วันพฤหัสบดี ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568 06:31 น.

การตลาด

เซ็นทาราเผยความก้าวหน้าด้านความยั่งยืน พร้อมเดินหน้าสู่เป้าหมายสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล ตอกย้ำบทบาทผู้นำอุตสาหกรรมท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน

วันพุธ ที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568, 15.40 น.

 

 ธีระยุทธ จิราธิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โรงแรมและรีสอร์ทในเครือเซ็นทารา  เครือโรงแรมชั้นนำของประเทศไทย เผยความสำเร็จโดดเด่นในทุกมิติด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (Environment, Social and Governance - ESG) พร้อมเดินหน้าขับเคลื่อนกลยุทธ์ด้านความยั่งยืนสู่เป้าหมาย เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน สอดคล้องกับพันธกิจหลักของเซ็นทาราในการมอบประสบการณ์การบริการแบบไทยที่ผสานนวัตกรรม ความอบอุ่นแบบครอบครัว และความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคมด้วยกันอย่างสมดุล

 

ด้วยความมุ่งมั่นในการส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน เซ็นทาราได้ยกระดับระบบการบริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นรูปธรรมตั้งแต่ปี 2009 ซึ่งตลอดระยะเวลาเกือบ 20 ปี ที่ผ่านมา เซ็นทาราสามารถบรรลุผลลัพธ์ที่สำคัญได้ครบถ้วนในทุกมิติ ทั้งด้านสิ่งแวดล้อม (Environment), สังคม (Social) และธรรมาภิบาล (Governance) ได้อย่างโดดเด่น

 

และเพื่อเป็นการตอกย้ำในเรื่องของวิสัยทัศน์ กลยุทธ์ และเป้าหมายด้าน ESGของบริษัท เซ็นทารายังได้ประกาศกลยุทธ์ด้านความยั่งยืนภายใต้ชื่อ C-E-N-T-A-R-A Sustainability Blueprint ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของการดำเนินธุรกิจของเซ็นทารา เพื่อใช้ในการกำหนดทิศทางและพัฒนาหลักปฏิบัติงานด้านสิ่งแวดล้อมขององค์กรในระยะยาวโดยกลยุทธ์นี้ แยกออกเป็น 7 หัวข้อ อันได้แก่

 

 

ทั้งนี้ ยังได้รวบรวมเอาโรดแมปด้านความยั่งยืนของบริษัท ตั้งแต่ปี 2009 – ปัจจุบัน เพื่อแสดงให้เห็นถึงพัฒนาการและการเติบโตในภาพรวมออกมาได้ดังต่อไปนี้

 

ปี 2009 เซ็นทาราริเริ่มการนำระบบบริหารจัดการตามมาตรฐาน EarthCheck มาใช้ เพื่อยกระดับการดำเนินงานด้านการจัดการสิ่งแวดล้อมตามมาตรฐานสากล

 

ปี 2014 โรงแรมในเครือต่างๆ ได้เริ่มเข้าร่วมการรับรองมาตรฐานของประเทศไทย ในด้านโครงการโรงแรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Green Hotel) โดยกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม

 

ปี 2016 เซ็นทาราได้จัดตั้งโครงการ My Green Day เพื่อเสริมสร้างการมีส่วนร่วมของแขกผู้เข้าพักในการไม่เปลี่ยนผ้าเช็ดตัวและผ้าปูที่นอน รวมถึงการไม่ทำความสะอาดห้องพัก เพื่อลดการใช้น้ำและสารเคมี อีกทั้งยังช่วยสร้างความตระหนักรู้ด้านการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนให้แก่แขกผู้เข้าพัก

 

ปี 2018 เซ็นทาราลดและยกเลิกการใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง (single-use plastic) ในพื้นที่ให้บริการลูกค้า โดยมีการยกเลิกการใช้หลอดพลาสติก และเปลี่ยนเป็นหลอดที่ทำจากพืช รวมถึงการยกเลิกการใช้ถุงซักผ้าพลาสติก และเปลี่ยนเป็นวัสดุแบบใช้ซ้ำได้ พร้อมทั้งปรับเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์สำหรับของใช้ส่วนตัวภายในห้องพักเป็นแบบรีฟิลเพื่อลดการใช้บรรจุภัณพ์พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง

 

