การตลาด
"ลิวกง" ลั่นเป้าโต 3 เท่าภายใน 5 ปี ปูพรมศูนย์บริการฯ กว่า 30 สาขาทั่วไทย
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่
"ลิวกง" ลั่นเป้าโต 3 เท่าภายใน 5 ปี ปูพรมศูนย์บริการฯ กว่า 30 สาขาทั่วไทย

"ลิวกง" ยักษ์เครื่องจักรกลจากจีน ประกาศปักธงประเทศไทย เปิดแผนรุก 5 ปี เป้าเติบโต 3 เท่าตัว จากสิ้นปี 68 คาดทำยอดขายได้ 1,100 ยูนิต รายได้รวม 2,000 ล้าน ชี้เศรษฐกิจชะลอ แต่งานก่อสร้างท้องถิ่นยังเติบโต ชูจุดแข็ง 3 ด้าน "สินค้าตอบโจทย์ครบ–ทีมขายแกร่ง-บริการหลังการขายเลิศ" พร้อมส่ง LiuGong 922F รถขุด 22 ตันรุ่นล่าสุด สำหรับงานก่อสร้าง งานถนน งานเหมืองและงานป่าไม้
นายปรีชาพล เวชรักษ์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ลิวกง ยนต์ตระการ จำกัด ผู้แทนจำหน่ายเครื่องจักรกลหนักแบรนด์ลิวกง (LiuGong) ในประเทศไทย เปิดเผยในงาน LiuGong Thailand Customer Day 2025 ที่จัดขึ้นเพื่อแถลงแผนยุทธศาสตร์ 5 ปีของบริษัทฯ ต่อลูกค้าทั่วประเทศ ว่าตั้งเป้าครองส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้นทุกเซกเมนท์ ทั้งงานอุตสาหกรรม งานก่อสร้าง และงานเกษตร เพื่อผลักดันยอดขายสู่ 7,500 ล้านบาท หรือ โตกว่า 3 เท่าจากปัจจุบัน
“ตลาดเครื่องจักรกลหนักของประเทศไทยปีนี้ คาดว่ายังเติบโตเพิ่มขึ้นแม้ภาพรวมเศรษฐกิจค่อนข้างชะลอตัว ทั้งนี้เป็นผลจากงานก่อสร้างของภาครัฐและองค์การปกครองส่วนท้องถิ่นที่ยังดำเนินต่อเนื่องโดยขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.5 ขณะที่ภาคเอกชนมีอัตราเติบโตเพียงร้อยละ 1 ซึ่งลิวกงมีสัดส่วนการตลาดอยู่ที่ร้อยละ 9 ของตลาดเครื่องจักรกลหนัก คิดเป็นยอดรายได้ 2,000 ล้านบาท จากจำนวนยอดขาย 1,100 ยูนิต โดยลูกค้าหลักมาจากกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง งานเหมือง โรงงานอุตสาหกรรม และโรงงานด้านผลผลิตทางการเกษตร หากในแผน 5 ปีที่จะรุกคืบ หนึ่งในกลยุทธ์การตลาดคือขยายช่องทางจัดจำหน่ายทั้งออนไลน์ และออฟไลน์”นายปรีชาพล กล่าว
อย่างไรก็ตามลิวกง ยนต์ตระการ กำหนดแผนกลยุทธ์หลักเพื่อบรรลุตามเป้าหมาย 5 ปีไว้ 3 ด้าน คือ อันดับแรก มีสินค้าตอบโจทย์ครบทุกกลุ่มอุตสาหกรรมในราคาที่เข้าถึงได้ ทั้งแบบใช้น้ำมัน และใช้ไฟฟ้า (BEV) รองรับตั้งแต่งานก่อสร้างทั่วไปจนถึงโครงการเมกะโปรเจกต์ อาทิ รถตักล้อยาง รถขุด รถบด รถเกรด รถดันดิน รถปูถนน รถไสถนน รถบรรทุกงานเหมือง แท่นขุดเจาะ รถกระเช้า รถตัดอ้อย รถแทรกเตอร์ และรถทรัคเครน เป็นต้น
