วันที่ 2 เมษายน 2565   นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ พร้อมด้วยสมาชิกสภาผู้แทนราษฏรพรรคประชาชาติ  และคณะ เดินทางไปยังสถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองเจดดะห์ ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย เพื่อเยี่ยมเยียนพบปะพี่น้องชาวไทยที่พำนักอยู่ในซาอุดีอาระเบีย 

นายสรจักร บูรณะสัมฤทธิ กงสุลใหญ่ ณ เมืองเจดดาห์ ได้ต้อนรับคณะผู้แทนราษฎรพรรคประชาชาติ โดยกล่าวว่า สถานกงสุลใหญ่ได้ทำหน้าที่บริการพี่น้องประชาชนไทยในซาอุดีอาระเบียซึ่งเป็นดินแดนสำคัญของพี่น้องชาวมุสลิม จึงมีพี่น้องมุสลิมไทยเดินทางมาประกอบพิธีอุมเราะห์และพิธีฮัจญ์และพำนักอยู่จำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในนครมักกะห์ และเมืองเจดดาห์ โดยช่วงก่อนการแพร่ระบาดของโควิด-19 มีผู้เดินทางประกอบพิธีฮัจญ์ปีละประมาณ 8,000 คน และพิธีอุมเราะห์ปีละประมาณ 15,000 คน การดูแลคุ้มครองพี่น้องประชาชนไทยจึงเป็นหน้าที่ของสถานกงสุล รวมทั้งดูแลผู้ที่พำนักและมีครอบครัวอยู่ที่นี่ด้วย โดยได้เปิดโรงเรียนสอนภาษาไทยตามหลักสูตรของ กศน.ทุกวันเสาร์

นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ ได้กล่าวอวยพรเนื่องในโอกาสเดือนรอมฎอนมาเยือน โดยขอให้พระผู้เป็นเจ้าประทานให้ทุกท่านประสบความสุขสวัสดิ์ และกล่าวว่า ตนและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคประชาชาติ ตั้งใจจะเดินทางเยือนพี่น้องประชาชนในต่างแดนเท่าที่มีโอกาสจะไปได้ เพราะคนไทยในต่างแดนก็คือคนไทยเช่นเดียวกับเราทุกคน เราไม่ได้เป็นผู้แทนราษฎรเฉพาะคนที่อยู่ในประเทศไทยเท่านั้น แต่เราคือผู้แทนของราษฎรไทยทุกคนไม่ว่าจะอยู่ในประเทศใดก็ตาม เราจะเดินทางไปรับทราบปัญหาและดูการใช้ชีวิตในต่างแดน ท่านอยากให้มีโรงเรียนสอนภาษาไทยให้ลูกหลานได้เรียนในซาอุดีอาระเบีย เราในฐานะผู้แทนราษฎรจะรับเรื่องนี้ไว้ไปหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป ขอยืนยันว่าสิ่งที่ดีงามที่ท่านกงสุลใหญ่และพวกเราที่นี่ได้ทำนั้นจะต้องยั่งยืนและบรรลุผลต่อไป และทราบว่าท่านกงสุลใหญ่จากได้รับโปรดเกล้าฯ ให้เป็นเอกอัครราชทูตเร็วๆนี้ จึงขอแสดงความยินดีล่วงหน้า