วันอังคาร ที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2567 15:26 น.

การเมือง

แห่ตุน "ฟ้าทะลายโจร" แคปซูลบรรจุส่อขาดแคลน ต้องพึ่งพานำเข้า 100%

วันเสาร์ ที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2564, 14.30 น.

เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ.2564  นายพิษณุ อุชุวัฒน์ ประธานสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทยภาคตะวันออก และกรรมการผู้จัดการ บริษัท ปานะโอสถ จำกัด ผู้ผลิตยาสมุนไพร อาหารเสริมและสารสกัด เปิดเผยว่า จากความต้องการยาฟ้าทะลายโจรและผลิตภัณฑ์ฟ้าทะลายโจรที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว หลังจากที่จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายวันสูงต่อเนื่อง และความวิตกต่อความเสี่ยงที่อาจติดเชื้อโควิดต่อการใช้ชีวิตประจำวัน ทำให้ยอดผลิตและสั่งซื้อยาฟ้าทะลายโจรสูงขึ้นหลายเท่าตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา ทำให้อุตสาหกรรมยาและสมุนไพรโดยเฉพาะฟ้าทะลายโจรเริ่มเจอปัญหาหลายประการ ที่สำคัญคือ          

1.เกิดภาวะตรึงตัวของจำนวนแคปซูลที่มีคุณภาพปลอดภัยตามมาตรฐาน แม้ขณะนี้ยังไม่ถึงกับขาดแคลนแต่ยอดสั่งซื้อจากตัวแทนนำเข้าบางช่วงจะได้ลดลง ซึ่งแคปซูลที่ทั้งอุตสาหกรรมยา สารสกัด และอาหารเสริม ประเทศไทยต้องพึ่งพาการนำเข้าจากประเทศจีน อินเดีย และอินโดนีเซีย ประมาณปีละ 1 หมื่นล้านแคปซูล แต่จากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ตั้งแต่ปีก่อน ทำให้การผลิตใน 3 ประเทศลดลง โดยจีนต้องปรับไปผลิตสินค้าอื่นด้านการแพทย์มากขึ้น จำนวนโรงงานผลิตแคปซูลจึงลดลง
          
ส่วนอินเดียและอินโดนีเซียเจอวิกฤตโควิดกระทบต่อโรงงานผลิตต้องปิดตัวหรือลดกำลังการผลิตจากการขาดแคลนแรงาน อีกทั้งที่ผ่านมาระบบขนส่งทั่วโลกเจอปัญหาขาดแคลนเรือขนส่งข้ามประเทศและค่าระวางสูงจนกระทบต่อต้นทุนการส่งออกและนำเข้า ซึ่งไทยพึ่งพาการนำเข้าแคปซูลมาประมาณ 15 ปีแล้ว เพราะราคานำเข้าถูกกว่าในประเทศ ทำให้โรงงานในประเทศทยอยปิดตัว ก็จะเหมือนการผลิตหน้ากากอนามัยที่ก่อนโควิดจะนำเข้าเพราะผลิตในประเทศสู้ราคาไม่ได้ ดังนั้น เมื่อมีความต้องการสูงเร็วก็ปรับตัวไม่ทัน อีกทั้ง รัฐกลับมาประกาศสนับสนุนการปลูกและผลิตกันได้ทั่วไป
          
"หากความต้องการยาฟ้าทะลายโจรเพื่อป้อนโรงพยาบาล เพื่อการรักษาโควิดยังสูง และประชาชนตื่นกลัวต่อการแพร่ระบาดโควิด จึงต้องมีการกว้านซื้อในจำนวนที่สูงกว่าปกติ 2-3 เท่า อีกทั้งการผลิตฟ้าทะลายโจรแบบแคปซูลตอนนี้ทำกันได้นอกโรงงานผลิต ความต้องการแย่งซื้อก็จะมาก แคปซูลอาจขาดแคลนระยะสั้นๆ ก่อนในช่วงปลายเดือนสิงหาคมนี้ จากวันนี้นำเข้าจาก 3 ประเทศนั้นหายไปเกือบ 50% โดยปัจจุบันไทยมีโรงงานผลิตสมุนไพรขนาดใหญ่ที่มีมาตรฐานต่างๆ รับรอง 40-50 โรงงาน และโรงงานย่อยหลายร้อยโรง" นายพิษณุ กล่าว
          
