วันพุธ ที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 11:56 น.

การเมือง

"ปิยบุตร" ลุยนครพนม ช่วยน้อง "คันคาย" ชิงเก้าอี้นายก อบจ.

วันศุกร์ ที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2563, 16.46 น.

"ปิยบุตร"ลุยนครพนม ช่วยน้อง"คันคาย"ณพจน์ศกร ทรัพย์สิทธิ์ ชิงนายก อบจ. ชวนหยุดการเมืองท้องถิ่นแบบ "ซูเอี๋ย" แยกให้ชัดฝ่ายประชาธิปไตย-ฝ่ายเผด็จการทุกระดับ

เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2563 ที่จังหวัดนครพนม นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ร่วมกับนายณพจน์ศกร ทรัพย์สิทธิ์ ผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) นครพนม เบอร์ 1 เปิดเวทีปราศรัยหาเสียงที่ อ.ปลาปาก และ อ.โพนสวรรค์

โดยนายปิยบุตร ระบุว่าการคัดเลือกผู้สมัครนายก อบจ.ของคณะก้าวหน้า จะต้องเป็นคนที่มีความรู้ วิสัยทัศน์ ศักยภาพในการพัฒนาจังหวัด และขาดไม่ได้ คือจะต้องมีจุดยืนเรื่องประชาธิปไตยด้วย ใครก็ตามต่อให้มีความรู้ความสามารถ แต่ไปจับมือให้ความร่วมมือกับประยุทธ์และการสืบทอดอำนาจ คณะก้าวหน้าเราไม่เอาเด็ดขาด

นายณพจน์ศกรมีประสบการณ์ในทางการเมืองในจังหวัดนครพนม เป็นน้องชายนายอรรถสิทธิ์ (คันคาย) ทรัพย์สิทธิ์ อดีต ส.ส.นครพนม 7 สมัย ที่อยู่ฝ่ายประชาธิปไตยและมีประสบการณ์ทำงานเพื่อชาวนครพนมมาอย่างยาวนาน และด้วยประสบการณ์เช่นนี้ บวกกับแนวคิดแนวทางใหม่ๆของคณะก้าวหน้า ทำให้นายณพจน์ศกรมีคุณสมบัติที่เหมาะสมครบครันเพื่อมาบริหารจังหวัดนครพนมเพื่อพี่น้องชาวนครพนมที่สุด

มีจุดยืนประชาธิปไตย มีความรู้ความสามารถพร้อมบริหารให้พี่น้องอย่างยิ่ง งบประมาณ อบจ.นครพนมได้รับ 500 ล้านบาทต่อปี มาจากภาษี มาจากหยาดเหงื่อของชาวนครพนมทุกคน ด้วยโจทย์นี่นายณพจน์ศกรได้รับการบ้านจากนายธนาธร ไปออกแบบนโยบาย จนได้นโยบายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างตลาดกลางปลาแม่น้ำโขง นโยบายขนส่งมวลชนสาธารณะให้ครอบคลุมทั้งจังหวัด ให้มีโอกาสในการเดินทาง การสร้างศูนย์รักษาโรคต้อกระจกในผู้สูงอายุให้ครอบคลุมทั่วจังหวัด และนโยบายอื่นๆที่จะพัฒนาคุณภาพชีวิตให้กับชาวนครพนม

ส่วนจุดยืนเรื่องความเป็นฝ่ายประชาธิปไตยก็ชัดเจน แน่นอนคำว่าฝ่ายประชาธิปไตยมีหลายกลุ่มหลายพรรค แต่ตนอยากให้พี่น้องมองให้ดี ต้องดูว่าแต่ละคนนั้นเป็นใคร ก่อนหน้านั้นทำอะไร วันนี้จุดยืนอยู่ตรงไหน ตนเชื่อมั่นว่าณพจน์ศกรมีจุดยืนชัดเจนไม่เอาประยุทธ์แน่นอน

"ไม่ใช่การเมืองท้องถิ่นแบบเดิมๆ ไอ้ประเภทที่ว่าในระดับชาติอยู่กันคนละฝ่ายคนละพรรคคนละสังกัด อภิปรายกันเลือดสาด แต่พอมาเป็นการเมืองท้องถิ่นกลับไปจับมือกันได้หมด แบบนี้เป็นการเมืองแบบเดิม สำหรับเราคณะก้าวหน้าเราต้องการแยกแยะตรงนี้ให้แจ่มชัด ชัดเจน ไม่มีการไปจับมือคนที่สนับสนุนประยุทธ์แน่นอน พอกันทีกับการเมืองซูเอี๋ยแบบเดิมๆ"  นายปิยบุตรกล่าว

นายปิยบุตรยังกล่าวอีกว่านอกจากนี้ การเลือกตั้งในระดับท้องถิ่นยังอาจส่งผลสะเทือนไปถึงการเมืองในระดับชาติเช่นกัน ก็เพราะพรรคอนาคตใหม่มาจนถึงคณะก้าวหน้า ชัดเจนว่าอยู่ตรงข้ามกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ถ้าชาวนครพนมออกมาร่วมกันกาเลือกพวกเราให้มากๆ นั่นก็จะเป็นการส่งสัญญาณที่ชัดเจนที่สุด ว่าชาวนครพนมต้องการให้ประยุทธ์ออกไปได้แล้ว

และหากพี่น้องเลือกผู้สมัครชองคณะก้าวหน้าทั่วประเทศให้ถล่มทลาย อย่างน้อยนั่นจะเป็นแรงหนุนเสริมให้กับลูกหลานของเราที่กำลังชุมนุมอยู่ทั่วประเทศในขณะนี้ เพราะในทางกลับกัน การเลือกตั้ง อบจ.ครั้งนี้มีผู้สมัครนายก อบจ.จำนวนมากที่เอาใจช่วย พล.อ.ประยุทธ์อยู่แต่ไม่กล้าบอกตรงๆ แล้วถ้าเขาเหล่านี้ชนะการเลือกตั้งได้มาก ก็จะต้องมาอ้างว่าคะแนนนิยมของรัฐบาลยังดีอยู่

"เพราะฉะนั้น ถ้าพี่น้องต้องการให้กำลังใจพวกเร สนับสนุนพวกเราให้สู้ต่อ ให้เอาชนะการเมืองท้องถิ่นแบบเก่า ไม่ต้องรอให้พวกเราพ้นโทษถึง 10 ปี 20 ธันวาคมนี้สำคัญอย่างยิ่ง ตื่นแต่เช้าเข้าคูหาจูงมือกันไปทั้งครอบครัว ให้เป็นวันแห่งครอบครัวประชาธิปไตย ร่วมกันกาผู้สมัครของคณะก้าวหน้า เผลี่ยนการเมืองแบบเก่าให้เป็นการเมืองแบบใหม่ ที่จะทำให้ชาวนครพนมเป็นใหญ่ แข่งกันที่นโยบาย แข่งกันทำความดีให้ประชาขน และได้ส่งสัญญาณแรงๆ ดังๆ ไกลๆ ว่าชาวนครพนมไม่เอาประยุทธ์ จันทร์โอชา และให้กำลังใจธนาธรเข้ามาทำงานให้พี่น้องและต่อสู้ต่อไป"  นายปิยบุตรกล่าวทิ้งท้าย

หน้าแรก » การเมือง

ข่าวในหมวดการเมือง