วันพุธ ที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 03:15 น.

การเมือง

"จุรินทร์" ควง "นิพนธ์-นริศ" เปิดตัว 12 ว่าที่ ส.ส.ชายแดนใต้ ลั่นสู้ทุกเขต

วันอาทิตย์ ที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565, 13.45 น.

เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2565 เวลา 10.40 น. ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พร้อมด้วยนายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรค อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายนริศ ขำนุรักษ์ ส.ส.จังหวัดพัทลุง และคณะ “จุรินทร์ ออนทัวร์ จังหวัดชายแดนใต้” เข้าร่วมงานประชุมสมาชิกพรรค "รวมพลังประชาธิปัตย์ ปลายด้ามขวาน" ที่หอประชุมเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา พร้อมเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส. 12 เขต ของจังหวัดยะลา ปัตตานี นราธิวาส  ประกอบด้วย 

ผู้สมัคร ส.ส. ปัตตานี 4 คน 
นายสนิท นาแว อดีตผู้สมัคร ส.ส. ปัตตานี 
นายมนตรี ดอเลาะ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลมะกรูด และนายกเทศมนตรี ตำบลมะกรูด
ดร.ยูนัยดี วาบา ผอ.โรงเรียนดรุณศาสน์วิทยา อ.สายบุรี อุปนายกสมาคมโรงเรียนเอกชนภาคใต้
ส.อ.สุริยา กูทา อดีตกำนันตำบลกระโด 

ผู้สมัคร ส.ส. นราธิวาส 5 คน 
นายวัสสันต์ ดือเระ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลบางปอ
นายเมธี อรุณ ศิลปินนักร้องนำ ลาบานูน 
นายสุลัยมาน มะโซ๊ะ รองนายแพทย์สาธารณสุข จ.นราธิวาส 
นายไซดี เจ๊ะหามะ อดีตผู้สมัคร ส.ส. นราธิวาส อดีตรองนายแพทย์สาธารณสุข จ.นราธิวาส 
นายเจะอามิง โตะตาหยง อดีต ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ 5 สมัย 

ผู้สมัคร ส.ส. ยะลา 3 คน 
นายประสิทธิ์ชัย พงษ์สุวรรณศิริ กก.บห. หจก.พงษ์ไทย และ บ.มิตรทองสงขลา 
นายอับดุลเล๊าะ บุวา อดีตผู้สมัคร ส.ส. จังหวัดยะลา 
นายณรงค์ ดูดิง อดีต ส.ส. จังหวัดยะลา 

“จังหวัดชายแดนภาคใต้คราวที่แล้วเราได้ที่นั่งเดียว แต่ครั้งหน้าผมมั่นใจว่าเราได้มากขึ้น สิ่งหนึ่งที่ขอยืนยันร่วมกับเลขาธิการพรรค ร่วมกับท่านนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรค ผู้รับผิดชอบจังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า เลือกตั้งครั้งหน้าประชาธิปัตย์สู้ทุกเขต และเราเชื่อว่าผู้สมัครทุกคนในที่นี้ มีโอกาสปักธงประชาธิปัตย์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ขอพี่น้องอย่าทิ้งพวกเรา และพวกเราประชาธิปไตยไม่เคยทิ้งพี่น้องจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพราะประชาธิปัตย์คือพรรคของเรา คือพรรคของจังหวัดชายแดนภาคใต้ ผู้สมัครทุกคนก็เป็นคนของเรา เป็นคนของพี่น้องจังหวัดชายแดนภาคใต้ วันนี้ผมจึงพา 12 คนของเรา พรรคของเรา มาคารวะและขอหัวใจสนับสนุนจากพี่น้องชายแดนใต้ทุกคน” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวในที่สุด