นายพิษณุกล่าวต่อว่า ปัญหาอีกประการคือ ผลผลิตฟ้าทะลายโจรหาซื้อได้ยากขึ้น และราคาแพงขึ้นจากอดีต 10 เท่าตัว ซึ่งฟ้าทะลายโจรสด 10 กิโลกรัม ตากแห้งได้แค่ 1 กิโลกรัม พื้นที่ปลูกไม่ใช่เป็นแปลงใหญ่ เฉลี่ย 1-2 ไร่ สูงสุดไม่เกิน 5 ไร่ เพราะที่ผ่านมาปริมาณความต้องการไม่ได้มาก จึงผลิตเพื่อป้อนโรงพยาบาลเฉพาะอย่างอภัยภูเบศร และโรงงานผลิตยาหรือสมุนไพรเท่านั้น การปลูกก็แค่ 2 รอบต่อปี ครั้งละ 4 เดือนช่วงฝนดี ปลูกตอนนี้กว่าจะเก็บเกี่ยวก็เดือนพฤศจิกายน หากตัดขายเร็วก็จะได้ยาที่มีสรรพคุณไม่ดีพอ ที่ต้องมีสารเอนโดรกราฟโฟไลด์ตามมาตรฐานในแต่ละแคปซูล กลุ่มผู้ผลิตสมุนไพรก็วิตกกันในเรื่องนี้ การบรรจุยาหรือใช้แคปซูลที่ไม่ได้คุณภาพดีพออาจมีผลต่อร่างกายผู้ทาน
          
ทั้งนี้ ในแง่ของกำลังการผลิตของโรงงานนั้น ไม่มีปัญหา แต่ปัญหาคือไม่มีวัตถุดิบเพียงพอและแข่งขันซื้อในราคาแพงได้หรือไม่ เพราะแพงมากการผลิตขายปลีกก็ต้องปรับราคาด้วย และอีกปัญหาคือการส่งเสริมปลูกและผลิตได้ทั่วไป จะทำให้เกิดผลผลิตล้นตลาดและราคาตกต่ำมากในอีก 1 ปีข้างหน้า ตอนนี้สมุนไพรชนิดอื่นก็เจอปัญหาด้วย เช่น กระชายขาว ก็เริ่มขาดตลาด เดิมราคา 20 บาทต่อกิโลกรัม วันนี้ 200 บาท กระชายสด 8 กิโลกรัม ได้กระชายแห้งเพียง 1 กิโลกรัม
          
นายพิษณุกล่าวถึงกรณีกระทรวงพาณิชย์โดยกรมการค้าภายใน เตรียมนำราคาขายปลีกของแต่ละผู้ผลิตและจำหน่ายฟ้าทะลายโจรขึ้นเว็บไซต์ของกรมการค้าภายใน เพื่อเป็นข้อมูลให้ประชาชนได้รับรู้และติดสินใจก่อนเลือกซื้อว่าได้ราคาที่เหมาะสมหรือไม่นั้น ส่วนตัวไม่เห็นด้วยว่าวิธีการนี้จะได้ผลต่อการควบคุมดูแลราคาฟ้าทะลายโจรให้ตลาดได้โดยตรง เนื่องจากติดปัญหาเรื่องต้นทุนรับซื้อวัตถุดิบและปริมาณผลผลิตไม่ได้สม่ำเสมอ ผู้ขายฟ้าทะลายโจรก็จะขายให้ที่เสนอราคาสูงสุด เมื่อต้องการก็ต้องแย่งซื้อ ราคาจึงผันผวนได้สูง
          
และจากที่สำรวจของโรงงานผู้ผลิตในเครือ พบว่า ราคาขายส่งยังไม่ได้ปรับสูงจากต้นทุนจริง แต่ราคาตลาดไปบวกเท่าตัวเอง เช่น ราคาหน้าโรงงาน 70-80 บาท แต่ในท้องตลาดขายกัน 150-160 บาท และความต้องการที่สูง ผู้บริโภคก็อาจต้องทำใจที่ต้องซื้อในราคาแพงอยู่ดี ก็ต้องดูว่าทางการจะดูแลราคาระหว่างทางพ่อค้าคนกลางถึงผู้บริโภคได้อย่างไร
          
แต่อย่างไรก็ตาม ทุกผู้ผลิตก็ยินดีให้ความร่วมมือกับกระทรวงพาณิชย์ สำหรับในแง่ผู้ผลิตสมุนไพรและสารสกัดปีนี้ถือว่ารายได้ดีไม่ได้รับผลกระทบจากโควิด เพราะความต้องการสมุนไพรที่หลากหลายมากขึ้น ในส่วนของบริษัทจึงคงรายได้ปีนี้ประมาณ 200 ล้านบาท หรือรักษาอัตรายอดขายโต 10% ต่อปี  

หน้าแรก » การเมือง