วันพุธ ที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 01:04 น.

การเมือง

"บิ๊กตู่"แจงศึกซักฟอก! ยันยึดมั่นปชต.อภิปรายกลับยกเหตุหลังปี 2557

วันจันทร์ ที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563, 15.36 น.

"บิ๊กตู่"แจงศึกซักฟอก! ยันยึดมั่นปชต.อภิปรายกลับยกเหตุหลังปี 2557 "ยุทธพงศ์"อภิปรายนายกฯร่ำรวยผิดปกติ ขณะที่ "เฉลิม"เผยเตรียมกำลังส.ส.ประท้วงรบ.กลับ

วันที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2563 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ลุกขึ้นชี้แจงครั้งแรกภายหลัง นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทยและผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร เปิดการอภิปรายไม่ไว้วางใจและพาดพิงหลายประเด็น ว่า วันนี้มีรอยยิ้มแจ่มใส ไม่โกรธ เข้ามาสภาฯ ด้วยความยินดี เพราะถือเป็นเป็นกลไกตามระบอบประชาธิปไตยไทย ทุกคนในที่สภาฯ ก็มาด้วยรัฐธรรมนูญฉบับเดียวกัน อาจจะไม่ถูกใจใครทั้งหมด พร้อมถามกลับว่า จำได้หรือไม่ตนได้เสียงเท่าไรในสภาฯ เกิน 250 เสียง โดยไม่รวม ส.ว. และบางอย่างที่ผู้นำฝ่ายค้านอภิปรายก็ไม่ใช้ข้อเท็จจริงโดยสมบูรณ์          

ในเรื่องไม่ยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตย ล้มล้างรัฐธรรมนูญ พล.อ.ประยุทธ์ แจงว่า ไม่เคยมีความคิดนี้ ทุกคนต่างทราบดีว่าวันที่ 22 พ.ค. 2557 เกิดอะไร เป็นสิ่งที่ทำให้ต้องมายืนอยู่ตรงนี้ เพราะจำเป็นต้องแก้ปัญหาให้ประเทศชาติสงบ ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนทั้งหมด ขอให้ย้อนกลับไปดูพฤติกรรมของคนก่อนหน้านี้ แต่ไม่ได้กล่าวถึงใคร อยากให้ประชาชนเปรียบเทียบดู เอาข้อเท็จจริงมาพูดกัน ทุกอย่างมีหลักฐาน ตนเองไม่เคยก้าวล่วงใคร ยืนยันว่าส่วนตัวไม่ได้มีกิริยาหยาบคาย แต่ก็มีการตัดคลิปมา จริงๆ เป็นคนอารมณ์เย็น แม้จะดุไปบ้าง แต่ก็เป็นความจริงใจ พร้อมย้ำว่ารัฐบาลทำเพื่อประชาชนทุกฝ่าย ขอว่าอย่าไปก้าวล่วงอำนาจศาล ถ้าไม่มีความผิดหรือพยานหลักฐาน ก็ลงโทษไม่ได้
          
ส่วนเรื่องการใช้กฎหมายมาตรา 44 นายกรัฐมนตรี ระบุว่าเพื่อแก้ปัญหาต่างๆ และทำสำเร็จไปแล้วหลายอย่าง ไม่ใช่การใช้ มาตรา 44 อย่างเดียว แต่เพื่ออำนวยความสะดวกควบคู่กับการใช้กฎหมายปกติ อยากให้ดูว่ามีกี่คดีทุจริตที่ถูกดำเนินคดีแล้ว ก่อนหน้านี้เคยได้รับการแก้ไขหรือไม่ ย้ำว่าไม่มีใครสร้างหลักฐานได้ ที่ผ่านมามีผลงานเป็นที่ประจักษ์ ทำด้วยเจตนารมณ์ที่บริสุทธ์ ไม่ใช่นั่งหัวโต๊ะแล้วสั่งให้ทำ รวมถึงไม่ได้ก้าวล่วงอำนาจ หลายเรื่องนำมาแก้ไขแม้ไม่ได้เกิดในสมัยของตนเอง และทุกหน่วยงานชี้แจงได้หมด
          
