วันจันทร์ ที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2567 00:54 น.

การเมือง

เริ่มแล้ว! ยธ.เปิดอบรมกม.สำหรับพระสงฆ์และประชาชน หวังเข้าใจหลักธรรมหลบในกฎหมาย

วันพฤหัสบดี ที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2565, 13.01 น.

วันที่ ๑๐ มีนาคม ๒๕๖๕   พระปราโมทย์ วาทโกวิโท,ดร. อาจารย์หลักสูตรสันติศึกษา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย  (มจร)  เลขานุการศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทภาคประชาชน มจร เปิดเผยว่า ศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทภาคประชาชน มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ตำบลลำไทร ร่วมกับ กองทุนยุติธรรม สำนักงานยุติธรรมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา สำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และ หลักสูตรสันติศึกษา มจร สำนักงานกิจการยุติธรรม วิทยาลัยพุทธศาสตร์นานาชาติ มจร พร้อมด้วยมูลนิธิโพลวพลือ (ทางสว่าง) จัดโครงการให้ความรู้ทางกฎหมายสำหรับพระสงฆ์และประชาชนเพื่อเข้าถึงกระบวนการยุติธรรม ผ่านออนไลน์โปรแกรม Zoom  

โดยได้รับความเมตตาจาก พระครูปลัดปัญญาวรวัฒน์ (หรรษา ธมฺมหาโส) ศ.ดร. ผู้อำนวยการหลักสูตรสันติศึกษา ผู้อำนวยการวิทยาลัยพุทธศาสตร์นานาชาติ มจร และ ประธานขับเคลื่อนศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทภาคประชาชน มจร เป็นประธานเปิดเวทีสันติสนทนา กล่าวประเด็นสำคัญว่า ความยุติธรรมมีอยู่จริงหรือไม่ หน้าตาของความยุติธรรมเป็นอย่างไร เรามีกฎร่วมกันแต่ทำไมจึงต้องผ่าฝืนกฎหมาย กฎหมายต้องทำงานภายใต้ศีล ๕ ซึ่งมนุษย์เป็นผู้กำหนดขึ้น จึงมองถึงรัสเซียว่าปฏิบัติตามกฎบัตรสหประชาชาติกฎหมายระหว่างประเทศ กฎหมายจะต้องเดินไปตามศีล ๕ จึงเป็นหลักประกัน ๕ ข้อ ประกอบด้วย หลักประกันชีวิต หลักประกันทรัพย์สิน หลักประกันครอบครัว หลักประกันสังคมการสื่อสาร หลักประกันสุขภาพ เราควรเคารพกฎหมายเท่าเทียมกัน ในกรณีการเสียชีวิตของคุณแตงโมเราเห็นบางอย่างของกฎหมาย กฎหมายต้องถูกนำมาใช้อย่างทรงพลัง การนำกฎหมายไปใช้ในปัจจุบันมี ๒ ประเด็นคือ ปัญหาอยู่ที่คนออกกฎหมายหรือปัญหาตัวกฎหมาย จึงมีคำกล่าวว่า ประชาธิปไตยไม่ใช่ระบอบการการปกครองที่ดีที่สุดแต่เลวน้อยที่สุด แต่พระพุทธเจ้าไม่ได้สนใจระบอบแต่อยู่ที่คนต่างหาก กฎหมายไม่มีค่าถ้าผู้ใช้กฎหมายไม่มีศีลธรรม ผู้นำจะต้องมีศีลธรรมมีสติเป็นฐาน สังคมถ้าล้มสลายด้านศีลธรรมกฎหมายไร้คุณค่า “ศีลธรรมไม่กลับมาโลกาจะวินาศ” ศีลธรรมเป็นฐานของกฎหมายซึ่งโลกไม่สนใจศีลธรรมล้มสลาย โลกนี้คนชั่วสามัคคีกันดีนัก ขอคนทำงานอย่าท้อ 