อันดับต่อมา มุ่งขายโซลูชั่นส์ตอบโจทย์ความต้องการมากกว่าขายสินค้า ซึ่งบริษัทฯได้พัฒนาฝ่ายขายและฝ่ายผลิตภัณฑ์ให้เป็นที่ปรึกษาและช่วยลูกค้าวางแผนว่าสินค้าชนิดใดตอบโจทย์คุ้มค่าสุด พร้อมนำสินค้าหลากชนิดที่มีอยู่เข้าไปเปิดตลาดกลุ่มใหม่ให้มากยิ่งขึ้น
อันดับสุดท้าย ชูจุดแข็งงานบริการหลังการขาย ด้วยทีมช่างที่มีประสบการณ์สามารถแก้ปัญหารวดเร็ว ด้วยค่าบริการสมเหตุสมผล โดยปัจจุบันมีศูนย์บริการและกระจายสินค้ารวม 29 แห่งครอบคลุมทุกพื้นที่สำคัญทั่วประเทศ และวางแผนขยายเพิ่ม 4 พื้นที่ภายในปี 2569 ได้แก่ 1.สระบุรี รองรับกลุ่มโรงโม่หิน 2.ตาก รองรับกลุ่มเหมืองและลูกค้าฝั่งเมียนมา 3.จันทบุรี รองรับลูกค้าภาคตะวันออก และ 4.เพชรบุรี หรือ ประจวบคีรีขันธ์ รองรับลูกค้าภาคตะวันตกและเชื่อมต่อเครือข่ายศูนย์บริการฯ ลิวกงในภาคใต้
พร้อมกันนี้ภายในงาน ลิวกง ได้เปิดตัวรถขุดตีนตะขาบขนาด 22 ตัน รุ่นล่าสุด LiuGong 922F ซึ่งได้ออกแบบและพัฒนามาจากรุ่น E-Series เพื่อให้ตอบสนองต่อความต้องการและการใช้งานของลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น สำหรับลูกค้า “กลุ่มงานก่อสร้าง งานถนน งานเหมืองและงานป่าไม้” พร้อมกันนี้ยังได้นำเครื่องจักรอื่นๆ มาจัดแสดง เช่น รถตักล้อยางไฟฟ้า รุ่น 838TE รถขุดเล็ก รุ่น 9025FZTS รถทรัคเครน รุ่น LTC120L4 และรถแทร็คเตอร์ รุ่น LT1604

นายปรีชาพล กล่าวเสริมว่า ในส่วนผลิตภัณฑ์กลุ่มรถตักล้อยางที่ลิวกงเป็นผู้นำตลาดในไทยด้วยมาร์เก็ตแชร์กว่า 40% บริษัทฯ ตั้งเป้าเจาะตลาดรถตักล้อยางขนาด 6-10 ตัน สำหรับกลุ่มงานเหมืองและโรงโม่เพิ่มขึ้นเพื่อครองความเป็นเจ้าตลาดรถตักล้อยางในไทยแบบเบ็ดเสร็จ จากปัจจุบันที่ครองตลาดกลุ่มงานก่อสร้างและภาคการเกษตรเรียบร้อยแล้ว
ทั้งนี้ ภายในงาน LiuGong Thailand Customer Day 2025 ยังมีพิธีมอบรางวัลผู้ชนะการแข่งขัน The 8th LiuGong Global Technical Skills Competition ซึ่งเป็น Global Campaign เฟ้นหาสุดยอดช่างเทคนิคด้านการซ่อมบำรุงเครื่องจักรกลหนักแบรนด์ลิวกง ที่มีผู้เข้าแข่งขันในรอบคัดเลือกมากกว่า 300 คน จาก 20 ประเทศทั่วโลก ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่รอบชิงชนะเลิศจัดขึ้นในประเทศไทย ณ สำนักงานใหญ่ บริษัท ลิวกง ยนต์ตระการ จำกัด จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จากเดิมที่รายการนี้จะจัดเฉพาะที่ประเทศจีนเท่านั้น