ในช่วงท้าย พล.อ.ประยุทธ์ ระบุว่า "จริงๆ แล้วเขาบอกไม่ให้ผมพูดมากนัก ผมพูดแค่นี้ยังอารมณ์ไม่ขึ้นเลยนะเนี่ย ยังอารมณ์ดีทุกอย่าง ลุคของผมเป็นอย่างนี้ ผมเป็นสุภาพบุรุษ เป็นทหาร เพราะฉะนั้นจะต้องรักษาสัตย์ของผมเอง ต้องรักษาจิตใจของผมเอง จริงๆ แล้วไม่อยากจะก้าวล่วงใครทั้งสิ้น แต่ก็จำเป็นเพราะเป็นเวทีแห่งการอภิปราย ผมต้องการคำอภิปรายที่เป็นประโยชน์ ใช่หรือไม่ใช่ ดีหรือไม่ดี เดี๋ยวผมชี้แจง ก็กรุณาฟังคำตอบของพวกผมด้วย ถึงจะนำไปสู่การแก้ไขปัญหาที่ชัดเจนยิ่งขึ้น และหลายอย่างวันนี้มีการบิดเบือนกันมาก โดยเฉพาะเฟคนิวส์" 
          
ทั้งนี้ ในระหว่างที่นายกรัฐมนตรีกำลังชี้แจง นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย ได้ประท้วงว่า นายกรัฐมนตรีกล่าวข้อความอันเป็นเท็จในสภาฯ ว่า เป็นนายกฯ โดยไม่ได้ใช้เสียง ส.ว. แต่ในวันโหวตเป็นการประชุมร่วมของ ส.ส. และ ส.ว. ทางด้าน นายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ วินิจฉัยว่านายกรัฐมนตรีไม่ได้ทำผิดข้อบังคับและให้อภิปรายต่อ โดย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ถ้าชี้แจงง่ายไม่เข้าใจก็ยากที่จะชี้แจงต่อไป ก่อนจะยิ้มแล้วขอหยุดการอภิปรายแต่เพียงเท่านี้ จากนั้นจึงเป็นการอภิปรายของ นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย 

หลังจากนั้นเพจพรรคพลังประชารัฐ ได้โพสต์ข้อความพร้อมภาพประกอบความว่า  
 
“ในการกระทำก่อนหน้าวันที่ 22 พ.ค. 2557 มีมาต่อเนื่อง มีเหตุการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้น เช่น ความไม่สงบเรียบร้อย การบริหารราชการไม่ได้ และกระบวนการทำลายอำนาจตุลาการ ไม่ยอมรับกระบวนการยุติธรรม ถ้าเป็นชาวบ้านทั่วไปเขายอมรับการติดคุกครับ แต่บางคนไม่ยอมติดคุก การออกกฎหมายนิรโทษกรรมในเวลากลางคืน ท่านว่าผมวันนี้ท่านต้องย้อนกลับไปดูพฤติกรรมของคนก่อนหน้านี้ด้วยว่าทำอะไรบ้าง เราจะยอมให้ประเทศเป็นอย่างนั้นเหรอ นั่นคือเหตุผลที่ผมเข้ามาตั้งแต่ตอนนั้น"

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวระหว่างอภิปรายไม่ไว้วางใจ

"ยุทธพงศ์"อภิปรายนายกฯร่ำรวยผิดปกติ
 
ต่อจากนั้นนายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย กล่าวอภิปรายไม่ไว้วางใจ ว่า ตนไม่อาจไว้วางใจให้ พล.อ.ประยุทธ์ ทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีอีกต่อไป โดยสิ่งที่ตนจะกล่าวหามีดังนี้ 1.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีการกระทำอันเป็นการขัดกันแห่งผลประโยชน์ในประเด็นเรื่องรายการบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของนายกรัฐมนตรีที่ร่ำรวยผิดปกติ 2.ในฐานะผู้บริหารราชการแผ่นดินละเมิดหลักนิติธรรมละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ทำให้รัฐเสียหายอย่างต่อเนื่องและมีข้อทักท้วงข้อเสนอแนะแต่ไม่สนใจไม่พยายามที่จะแก้ความเสียหายทำให้เกิดความเสียหายต่อรัฐอย่างต่อเนื่อง ทำให้เห็นว่านายกรัฐมนตรีใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่เพื่อประโยชน์ส่วนตัว บริวารและพวกพ้องโดยไม่คำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติบริหารราชการแผ่นดินโดยขาดความรู้ความสามารถ ผิดพลาดอย่างร้ายแรง 3.เรื่องทุจริตต่อหน้าที่ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบจงใจปฏิบัติหน้าที่หรือใช้อำนาจขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญของกฎหมาย 4. บริหารงานขาดประสิทธิภาพไม่ไว้วางใจให้พลเอกประยุทธ์บริหารราชการแผ่นดินในนามนายกรัฐมนตรีต่อไป นับตั้งแต่ 22 พฤษภาคม 2557 กระบวนการตรวจสอบในสภาได้เว้นช่วงไป ซึ่งนายกรัฐมนตรีมีการกระทำที่เป็นมูลเหตุจุงใจ หรือเพียงบริหารราชการแผ่นดินที่ไม่เหมาะสมหรือไม่ นายกบริหารงานตามหลักนิติธรรมหรือไม่
          
