เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2563  กลุ่มผู้ชุมนุมคณะราษฎร และกลุ่มเยาวชนปลดแอก ได้โพสต์ข้อความ เปลี่ยนสถานที่การชุมนุม จากแยกราชประสงค์ มาที่แยกปทุมวัน ในเวลา 17.00 น. ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น ทั้งนี้ ตั้งแต่เวลา 17.00 จนถึง 18.22 น. พบว่า ผู้ชุมนุมเริ่มทยอยเดินทางเข้าพื้นที่บริเวณแยกปทุมวัน และมีการปราศรัยของแกนนำ รวมถึงมีการเปิดแฟลชสมาร์ทโฟนขณะที่ แยกเฉลิมเผ่า มีความเคลื่อนไหวสำคัญจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเคลื่อนที่มาทางถนนพระรามที่ 1 แยกปทุมวัน และมีเสียงเตือนจากเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นระยะๆ เพื่อกระชับพื้นที่  

เวลา 18.56 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้รถฉีดน้ำเข้าสลายการชุมนุม โดยผู้ชุมนุมกางร่มเพื่อป้องกัน พร้อมตะโกนว่า ออกไปฉีดน้ำ เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้รถน้ำฉีดน้ำเข้าใส่กลุ่มผู้ชุมนุมหลังจากตั้งแถวหน้ากระดานพร้อมโล่เคลื่อนออกจากแยกเฉลิมเผ่ามุ่งหน้าเข้าจุดการรวมตัวของผู้ชุมนุมคณะราษฎรเพื่อกระชับพื้นที่ พร้อมกับการประกาศผ่านเครื่องขยายเสียงเพื่อแจ้งให้ยุติการชุมนุม ขณะที่ผู้ชุมนุมยังคงรวมตัวกันอยู่เช่นเดิมเต็มพื้นที่พื้นถนน
          
เจ้าหน้าที่ตำรวจขยับเข้ามาใกล้ผู้ชุมนุมมากขึ้นห่างกันเพียงไม่กี่เมตร และเคาะโล่ให้เกิดเสียงดัง ขณะที่ผู้ชุมนุมส่วนหนึ่งนำแผงเหล็กมากั้นเป็นแนวป้องกันแนวของตำรวจ พร้อมทั้งตะโกน "ออกไป ออกไป" และ"หยุดคุกคามประชาชน" โดยแกนนำพยายามแจ้งให้ผู้ชุมนุมอยู่ในความสงบ

          
หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจฉีดน้ำแรงดันสูงเข้าใส่กลุ่มผู้ชุมนุมที่พยายามนำแผงเหล็กมาขวางไว้ และใช้ร่มป้องกัน ขณะที่เคลื่อนแถวเจ้าหน้าที่เข้ามาติดกับแนวของผู้ชุมนุม ทำให้ผู้ชุมนุมด้านหลังถอยร่นออกไปบางส่วน และขว้างปาสิ่งของเข้าใส่เจ้าหน้าที่ โดยยังพยายามต้านแนวของเจ้าหน้าที่ไว้

เวลา 19.00น. หลังจาก ตร.ฉีดน้ำหมดในรอบแรกจึงหยุดปฏิบัติการเพื่อเติมน้ำหลังกจากนั้นได้เริ่มฉีดน้ำเข้าใส่ผู้ชุมนุมอีกรอบพร้อมขยับคืบหน้าเข้ากระชับพื้นที่เพิ่มขึ้น ขณะที่กลุ่มผู้ชุมนุมได้ขยับเคลื่อนจุดศูนย์กลางการชุมนุมถอยไปปักหลักบริเวณหน้าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

กอร.ฉ.สั่งยุติการชุมนุมทันที ย้ำตำรวจพร้อมบังคับใช้กฏหมายทุกมิติ
 
ในเวลาด้วยกันที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) กองอำนวยการร่วมแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง (กอร.ฉ.) โดย พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงว่า หลังจากที่มีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรงในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร วันที่ 15 ตุลาคม 2563 กอร.ฉ.ได้ประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนไม่ให้มีการชุมนุมในพื้นที่กรุงเทพมหานคร อย่างไรก็ตาม ยังคงปรากฏว่ามีการฝ่าฝืนข้อกำหนดตามประกาศข้อกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ไม่เคารพต่อกฎหมายในช่วง 2-3 วันนี้ เพื่อให้สถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติสุขโดยเร็ว กอร.ฉ.จึงขอให้ที่ผู้ที่มาชุมนุมบริเวณสี่แยกปทุมวัน และพื้นที่อื่นๆ ให้ยุติการชุมนุม ณ บัดนี้ หากไม่ปฏิบัติตามและยังคงมีการฝ่าฝืนเจ้าหน้าที่จำเป็นมีความจำเป็นต้องบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องในทุกมิติ

เวลา 19.30 น.ตำรวจได้ฉีดน้ำอีกครั้งใส่ผู้ชุมนุมที่ยังเหลืออยู่ 

ตำรวจประชิดกลุ่มผู้ชุมนุมรื้อแผงกั้นกลิ่นแก๊สคลุ้งในพื้นที่

ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์ล่าสุด บริเวณหน้าห้างสยามเซ็นเตอร์ว่า กำลังเจ้าหน้าที่เริ่มเข้าพื้นที่อีกรอบ ซึ่งในพื้นที่เต็มไปด้วยกลิ่นแก๊ส หลายคนเริ่มแสบหน้า ทำให้ผู้ชุมนุมหลายคนเริ่มเดินไปทางแยกปทุมวัน
          
