วันที่ 22 พฤศจิกายน 2563  ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ว่า พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 11 ราย แบ่งเป็น ผู้ที่ติดเชื้อในประเทศ 1 รายเพศชาย สัญชาติเมียนมา อายุ 48 ปี อาชีพรับจ้าง พักอยู่ในศูนย์พักพิงอุ้มเปี้ยม อ.พบพระ จ.ตาก เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน ผลตรวจพบเชื้อโดยมีอาการไข้ เข้ารับการรักษาที่ รพ.แม่สอด  , ผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ และเข้าสถานกักกัน (State Quarantine) 10 ราย  ประกอบด้วยประเทศฝรั่งเศส 1 ราย เนเธอร์แลนด์ 1 ราย สวิตเซอร์แลนด์ 1 ราย อังกฤษ 1 ราย สหรัฐฯ 1 ราย นอร์เวย์ 2 ราย ฮังการี 2  ราย  และผู้เดินทางมาจากเมียนมาร์ และไม่ได้เข้าสถานกักกัน 1 ราย
          
สำหรับจำนวนผู้ป่วยยืนยันสะสมในประเทศล่าสุดอยู่ที่ 3,913 ราย เป็นผู้ป่วยที่ติดเชื้อภายในประเทศ 2,454 ราย และผู้ป่วยที่เดินทางมาจากต่างประเทศ 1,459 ราย ส่วนผู้ป่วยรักษาหายแล้วเพิ่มอีก 5 ราย รวมเป็น 3,761 ราย ยังมีผู้ป่วยรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 92 ราย ยอดผู้เสียชีวิตสะสมคงที่ 60 ราย

ผู้นำกลุ่ม G20 เรียกร้องทั่วโลกสานต่อความร่วมมือสู้โควิด-19

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ซาอุดีอาระเบีย ซึ่งเป็นเจ้าภาพการจัดประชุม G20 ได้จัดการประชุมระดับสูงนอกรอบขึ้น ในประเด็นการเตรียมพร้อมรับมือกับโรคระบาด โดยเหล่าผู้นำและองค์กรโลกได้เน้นย้ำถึงความสำคัญในการสานต่อความร่วมมือเพื่อรับมือกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยเฉพาะการสนับสนุนประเทศที่อ่อนแอ พร้อมยกระดับการเตรียมพร้อมรับมือกับโรคระบาด โดยเพิ่มงบประมาณในการวิจัยและนวัตกรรมต่าง ๆ เพื่อสร้างวัคซีนและเครื่องมือในการควบคุมโรค
          
แถลงการณ์ระบุว่า ทั่วโลกกำลังเผชิญกับวิกฤตด้านสุขภาพและเศรษฐกิจในระดับที่รุนแรงอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ในโอกาสนี้ สมเด็จพระราชาธิบดีซัลมาน บิน อับดูลาซซส อัล ซาอุด กล่าวว่า โควิด-19 ได้พิสูจน์ให้เห็นว่า ความร่วมมือในระดับทวิภาคีเป็นหนทางที่ดีที่สุดในการเอาชนะวิกฤตต่าง ๆ
          
"เราจะต้องให้ความสำคัญกับภาคส่วนที่อ่อนแอ โดยให้การสนับสนุนทุกประเทศทั่วโลก เพราะเราคงไม่สามารถอยู่อย่างปลอดภัยได้ จนกว่าทุกคนจะปลอดภัยอย่างถ้วนหน้า"