ปี 2019 จัดทำโครงการ P.O.P. Fish (Plastic Only, Please) เพื่อสะท้อนปัญหาขยะพลาสติก โดยP.O.P Fish จะถูกจัดวางในพื้นที่ส่วนกลางหรือบริเวณชายหาดของโรงแรม เพื่อให้แขกผู้เข้าพักสามารถนำขยะพลาสติกไปหย่อนได้ ซึ่งทางโรงแรมจะรวบรวมและนำส่งไปรีไซเคิล เพื่อเป็นการลดจำนวนขยะพลาสติก และแปรรูปขยะพลาสติกให้สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้

 

ปี 2021 มาตรฐานความยั่งยืนของธุรกิจโรงแรม ภายใต้ชื่อ Centara EarthCare ได้รับการรับรองมาตรฐาน GSTC-Recognized จากสภาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนโลก (Global Sustainable Tourism Council) สะท้อนถึงแนวทางปฏิบัติและกรอบการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อมของโครงการ Centara EarthCare ที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล

 

ปี 2025 โรงแรมและรีสอร์ทในเครือเซ็นทาราผ่านการรับรองมาตรฐาน GSTC ครบทั้ง 42 แห่ง ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ตามเป้าหมายของเซ็นทารา

 

 

ด้านสิ่งแวดล้อม (Environment)

เซ็นทารามุ่งมั่นบริหารจัดการทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านไปสู่ธุรกิจคาร์บอนต่ำ อันจะนำไปสู่ผลลัพธ์ที่สำคัญในระยะยาว ดังนี้

 

การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

  • เซ็นทาราประกาศเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลง 40% ภายในปี 2029 เทียบปีฐาน 2019 

ปัจจุบันปล่อยก๊าซเรือนกระจก31.53 kgCO2e ต่อห้องพักที่มีการใช้งานลดลงได้แล้วกว่า 35% ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมโรงแรมในไทยตาม Cornell Hotel Sustainability Benchmarking (CHSB) Index ถึง 51.94%

 

 

ทั้งนี้ เซ็นทาราตั้งเป้าการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ในปี 2050 (Net Zero 2050) โดยได้กำหนด 3     พันธกิจหลักในการบรรลุเป้าหมาย Net Zero ดังนี้

  1. ลดความเข้มข้นการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (GHG) ต่อห้องพักที่มีการใช้งาน ลง 40% ให้ได้ ภายในปี 2029

  2. การจัดการห่วงโซ่อุปทานอย่างยั่งยืน ผ่านการส่งเสริมการใช้วัสดุที่ยั่งยืนและผลิตภัณฑ์คาร์บอนต่ำ เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

  3. การบูรณาการด้านการเงินและการลงทุนอย่างยั่งยืน ผ่านจัดสรรทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการรับมือสภาพภูมิอากาศ การบรรเทาผลกระทบ และการปรับตัว 

 

การขับเคลื่อนพลังงานหมุนเวียนและเพิ่มประสิทธิภาพพลังงาน

  • ติดตั้งระบบโซล่าเซลล์ (Solar Cell) เสร็จสิ้นแล้วทั้งหมด 14 โรงแรม ซึ่งสามารถช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้กว่า 2,970 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า หรือเท่ากับการปลูกต้นไม้กว่า 300,000 ต้น

  • ในปี 2025 ตั้งแต่ต้นปี จนถึงเดือนตุลาคม สามารถผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดรวม 4,780 MWh คิดเป็น 4% ของการใช้ไฟฟ้าทั้งหมด

  • ปรับปรุงระบบประหยัดพลังงาน เช่น Smart Sensor, Energy Management System (EMS), District Cooling และ Building Management System

 

การบริหารจัดการน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ

  • ลดการใช้น้ำได้ 30.08% ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ คือลดการใช้น้ำลง 20% เทียบจากปี 2019

  • ในปี 2025 มีการนำน้ำเสียที่ผ่านการบำบัดกลับมาใช้ใหม่ในการรดน้ำต้นไม้ภายในโรงแรมรวมกว่า 454,416 ลูกบาศก์เมตร

 

 

การบริหารจัดการขยะอย่างเป็นระบบและลดขยะไปสู่หลุมฝังกลบ

  • ลดขยะไปสู่หลุมฝังกลบได้ 24.52% สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 20%เทียบจากปีฐาน 2019

  • อัตรารีไซเคิลเฉลี่ย 28.85%

  • สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่จากขยะพลาสติก เช่น กระเป๋าและหมวก Upcycling จากขวด PET รวมกว่า 3,872 กิโลกรัม จาก 4 โรงแรมในจังหวัดกระบี่

 

ด้านสังคมและชุมชน (Social)