เวลา 19.38 น. ที่หน้าห้างลิโด้ เจ้าหน้าที่ได้มีการตีโล่ เพื่อเป็นการส่งสัญญาณว่า จะเข้าพื้นที่อีกรอบ ในส่วนของผู้ชุมนุมได้มีการถอยห่างออกไป แต่ยังมีการตั้งแผงเหล็ก กั้นไว้ ขณะที่อีกฟากมีการกั้นผู้ไม่เกี่ยวข้องให้ออกจากพื้นที่ ซึ่งเริ่มกระชับเข้าใกล้แยกปทุมวันแล้ว

          
เวลา 19.40 น. ที่หน้าห้างลิโด้ เริ่มมีการฉีดน้ำใส่กลุ่มผู้ชุมนุมอีกครั้ง ก่อนประชิดกลุ่มผู้ชุมนุม เพื่อเคลื่อนย้ายแผงเหล็ก และกระถางต้นไม้ ที่ถูกนำมาตั้งไว้ออก
          
เวลา 19.42 น. เจ้าหน้าที่ประกาศจัดแนว เพื่อเตรียมที่จะประชิดกลุ่มผู้ชุมนุมอีกครั้ง โดยเจ้าหน้าที่ได้เตรียมใส่หน้ากาก ก่อนจะทำการฉีดน้ำใส่กลุ่มผู้ชุมนุมที่อยู่บริเวณด้านหน้า
          
เวลา 19.44 น. ผู้ชุมนุมจากแยกปทุมวัน เคลื่อนขบวนการยัง จุฬาฯ

เวลา 20.00 น.แกนนำประกาศให้มวลชนแยกย้ายจนกว่าจะนัดรวมตัวกันใหม่ และเดียวกันตำรวจได้เตือนผู้สัมผัสแก๊สน้ำตาให้ใช้ผ้าเช็ดอย่าใช้น้ำล้าง และให้ประชาชนลงจากสะพานลอยทั้งหมดขัดขืนจับ 

"กอร.ฉ."แจงฉีดแก๊สน้ำตาใส่ม็อบ 

กองอำนวยการร่วมแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง(กอร.ฉ.) ชี้แจงว่า เนื่องจากกลุ่มผู้ชุมนุมได้ฝ่าฝืน พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินฯ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชน/ได้มีการใช้น้ำฉีด และใช้แก๊สน้ำตาประเภทสารเคมีผสมน้ำ ซึ่งเป็นไปตามหลักการสากล
          
ขอเรียนชี้แจงว่า ที่ปรากฏเห็นเป็นน้ำสีต่าง ๆ จากรถฉีดน้ำ คือ การนำสีซึ่งไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายมาผสมกับน้ำ โดยสีต่าง ๆ ที่ใช้ผสมลงไปในน้ำเป็นเพียงสีธรรมดาเท่านั้น เป็นการใช้จิตวิทยาให้ผู้ชุมนุมเกิดความกลัว และสีดังกล่าวล้างออกยากทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถแยกผู้ชุมนุมออกจากประชาชนทั่วไปได้
          
โดยในหลายประเทศก็ใช้วิธีนี้เช่นกัน ส่วนกรณีที่มีการใช้สารเคมีผสมน้ำฉีดพ่นกระจายเป็นวงกว้างนั้น สารเคมีดังกล่าว คือ แก๊สน้ำตาประเภทหนึ่ง สารผู้ที่สัมผัสจะไม่ได้รับอันตราย มีเพียงอาการแสบตาชั่วครู่และแสบระคายเคืองผิวหนังเท่านั้น พร้อมยืนยันว่าไม่มีการผสมสารเคมีประเภทกรดแต่อย่างใด
          
โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้จัดให้สารเคมีดังกล่าวเป็นอุปกรณ์ประจำกองร้อยควบคุมฝูงชน ซึ่งการจัดซื้อจะต้องเป็นสารเคมีที่มีมาตรฐานสากล ผ่านการทดสอบ ได้รับการยอมรับในเรื่องการควบคุมฝูงชน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ใช้จะต้องผ่านการฝึกอบรมตามที่กำหนดไว้

เจ้าหน้าที่สวมหน้ากากกันแก๊สน้ำตา 

เวลา 20.55 น. วันที่ 16 ต.ค. 2563 ภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าสลายการชุมนุมบริเวณแยกปทุมวัน ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ขณะนี้ทั้งคนที่ทำงานห้างสรรพสินค้าและผู้ไม่เกี่ยวข้องยังอออยู่บริเวณถนนพญาไทจำนวนมาก เพราะไม่สามารถกลับออกจากพื้นที่ได้ เนื่องจากตำรวจปิดเส้นทาง รวมถึงไม่มีรถประจำทาง และไม่สามารถกลับ BTS หรือ MRT ได้ ขณะที่แยกสามย่านมีมวลชนและนักเรียนจำนวนหนึ่งอยู่บริเวณนี้ ยังไม่สามารถหาทางกลับบ้านโดยรถขนส่งมวลชนได้เช่นกัน ทางด้านแยกราชเทวี เจ้าหน้าที่เปิดการจราจรแล้ว
          
ด้านเจ้าหน้าที่มีการเตรียมรถน้ำและมีการเติมสารบางอย่างลงไป โดยเจ้าหน้าที่เริ่มสวมหน้ากากกันแก๊สน้ำตากันแล้ว และจะมุ่งหน้าไปทางสนามกีฬาฯ เพื่อผลักดันมวลชนออกนอกพื้นที่ เจ้าหน้าที่ประกาศให้ขยับออกจากพื้นที่หน้าหอศิลป์ กรุงเทพฯ และใต้สะพานทั้งหมด