฆษณาในร้านรูปแบบดิจิทัล ณ จุดขาย เพื่อกระตุ้นการรับรู้ให้กับแบรนด์ สร้างประสบการณ์การซื้อสินค้ารูปแบบใหม่ให้ผู้บริโภค

 

จากสถานการณ์โควิด 19 ที่กระทบในประเทศไทยและทั่วโลก ผู้บริโภคหันมาให้ความสำคัญเรื่องความปลอดภัยและสุขภาพมากขึ้น ถึง  69% เลือกซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคประจำวันในร้านค้าสะดวกซื้อใกล้บ้าน ในขณะที่หมวดสินค้าจำเป็น เช่น ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าและผิวกาย ดูแลเส้นผม และความงาม มีการเติบโตสูงเพิ่มขึ้น 42% ความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้นนี้ ทำให้นักการตลาดต้องปรับกลยุทธ์ เพื่อให้แน่ใจว่าผู้บริโภคมองเห็นผลิตภัณฑ์บนชั้นวางสินค้าได้อย่างเต็มที่ นั่นคือเหตุผลที่บิ๊กซีผนึกความร่วมมือเชิงพันธมิตรกับ 

 

 

แอคมีเดีย เปิดตัวสื่อโฆษณาในร้านค้ารูปแบบดิจิทัล เติมเต็มสื่อรูปแบบโปสเตอร์ เพิ่มประสิทธิภาพของสื่อในการสื่อสารกับผู้บริโภคสอดรับยุคนิวนอร์มอล ดิจิทัลมาแรง โอกาสในการเติบโตของแบรนด์และร้านค้าปลีก

 

ดร.ปิยะวรรณ ปิยะพงษ์ รองประธานธุรกิจบริการและพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) ห้างค้าปลีกในกลุ่มบีเจซี กล่าวว่า  บิ๊กซี ได้นำสื่อเทคโนโลยีรูปแบบใหม่เข้ามาใช้เพื่อทำให้สินค้าของแบรนด์ประสบความสำเร็จจากการใช้สื่อโฆษณา ณ จุดขาย ในรูปแบบบนชั้นวางสินค้า ล่าสุดได้ร่วมกับ แอคมีเดีย ผู้ซึ่งมีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์การติดตั้งสื่อโฆษณาในร้านค้าโดยตรง ถือเป็นก้าวแรกที่สำคัญของการผนวกรวมสื่อในรูปแบบดิจิทัลแบบไดนามิกคอนเท้นท์ ให้เข้ากับสื่อรูปแบบโปสเตอร์เพื่อให้เข้าถึงผู้บริโภคได้มากขึ้น 

 

ทั้งนี้บิ๊กซีได้ดำเนินการติดตั้งสื่อดิจิทัลให้แล้วเสร็จจำนวน 130 สาขา จาก 150 สาขาของไฮเปอร์มาร์เก็ต และในมินิบิ๊กซี 300 สาขา โดยคาดว่าจะติดตั้งให้แล้วเสร็จทุกสาขาภายในปี 64” 

 

 

“การใช้การโฆษณา ณ จุดขาย สามารถสร้างโอกาสให้ลูกค้าเข้าถึงข้อความประชาสัมพันธ์ที่อยู่บนชั้นวางสินค้าได้มากขึ้น กระตุ้นให้เกิดการซื้อที่ไม่ได้วางแผนมาก่อน ตลอดจนเปลี่ยนพฤติกรรมการซื้อของลูกค้าให้เป็นไปตามที่ร้านค้าต้องการ โดยอาศัยสื่อโฆษณาต่าง ๆ ในร้าน เพราะการใช้การโฆษณา ณ จุดขาย มีจุดเด่นของการเป็นสื่อสุดท้ายที่ลูกค้าจะเห็นก่อนตัดสินใจซื้อ ดังนั้นโอกาสที่ลูกค้าจะเปลี่ยนใจในแบรนด์สินค้ายิ่งสูงตามไป ในขณะเดียวกันยังช่วยให้กระตุ้นความทรงจำลูกค้า เกิดการจดจำแบรนด์ และกระตุ้นให้เกิดการซื้อ ณ จุดขาย เพิ่มขึ้นทั้งนี้ สื่อโฆษณา ณ จุดขาย ช่วยให้แบรนด์สามารถสื่อสารกับผู้ซื้อหลายล้านคนผ่านเครือข่ายทั่วประเทศผ่านหน้าจอดิจิทัลรวมถึงอัปเดตข่าวสาร อาทิ ข่าวประชาสัมพันธ์ โปรโมชั่น หรือข่าวสถานการณ์โควิด-19 เป็นต้น”

ดร.ปิยะวรรณ กล่าวเสริม

 

เร่งขยายไปพื้นที่ที่โตต่อเนื่อง  เดิร์ก ยัน เหร์มัน อาร์ทส, กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอคมีเดีย (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าว สำหรับ แอคมีเดียมีแผนขยายสื่อดิจิทัลให้เข้าถึงในพื้นที่ที่มีการเติบโตต่อเนื่องในแง่ของยอดขายและจำนวนผู้บริโภค เพื่อสร้างโอกาสในการมองเห็นที่ยอดเยี่ยม เรารุกเจาะโซนสินค้าความงามและสุขภาพ หรือ Health & Beauty Aids ในห้างโมเดริ์นเทรดก่อน ตามด้วยคอนวีเนียนสโตร์ ที่มีอัตราการเติบโตอย่างรวดเร็ว สื่อโฆษณาของ

 

แอคมีเดีย ได้ถูกพัฒนารูปแบบให้เป็นดิจิทัลมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ทีม Data Analytics สามารถนำข้อมูลมาวิเคราะห์ เช่น ใช้ระบบ Interactive ที่หน้าจอ ซึ่งเป็นสื่อโฆษณาที่สามารถโต้ตอบกับลูกค้าที่เข้ามาเลือกซื้อได้ทันที จะทำให้รู้ข้อมูล Demographics จากลูกค้า เป็นข้อมูลที่สำคัญสำหรับการวางแผนทำสื่อโฆษณาต่อไป นอกจากนี้เรายังรวบรวมข้อความแบบไดนามิกเหล่านี้เข้ากับสื่อแบบโปสเตอร์ สร้างการรับรู้สูงสุด เป็น Touch Point ที่ช่วย 

 

 

Remind Brand เกิดการรับรู้และกระตุ้นการตัดสินใจซื้อ ณ จุดขาย” เดิร์ก ยัน กล่าวต่อ “โครงการนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการอัปเกรดระบบดิจิทัลของเรา ก้าวต่อไปคือรุกอัปเกรดไปยังเครือข่ายอีกกว่า 1,000 แห่งทั่วประเทศ

 

แอคมีเดียที่โดดเด่นเรื่องการสร้างสรรค์สื่อโฆษณาในรูปแบบ Sensory Marketing เชื่อมโยงประสบการณ์ในเชิงอารมณ์ความรู้สึกให้เกิดขึ้นกับลูกค้าผ่านโสตประสาทสัมผัส คือ รูป กลิ่น เสียง สัมผัส ทำให้สื่อโฆษณาของแอคมีเดียได้เปรียบในเชิงการแข่งขัน กระตุ้นให้ลูกค้าเกิดความสนใจในสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพและตัดสินใจซื้อ ณ จุดขายได้