วันเสาร์ ที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2567 08:16 น.

การเมือง

17พ.ค.! ศบค.พบผู้ติดโควิดรายใหม่ 9,635 ราย ตาย 25 รายจากกทม.18 ราย

วันจันทร์ ที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2564, 12.53 น.

วันจันทร์ที่ 17 พฤษภาคม 2564  ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ได้รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ว่า พบผู้ติดเชื้อ COVID-19 รายใหม่เพิ่มอีก 9,635  ราย  โดยเป็นผู้ป่วยรายใหม่จากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 1,820  ราย ค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกในชุมชน  953 ราย ผู้เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้า State Quarantine 9ราย  รวมกับติดเชื้อจากเรือนจำ 6,853 คน 

และมีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 25  ราย เป็นเพศชาย 15 ราย เพศหญิง 10 ราย อายุเฉลี่ย 33-86 ปี ส่วนใหญ่มีโรคประจำตัว อ้วน และ สูงอายุ และมีปัจจัยเสี่ยงจากสัมผัสผู้ติดเชื้อที่เป็นคนในครอบครัว และผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้า ไปสถานที่แออัด ตลาด โรงพยาบาล และอาชีพเสี่ยง ทั้งนี้จากยอดดังกล่าวสูงสุดคือ กทม. 18 ราย

ทำให้ยอดผู้ป่วยยืนยันสะสม 111,082  ราย  โดยแบ่งเป็นผู้ป่วยที่ติดเชื้อภายในประเทศ 96,862 ราย จากเรือนจำ/ที่ต้องขัง 10,748 ราย ผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 3,472 ราย   หายป่วยแล้ว 67,200 ราย เพิ่มขึ้น 1,397 ราย กำลังรับการรักษา 43,268 ราย อาการหนัก 1,226 ราย ใส่เครื่องช่วยหายใจ 400 ราย และยอดเสียชีวิตสะสมเพิ่มเป็น 614 ราย

ราชทัณฑ์จับตาโควิดคุกคาดพุ่งอีกห่วงนักโทษล้น

นายอายุตม์ สินธพพันธ์, นายแพทย์วีระกิตติ์ หาญปริพรรณ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ และผู้เกี่ยวข้อง แถลงข่าว ผ่านระบบออนไลน์ไลฟ์สดเพจกรมราชทัณฑ์ เกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อโควิด -19 ภายในเรือนจำ ระบุว่า ปัจจุบัน ในเรือนจำมีนักโทษ ประมาณ 311,540 คน โดยจำนวนนี้ถือเป็นจำนวนที่ค่อนข้างสูง แต่มีเจ้าหน้าที่ปฎิบัติงานทั่วประเทศประมาณ 13,000 คน
          
ซึ่งหลังเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เรือนจำก็ได้มีการเข้มมาตรการป้องกันโรค โดยเฉพาะการกำหนดนโยบาย คนในห้ามออกคนนอกห้ามเข้าแต่ก็ยอมรับว่า แม้เรือนจำจะเป็นสถานที่ปิด แต่ในข้อเท็จจริง แต่ละวันเรือนจำก็ยังคงมีนักโทษใหม่, มีนักโทษที่เข้าออก เดินทางไปรักษาตัวที่ รพ. เนื่องจากมีอาการเจ็บป่วย รวมถึงนักโทษที่ไปศาลกลับมา ซึ่งส่วนนี้ก็ได้มีการกักตัวก่อนให้กลับเข้าแดนตามปกติ โดยห้องควบคุมในเรือนจำมีสภาพเก่า และคับแคบ เพราะมีปริมาณนักโทษจำนวนมาก ดังนั้นในเรื่องของสุขอนามัย หรือ การป้องกันควบคุมโรค จึงทำได้อย่างมีข้อจำกัด
          
ขณะนี้พบการติดเชื้อโควิด-19 ในเรือนจำ 15 แห่ง ทั่วประเทศ ส่วนอีกกว่า 100 แห่งที่เหลือ กำลังเร่งดำเนินการเฝ้าระวังอย่างเต็มที่ จากการปูพรมตรวจแบบ 100% ในจุดที่พบผู้ป่วยติดเชื้อตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งตัวเลขนี้อาจจะมีตัวเลขที่พุ่งสูงขึ้นอีก แต่ทั้งนี้ ขอให้มั่นใจว่าจะมีการรักษาผู้ป่วยเป็นอย่างดี โดยล่าสุดตนเองได้สั่งให้ตั้งศูนย์เพื่อติตดามตัวเลขผู้ป่วย ควบคู่กับการเติมคลอรีนในอ่างน้ำสำหรับผู้ต้องขัง และเพิ่มการใช้สบู่เหลว รวมถึงเจลล้างมือแอลกอฮอล์ สำหรับเรือนจำที่เฝ้าระวังในเขต กทม. ขณะนี้มีทั้งหมด 8 เรือนจำ เบื้องต้น ยืนยันว่าไม่ได้ปกปิดตัวเลขผู้ป่วย เพราะการตรวจค้นผู้ป่วยต้องเข้าห้องแล็บ เมื่อพบผู้ติดเชื้อเจ้าหน้าที่จะต้องคีย์ข้อมูลไปยังระบบของกระทรวงสาธารณสุขอยู่แล้ว ซึ่งตัวเลขก็จะปรากฎตามนั้น แต่อาจจะมีความคลาดเคลื่อนในเรื่องของเวลาที่อาจจะได้ไม่พร้อมกัน
          
อย่างไรก็ตาม จะเห็นว่า ตัวเลขสถานการณ์การแพร่ระบาดของกรมราชทัณฑ์มียอดสูงขึ้น ซึ่งตัวเลขดังกล่าวเกิดจากการที่กรมราชทัณฑ์มีการตรวจเชิงลึกในเวลาอันสั้น ประกอบกับการตรวจหาเชื้อโควิด ค่อนข้างมีความแปรปรวน เนื่องจากพบมีระยะฟักตัวที่นานขึ้น ทั้งนี้ จะเห็นได้ว่า มีเรือนจำอยู่เพียง 2 แห่งที่พบผู้ป่วยในอัตราสูง ซึ่งเรือนจำดังกล่าวมีลักษณะพิเศษคือ เป็นเรือนจำพิเศษและเป็นเรือนจำที่รับผู้ต้องขังรับใหม่
          
โดยที่ผ่านมา เรือนจำได้มีความพยายามหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการยุติธรรม เพราะกรมราชทัณฑ์เป็นหน่วยงานสุดท้ายที่ต้องรับสภาพในการคุมขังโดยข้อกฎหมายที่สั่งการมา โดยเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เป็นเรือนจำที่ตรวจโควิด-19 ไปแล้ว 100% ซึ่งตัวเลขก็ออกมาสูง และยังมีบางส่วนที่รอยืนยันอีกหลัง 7 วัน ว่าจะไม่มีผู้ที่แฝง หรือยังไม่แสดงผลบวก ข้อสังเกตคือเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เป็นเรือนจำที่รับผู้ต้องขังใหม่ เพราะฉะนั้น จึงเป็นการยากที่จะหลีกเลี่ยงที่จะมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่เข้ามาในเรือนจำ

 

หน้าแรก » การเมือง