อนึ่ง ปัจจุบันลิวกง มีศูนย์บริการและกระจายสินค้า 29 แห่ง กระจายในทุกพื้นที่สำคัญทั่วประเทศ แบ่งเป็นโซนภาคเหนือ 9 แห่ง ได้แก่ เชียงราย เชียงใหม่ ลำปาง น่าน สุโขทัย พิษณุโลก กำแพงเพชร เพชรบูรณ์ นครสวรรค์ โซนภาคอีสาน 6 แห่ง ได้แก่ นครราชสีมา ขอนแก่น บุรีรัมย์ อุบลราชธานี อุดรธานี มุกดาหาร โซนภาคกลาง 4 แห่ง ได้แก่ กรุงเทพฯ อยุธยา อ่างทอง นนทบุรี ภาคตะวันออก 4 แห่ง ได้แก่ ระยอง ชลบุรี จันทบุรี ปราจีนบุรี ภาคตะวันตก 2 แห่ง ได้แก่ ราชบุรี กาญจนบุรี และ โซนภาคใต้ 4 แห่ง ได้แก่ สงขลา ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่
หน้าแรก » การตลาด
Top 5 ข่าวการตลาด ![]()
- ซีพี แอ็กซ์ตร้า ยกระดับโมเดล “ลดทิ้ง สร้างค่า AXTRA Zero Waste” จัดการอาหารส่วนเกินครบวงจร ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ 24 ต.ค. 2568
- Central & Robinson ผนึก ททท. รังสรรค์รังโกลีใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯ ฉลองเทศกาล Diwali เทศกาลแห่งแสงสว่างและความสุข ต้อนรับนักท่องเที่ยวอินเดียจากทั่วโลก 24 ต.ค. 2568
- ‘อ้ายฉีอี้’ จับมือ 7-Eleven เปิดตัว “iQIYI VIP Gift Card” พร้อมโปรโมชั่นสุดคุ้ม ดูสนุก ดูฟิน สะดวกทั่วประเทศใกล้บ้านคุณ 24 ต.ค. 2568
- “กัลเดอร์มา” เปิดเวที GAIN Business CEO Forum ถอดรหัสกลยุทธ์บริหารคนและขับเคลื่อนธุรกิจความงามสู่การเติบโตที่ยั่งยืนในยุค AI 24 ต.ค. 2568
- เจแปนนีสเลิฟเวอร์ห้ามพลาด “Food Paradise!! TOTTORI Fair in THAILAND” 24 ต.ค. 2568
ข่าวในหมวดการตลาด ![]()
ซีพีแรม ชวนคนไทยกินเจแบบไม่จำเจ! จัดเต็มกว่า 50 เมนู 09:55 น.- “ฉลองสายสัมพันธ์ 50 ปี ไทย-จีน : หม่าโจ้วแห่งเหมยโจวเยือนประเทศไทย” 21:07 น.
- SYSTEMA ปฏิวัติตลาดแปรงสีฟัน สานต่อความสำเร็จ “วันเปลี่ยนแปรง” สู่ “BrushVolution” 18:51 น.
- JASPAL ร่วมฉลองครบรอบ 70 ปีความยิ่งใหญ่ของ “ก็อตซิลล่า” เปิดตัว “JASPAL x GODZILLA” ลิมิเต็ดคอลเลกชั่น 18:41 น.
- ซีพี แอ็กซ์ตร้า รับรางวัล “The Best Sustaining Partner Award 2025” ในงาน SOS Thailand Awards 2025 18:25 น.




