วันพฤหัสบดี ที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2567 16:44 น.

การเมือง

เอาแล้ว! "อนุทิน"นำขบวน "รมต.ภูมิใจไทย" ลาประชุม ครม. ไม่สบายใจ "มท." จ่อชงต่อสัญญารถไฟฟ้าสายสีเขียว

วันอังคาร ที่ 08 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565, 09.38 น.

วันอังคารที่ 8 กุมภาพันธ์ 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ (8 ก.พ.65) กระทรวงมหาดไทยจะเสนอให้ ครม.เห็นชอบร่างสัญญาร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวของกรุงเทพมหานคร (กทม.) เพื่อขยายสัญญาสัมปทานให้กับบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BTSC ในเครือบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS ออกไปอีก 30 ปี เป็นสิ้นสุด ปี 2602 จากเดิมสิ้นสุดปี 2572 แลกกับการเก็บค่าโดยสาร 65 บาทตลอดสาย

ส่งผลให้รัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทยทั้งหมดจะไม่เข้าร่วมประชุมครม.ในวันนี้ โดย รมต.พรรคภูมิใจไทยได้ยื่นใบลาประชุม ครม.ต่อเลขาธิการคณะรัฐมนตรีแล้วเมื่อค่ำวานนี้ (7 ก.พ.65) โดยระบุเหตุผลว่าไม่สะดวกที่จะพิจารณาเรื่องนี้

นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนัก เปิดเผยถึงเหตุผลที่พรรคภูมิใจไทยจะไม่เข้าร่วมการประชุมของรัฐมนตรี (ครม.) ในวันนี้ ว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้ยื่นลาการประชุมไว้ก่อนหน้านี้แล้ว ส่วนนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาให้เหตุผลว่าเพิ่งเดินทางกลับมาจากต่างประเทศโดยอยู่ระหว่างกลางกักตัว 

น.ส.ไตรศุลี กล่าวด้วยว่า ขณะนี้ยังไม่รับรายงานและไม่มีข้อมูลว่าใครลาประชุมบ้าง จะทราบเมื่อถึงเวลาการประชุมว่าใครขาด เมื่อถามว่ามีกระแสข่าวว่าเหตุผลที่ไม่เข้า เนื่องจากไม่เห็นด้วยเรื่องการต่อสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว น.ส.ไตรศุลีกล่าวว่า เป็นเรื่องของผู้ใหญ่และ ครม. ส่วนตัวยังไม่ทราบเรื่อง

ขณะที่นายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ยอมรับว่าไม่ได้เข้าร่วมการประชุมคณะรัฐมนตรีเช่นเดียวกัน เนื่องจากติดภารกิจ

ส่วนที่วันนี้ พรรคภูมิใจไทยแท็กทีมไม่เข้าร่วมการประชุม ครม. จะเกี่ยวข้องกับการที่กระทรวงมหาดไทยเตรียมเสนอเรื่องต่อสัญญาสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวเข้าครม.หรือไม่ นายทรงศักดิ์ กล่าวว่า เป็นความไม่สบายใจของข้อกฎหมาย ที่จะต้องให้กรุงเทพมหานครไปดำเนินการให้เรียบร้อยก่อน 

ขณะเดียวกันนางมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ก็อยู่ระหว่างการกักตัวจึงไม่ได้เข้าร่วมการประชุม ทั้งนี้ มีรายงานข่าวแจ้งด้วยว่า หากมีวาระพิจารณา เรื่องต่อสัญญาสัมปทานรถไฟฟ้า สายสีเขียว รัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทย จะทำหนังสือคัดค้านด้วย

"วิษณุ" ไม่ทราบ รัฐมนตรี ภท.โดดประชุม ครม. 

ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ไม่เข้าร่วมประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันเดียวกันนี้ จะกระทบกับการพิจารณาต่อสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวหรือไม่ เพียงสั้นๆว่าไม่ทราบ ไม่รู้

"นายกฯ"มุ่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม เชื่อมโยงเครือข่ายทั่วประเทศ

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า หนึ่งในนโยบายที่รัฐบาลของพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้ความสำคัญคือ การเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันของประเทศซึ่งในที่สุดจะส่งผลถึงชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน โดยการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานอย่างยั่งยืนถือเป็นรากฐานที่สำคัญ โดยที่ผ่านมา รัฐบาลได้มุ่งมั่นพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมในทุกมิติอย่างต่อเนื่อง จนทำให้มีโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญของประเทศที่ครอบคลุมพื้นที่ สามารถรองรับความต้องการของประชาชนทั้งในระดับครัวเรือน อุตสาหกรรม การท่องเที่ยว และส่งผลต่อยอดเชื่อมโยงเครือข่ายในระดับประเทศ

กระทรวงคมนาคมได้เปิดเผยแผนพัฒนารถไฟความเร็วสูงครอบคลุมทั่วประเทศรวมทั้งสิ้นกว่า 1,673 กิโลเมตร โดยแผนในปี 2565 ประกอบด้วย โครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ช่วงที่ 1 กรุงเทพฯ-นครราชสีมา ระยะทาง 253 กิโลเมตร โครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ช่วงที่ 2 นครราชสีมา-หนองคาย ระยะทาง 356 กิโลเมตร และรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) ระยะทาง 220 กิโลเมตร และแผนลงทุนระยะยาว ได้แก่ เส้นทางกรุงเทพฯ-พิษณุโลก ระยะทาง 380 กิโลเมตร เส้นทางหัวหิน - สุราษฎร์ธานี ระยะทาง 424 กิโลเมตร และเส้นทางสุราษฎร์ธานี-ปาดังเบซาร์ ระยะทาง 335 กิโลเมตร

นายธนกร กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้ติดตามความคืบหน้าอย่างใกล้ชิดมาตลอด รวมถึงห่วงใย ติดตามความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนที่อาจได้รับผลกระทบ โดยได้สั่งการให้มีการเร่งรัดแก้ไขปัญหาโครงการก่อสร้างล่าช้าที่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของประชาชน อาทิ การแก้ไขปัญหา PM 2.5 สำรวจความต้องการพื้นฐานของประชาชน และอำนวยความสะดวกในการให้บริการสาธารณะที่จำเป็นเพิ่มมากขึ้นแก่ประชาชน

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีตั้งใจและให้ความสำคัญต่อการเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ โดยมีเป้าหมายในการยกระดับศักยภาพของประเทศให้ครอบคลุมในทุกมิติ ซึ่งการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมดังกล่าว เพื่อเชื่อมโยงพื้นที่ทั่วประเทศ และยังจะช่วยอำนวยความสะดวกในการขนส่งสินค้าให้เกิดความต่อเนื่องได้อย่างไร้รอยต่อ สอดรับกับการพัฒนาพื้นที่ตามแนวระเบียงเศรษฐกิจ ส่งเสริมอุตสาหกรรมการเกษตร และอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนยังเพิ่มบทบาทภาคเอกชน ให้เข้ามามีส่วนร่วมในการให้บริการที่หลากหลายมากขึ้น เพื่อลดต้นทุน และเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของระบบขนส่งทางรางอีกด้วย

"นายกรัฐมนตรีทำงานโดยให้ความสำคัญกับทั้งระดับองค์รวม และระดับพื้นที่ โดยนอกจากแผนการลงทุนในระยะสั้นแล้ว รัฐบาลยังตระหนักถึงความสำคัญและความจำเป็นในการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานของประเทศให้ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ ทั้งในโหมดการขนส่งคน และสินค้า ทั้งการเชื่อมต่อทางบก-ราง-น้ำ-อากาศ โดยรัฐบาลได้มีการบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ศึกษารายละเอียดอย่างรอบด้าน เพื่อความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนต่อไปในอนาคต ซึ่งเชื่อมั่นว่า ผลที่สุดจะเกิดประโยชน์แก่การดำรงชีวิต คุณภาพชีวิตของคนไทยทุกคน"นายธนกร กล่าว

หน้าแรก » การเมือง