พ.ต.ท. ดร. พงษ์ธร ธัญญสิริ ผู้อำนวยการสำนักงานกิจการยุติธรรม กระทรวงยุติธรรม นำเสนอพระเพลิน หลักธรรมกับกฎหมาย เรียนรู้กฎหมายเพลินๆ ฉบับพกพา เพราะในกฎหมายมีธรรมะซ่อนอยู่ และ ธรรมะมีกฎหมายซ่อนอยู่เช่นกัน โดยเปิดตัวในโอกาสวันมาฆบูชา วันสำคัญทางพระพุทธศาสนาวันแห่งความรักในทางพระพุทธศาสนาที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงหลักการ วิธีการ และอุดมการณ์ในทางพระพุทธศาสนา ตั้งแต่การทำจิตใจของตนให้ดีงาม มีความขันติธรรมและเคารพในการอยู่ร่วมกัน และการไม่พูดร้ายการไม่ทำร้ายกันโดยปราศจากความรุนแรงทั้งปวง ถือว่าเป็นวันที่สำคัญในทางพระพุทธศาสนาที่ชาวพุทธทั่วโลกจะต้องสร้างการตระหนักเป็นอย่างดีอย่าง 

จึงทำให้สำนักงานกิจการยุติธรรม กระทรวงยุติธรรมได้นำศีล ๕ มาบูรณาการกับกฎหมายเพื่อสร้างความตระหนักในคนในสังคมผ่านพระเพลินแสดงให้เห็นถึงความสอดคล้องระหว่างศีล ๕ กับกฎหมายอันเป็นวิถีแห่งการอยู่ร่วมกันในสังคมไทย ประกอบด้วย ศีลข้อที่ ๑ ประกันด้านชีวิตเคารพในทุกชีวิต  ศีลข้อที่ ๒ ประกันด้านทรัพย์สินเคารพในทรัพย์ของผู้อื่น  ศีลข้อที่ ๓ ประกันด้านครอบครัวเคารพในครอบครัวผู้อื่น  ศีลข้อที่ ๔ ประกันด้านสังคมเคารพในการสื่อสารล่วงเกินผู้อื่น  ศีลข้อที่ ๕ ประกันด้านสุขภาพเคารพในสุขภาพของผู้อื่นและตนเอง ถือว่าเป็นการป้องกันระดับชีวิต ทรัพย์สิน ครอบครัว สังคม สุขภาพได้อย่างดียิ่งในสังวรปธานคือ เพียรป้องกันในทางพระพุทธศาสนาโดยใช้สติเป็นฐาน หรือ สรุปให้ง่ายๆ คือ ไม่โหดร้าย ไม่มือไว ไม่ใจอยาก ไม่ปากชั่ว ไม่มั่วเมา  สำนักงานกิจการยุติธรรม กระทรวงยุติธรรมจึงมุ่งหวังให้ “พระเพลิน : หลักธรรมกับข้อกฎหมาย ศีล ๕” ฉบับนี้ เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่ส่งต่อความรู้ความเข้าใจข้อกฎหมายให้กับสังคม เพื่อส่งเสริม ป้องกันไม่ให้เกิดความพลาดพลั้งกระทำความผิดเพราะไม่รู้กฎหมาย โดยท่านที่สนใจสามารถดาวน์โหลดพระเพลินหลักธรรมกับกฎหมาย เรียนรู้กฎหมายเพลินๆ ฉบับพกพา ได้ที่ สำนักงานกิจการยุติธรรม

จากนั้น ดร.มยุรี จำจรัส ผู้อำนวยการสำนักงานกิจการยุติธรรมและคณะได้แลกเปลี่ยนให้ความรู้ความเข้าใจกฎหมายสำหรับพระสงฆ์ประชาชนควรทราบและเข้าถึงกระบวนการยุติธรรม โดยช่วงบ่ายสำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้ให้ความรู้ทางกฎหมายเพื่อการป้องกัน แก้ไข เยียวยา สำหรับประชาชนต่อไป 

หน้าแรก » การเมือง