อย่างไรก็ตาม ประเด็นทรัพย์สินและหนี้สินนั้น เป็นการร่ำรวยผิดปกติและได้เห็นแบบนี้มาอย่างต่อเนื่องตลอด 6 ปี แต่มีอภิริหารทางกฎหมายที่นายกรัฐมนตรีไม่ต้องชี้แจงและยื่นบัญชีทรัพย์สิน ซึ่งการยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินเป็นเครื่องมือทางกฎหมายประเภทหนึ่ง โดยการตรวจสอบรายการทรัพย์สินและหนี้สินพบว่ามีพฤติกรรมที่ร่ำรวยผิดปกติทั้งรายรับและรายจ่ายไม่สัมพันธ์กัน โดยผิดปกติวิสัย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการอภิปรายของนายยุทธพงศ์ ได้ใช้คำว่า "คุณประยุทธ์"  เสมอ ทำให้ นายวิโรจน์ สุนทรเลขา ส.ส.นครสวรรค์ พลังประชารัฐ ประท้วงญัตติไม่ชัดเจนประยุทธ์ ศิริพาณิชย์ หรือเปล่าและการอภิปรายมีความวกไปวนมา ต่อมาส.ส.พลังประชารัฐ และ นายศุภชัย ใจสมุทธ ประท้วง อยากให้เรียกพล.อ. ไม่ควรเรียกคุณ เพราะเป็นยศ ที่ได้รับโปรดเกล้ามาด้านนายชวนชี้ว่า การเรียกว่า คุณประยุทธ์ จะว่าไม่สุภาพก็ไม่ได้ เป็นเรื่องส่วนบุคคล และ นางปารีณา ลุกขึ้นประท้วง เรียกคุณชวน ให้พิจารณาคำวินิจฉัย ว่า เรื่องความเหมาะสมควบคุมได้ ถ้าผู้ได้มีการเรียกว่า คุณชวน หลีกภัย ท่านประธานก็สามารถควบคุมได้ขอให้วินิจฉัย จากนั้น นายชวน ชี้แจงว่า ไม่เรียกไอ้ ก็ไม่เป็นไร เรียกเสียงฮือฮาในสภา  ซึ่งนายชวนได้วินิจฉัยว่าไม่ผิดข้อบังคับและจริยธรรมข้อใด ส่วนมารยาทของผู้อภิปรายจะเป็นอย่างไรนั้นข้อบังคับไม่มีกำหนดไว้ ดังนั้นประชาชนที่รับฟังจะตัดสินเอง พร้อมกันนี้นายยุทธพงศ์ได้นำข้อมูลจากสื่อมวลชนมาประกอบในการอภิปรายด้วย

"เฉลิม"เผยเตรียมกำลังส.ส.ประท้วงรบ.กลับ

ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธานคณะกรรมการกิจการพิเศษ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยเปิด #ยุทธการอรุณรุ่ง และกองบัญชาการส่วนหลัง ที่พรรคเพื่อไทย เพื่อคอยซัพพอร์ตข้อมูลเป็นระยะ และหากมีการชกใต้เข็มขัด ตนเตรียมส.ส.ในสภาฯประท้วงผู้กำลังประท้วงเรียบร้อยแล้ว การอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีรายบุคคลในครั้งนี้ จะทำให้ประชาชนเห็นถึงความล้มเหลวการบริหารบ้านเมือง การประพฤติกรรมที่ส่อทุจริตช่วยเหลือพรรคพวกใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ ตนขอให้ประชาชนแชร์ความคิดเห็นผ่าน #ประชุมสภา เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลอย่างทันท่วงที

หน้าแรก » การเมือง

ข่าวในหมวดการเมือง