เซ็นทาราเดินหน้าพัฒนาโครงการเพื่อสังคมต่างๆ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของคน สร้างโอกาสทางเศรษฐกิจให้กับชุมชน รวมถึงเสริมสร้างโอกาสทางอาชีพ ผ่านโครงการและนโยบายขององค์กร อาทิ 

  • ตั้งแต่ปี 2017 ส่งต่ออาหารส่วนเกินคุณภาพดีสู่ชุมชน เพื่อแก้ปัญหาความหิวโหยและจัดการปัญหาขยะอาหารในประเทศไทยอย่างมีประสิทธิภาพ โดยร่วมมือกับมูลนิธิ Scholars of Sustenance Thailand (SOS) 

  • โครงการ 1 โรงแรม 1 ผลิตภัณฑ์ และ Community Market เพื่อช่วยสนับสนุนสินค้าชุมชนกว่า 6,000 ชิ้น จากผู้ประกอบการท้องถิ่น และจัดสรรพื้นที่รวมกว่า 6,300 ตารางเมตร ให้ผู้ประกอบการท้องถิ่นได้มีพื้นที่จำหน่ายสินค้าภายในโรงแรมโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย

  • เสริมสร้างโอกาสทางอาชีพให้แก่กลุ่มเปราะบาง โดยเซ็นทารามีอัตราการจ้างงานผู้พิการเกินกว่ากฎหมายการจ้างงาน อีกทั้งยังมีการจ้างงานผู้สูงอายุด้วยเช่นกัน

  • ส่งเสริมการมอบประสบการณ์ทำงานที่ดีสำหรับพนักงานทุกคน The Place to Be - Best Workplace

 

ด้านธรรมาภิบาล (Governance)

เซ็นทารามุ่งเน้นการดำเนินงานอย่างโปร่งใส รับผิดชอบ และมีจริยธรรม โดยมีหลักการดำเนินงานและหลักปฏิบัติต่างๆ อย่างชัดเจน 

  • เซ็นทาราได้รับการประเมินมาตรฐานการกำกับดูแลกิจการบริษัทจดทะเบียนระดับ “ดีเลิศ” (5 ดาว) ต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 จากสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย

  • เซ็นทาราเป็นสมาชิกโครงการแนวร่วมปฏิบัติของภาคเอกชนไทยในการต่อต้านการทุจริต (Collective Action Coalition - Thailand’s Private Sector Collective Action Coalition Against Corruption: CAC) ตั้งแต่ปี 2559 และผ่านการรับรองการต่ออายุการเป็นสมาชิกต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 3 และ ได้รับรางวัล CAC Change Agent Award ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ในการชักชวนคู่ค้าเข้าร่วมประกาศเจตนารมณ์ในการต่อต้านคอร์รัปชันของภาคเอกชนไทย

  • จัดหาเงินกู้ส่งเสริมความยั่งยืน (Sustainability-Linked Loan) และออกตราสารหนี้ส่งเสริมความยั่งยืน (Sustainability-Linked Bond) รวมไปถึงหุ้นกู้เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม (Green Bond) รวมมูลค่ากว่า 8,786 ล้านบาท เพื่อขับเคลื่อนเป้าหมาย ESG และสนับสนุนการลงทุนโครงการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมในระยะยาว

 

 

“เพราะเราเชื่อว่าการเติบโตของธุรกิจต้องเดินควบคู่ไปกับความรับผิดชอบต่อสังคม สิ่งแวดล้อม และชุมชนที่เราเป็นส่วนหนึ่ง เราจึงมุ่งมั่นยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยให้เติบโตขึ้นอย่างสมดุล”            

ธีระยุทธ จิราธิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โรงแรมและรีสอร์ทในเครือเซ็นทารา กล่าว “ความสำเร็จจากการได้รับการรับรองมาตรฐาน GSTC ครบทุกโรงแรม รวมถึงผลลัพธ์ด้านการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่ก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของเซ็นทาราในระยะยาว โดยเราจะยังคงเดินหน้าพัฒนาโครงการด้านสิ่งแวดล้อมและคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ อย่างไม่หยุดนิ่ง เพื่อขับเคลื่อนเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) ในมิติต่างๆ ให้บรรลุเป้าหมาย พร้อมสร้างประสบการณ์การท่องเที่ยวอย่างมีคุณค่าและยั่งยืนต่อไปในอนาคต”

 

หน้าแรก » การตลาด

Top 5 ข่าวการตลาด