วันพุธ ที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 02:49 น.

การตลาด

เปิดกลยุทธ์ "วรัตน์พล วรัทย์วรกุล"พา"ดิไอคอน"โกย หมื่นล้าน

วันเสาร์ ที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2565, 16.34 น.
 
บริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป จำกัด เป็นบริษัทอีคอมเมิร์ส ที่มียอดขายติดอันดับหนึ่งของประเทศไทย และในไตรมาส 4 ของปีนี้ ดิไอคอนฯ ยังคงเติบโตแบบก้าวกระโดด ด้วยการวางระบบ Dropship Fulfillment ให้เจ้าของธุรกิจสั่งออเดอร์ โดยทางบริษัทจะจัดการแพ็กและจัดส่งสินค้าให้ถึงลูกค้าปลายทางแบบครบจบ ดิไอคอนฯ ยังตอกย้ำแผนการตลาด ปี 2566 พร้อมชูสินค้าแบรนด์ BOOM ที่มี 6 พระเอกซุปตาร์เป้าหมายหลักบุกตลาดทั้งไทยและอาเซียน
 
 
คุณวรัตน์พล วรัทย์วรกุล ประธานกรรมการบริหาร ผู้ก่อตั้งและอยู่เบื้องหลังความสำเร็จของบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่าแผนการตลาดของบริษัท ในไตรมาส 4 ปี 2565 ว่า บริษัทยังคงรุกตลาดผลิตภัณฑ์แบรนด์ BOOM เป็นหลัก โดยมี 6 พระเอกซุปตาร์ดัง คือ ป้อง-ณวัฒน์ ,บอย-ปกรณ์ ,เวียร์-ศุกลวัฒน์ ,โดม-ปกรณ์ ลัม, กันต์-กันตถาวร และ พีพี-กฤษฏ์ อำนวยเดชกร เป็นพรีเซนเตอร์ และได้รับการตอบรับจากกลุ่มลูกค้าที่เป็นแฟนคลับของพรีเซนเตอร์ทั้ง 6 ท่านเป็นอย่างดี เตรียมบุกตลาดทั้งไทยและอาเซียนเพิ่มมากขึ้น ด้วยการขยายไลน์สินค้าจากเดิมที่มีอยู่ เพื่อเป็นการเพิ่มความหลากหลายให้กับตัวแบรนด์มากขึ้น อีกทั้งยังเป็นการตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในช่วงอายุ Gen Y X Z ที่มีกำลังซื้อและรักสุขภาพเพิ่มมากขึ้น หลังจากผ่านพ้นช่วงวิฤกติ โรคโควิด 19
 
 
สำหรับผลิตภัณฑ์สินค้า แบรนด์ BOOM ที่จำหน่ายและได้รับความนิยม ได้แก่ คอลลาเจน Boom, กาแฟ Room, ยาสีฟัน Boom และBOOM D-Nax เพราะสินค้าดังกล่าวตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็น รูป รส กลิ่น และคุณสมบัติที่โดดเด่น คือ เป็นผลิตภัณฑ์อาหารเสริมสำหรับคนรักและดูแลสุขภาพ ส่วนสินค้าที่ทางบริษัทคาดว่าเตรียมจะแตกไลน์เพิ่ม เพื่อทำยอดขายในปี 2566 ซึ่งเป็นแผนการตลาดที่ทางบริษัทฯ ได้เตรียมไว้ ได้แก่ ผลิตภัณฑ์โปรตีนเสริม สายสุขภาพตัวจริง และผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ในหลายรูปแบบเพื่อตอบโจทย์ให้กับกลุ่มเป้าหมายในยุคปัจจุบัน
 
 
คุณวรัตน์พล ยังกล่าวด้วยว่า แผนการตลาดในปี 2566 ไม่ได้ขยายเพียงแค่ผลิตภัณฑ์สินค้า แบรนด์ BOOM เท่านั้น ทางบริษัทฯ เตรียมขยายในการสร้างแบรนด์สินค้าตัวอื่นเพิ่มขึ้น และยังคงใช้พรีเซนเตอร์ที่เป็นซุปตาร์ระดับท็อปเทนของเมืองไทยในการโฆษณาประชาสัมพันธ์ เพื่อเป็นช่องทางช่วยทำตลาดให้กับบรรดาตัวแทนจำหน่ายของบริษัทฯ นอกเหนือจากการยึดกลยุทธ์ 3 ดี คือ 1.สินดีค้า 2.ราคาดี และ 3.การตลาดดี อีกทั้งทางบริษัทยังใช้ช่องทางแพลตฟอร์มออนไลน์ของบริษัทฯ ซึ่งเป็นจุดแข็งของบริษัทฯ ในการวางระบบ Dropship Fulfillment เพื่อตัวแทนไม่ต้องสต็อกสินค้าแต่สามารถจัดส่งผ่านการสั่งซื้อได้ทันทีอย่างต่อเนื่อง เป็นระบบที่สร้างยอดขายให้บริษัทฯ เติบโตอย่างก้าวกระโดดในทุกวันนี้อีกด้วย
 
 
 
ทั้งนี้บริษัทฯ ใช้งบการตลาด 20-30 เปอร์เซนต์ของยอดขายทั้งหมด ไม่นับรวมกิจกรรมการส่งเสริมการตลาดที่เรามอบให้กับตัวแทนจำหน่าย ปีที่ผ่านมาสามารถทำยอดขายทะลุ 4,900 ล้านบาท ไปเแล้ว
 
ล่าสุดซื้อที่ดิน จำนวน 63ไร่ แถวรามอินทรา เพื่อสร้างเมืองแห่งการเรียนรู้ออนไลน์ มูลค่ากว่า พันล้านบาท คาดว่าจะเสร็จในอีก 3 ปี จากนี้ ภายในเมืองแห่งการเรียนรู้นี้ จะมีทั้งศูนย์ประชุม ศูนย์ฝึกอบรม ตัวแทนจำหน่ายออนไลน์ สตูดิโอ ฯลฯ
 
พร้อมตั้งเป้าไว้ว่าอีก 5 ปีข้างหน้า จะก้าวขึ้นเป็นบริษัทระดับ 10,000 ล้านต่อปี ส่วนตลาดในต่างประเทศ ที่ผลิตภัณฑ์สินค้าของบริษัทฯ เข้าไปจำหน่ายและได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ส่วนใหญ่จะอยู่ในตลาดอาเซียน ได้แก่ สปป.ลาว, กัมพูชา และเมียนมาร์ ฯลฯปัจจุบันบริษัทมีฐานกว่า2แสนราย สำหรับสินค้าที่ขายดี 3 อันดับแรกคือ คอลลาเจน กาแฟ และยาสีฟัน
 
"รายได้จากปี62 อยู่ที่ 322 ล้านบาท ปี63 อยู่ที่ 378 ล้านบาท และปี 64 อยู่ที่ 4,950ล้านบาท คาดว่าสิ้นปีนี้ รายได้ต่ำกว่าเป้าหมายเล็กน้อย"
 
นอกจากนี้ในปีหน้าทางบริษัทฯ ยังเตรียมการรุกตลาดในกลุ่ม AEC ให้มากขึ้น จากนั้นจะขยายไปยังหลายประเทศทั่วโลก ในอนาคตอันใกล้

หน้าแรก » การตลาด