“เด็กชวน” ท้วงโพลพรรค ปชป.จ.ตรัง ผิดหลักวิชาการ แฉแหลก สารพัดวิชามาร

 นายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล เลขานุการประธานสภาฯ และอดีตส.ส.ตรัง 4 สมัย พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า ในสัปดาห์หน้าตนจะทำหนังสือถึง นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค เพื่อแจ้งให้ทราบถึงขั้นตอนความไม่ชอบมาพากลของการทำโพลสำรวจคะแนนนิยมของพรรคประชาธิปัตย์ ที่ทำในเขตเลือกตั้งที่ 4 จังหวัดตรัง กรณีสำรวจคะแนนนิยมของผู้ที่เสนอตัวจะลงสมัคร ส.ส.ในนามของพรรค ซึ่งตามธรรมเนียมปฏิบัติของพรรคจะให้สิทธิ์ ส.ส.เจ้าของพื้นที่ หรือ อดีตส.ส.เดิมก่อน แต่กลับอ้างว่า มีคนประสงค์จะลงสมัครมากกว่า 1 คนต้องทำโพลคัดคน ซึ่งผู้ใหญ่ในพรรค เช่น นายชวน หลีกภัย ก็ไม่เห็นด้วย หลังการทำโพล ได้มีการเปิดเผยแค่ผลโพลว่า ตนพ่ายแพ้คู่แข่งขัน แต่กลับไม่ยอมเปิดเผยรายละเอียด ทั้งยังประกาศผลว่า จะส่งผู้ที่ชนะโพลพรรคให้เป็นผู้สมัคร ส.ส.ตรัง เขต 4 ในนามพรรคประชาธิปัตย์

"หลัง ผมทราบผลโพล ก็ลงพื้นที่เสาะหาข้อมูลทั้งจากชาวบ้านในพื้นที่เขตเลือกตั้งที่ 4 จ.ตรัง และตัวผู้รับผิดชอบการทำโพลนี้ พบข้อเท็จจริงว่า มีเหตุน่าสงสัย คือ 1.เป็นการจ้างนักวิชาการอิสระมาทำโพล ไม่ใช่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ตามที่กล่าวอ้าง 2.มีการตั้งคำถามในลักษณะชี้นำของคู่แข่งขัน เช่น นายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล ตำแหน่งส.ส.4 สมัย, สท.กาญจน์ ตั้งปอง ลูกชายนายอำเภอนายวิศิษฐ์ ตั้งปอง อดีตนายอำเภอหลายพื้นที่ในจังหวัดตรัง

3.ที่น่าตกใจคือ แบบสอบถามครั้งแรกแจ้งว่า ทำ 3,000 ชุด แต่ภายหลังพบว่า มีการถ่ายสำเนาแบบสอบถามเพิ่มอีก 3,300 ชุด รวมเป็น 6,300 ชุด คือ สำรวจ 2 รอบ 4.ไม่เปิดเผยพื้นที่การลงสำรวจ 5.ไม่ให้ข้อมูลของผู้ที่ออกใบสำรวจ ว่ามีกี่คน ใครบ้าง สำรวจพื้นที่ใดบ้าง เพราะสอบถามชาวบ้านในพื้นที่แทบจะไม่มีใครได้รับการสำรวจ 6.พบว่า มีการถ่ายเอกสารแบบฟอร์มการสำรวจนับ 1,000 ชุด ที่ร้านชื่อ "แสนก็อปปี้" ที่หน้า ม.เทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตตรัง ซึ่งเป็นการถ่ายจากแบบสำรวจตัวจริง โดยไม่ลงรันนิ่งนัมเบอร์กำกับ หรือตราประทับใดๆ ซึ่งผมเชื่อว่า แบบสำรวจที่ถ่ายสำเนาเพิ่มนี้ถูกใช้ทำโพลที่ไม่สุจริต และได้แจ้งความกับตำรวจไว้แล้ว

โดยผมได้นัดพบคณะผู้ทำโพลเพื่อสอบถามข้อเท็จจริง สรุปได้ว่า คณะผู้ทำโพลไม่ทราบวัตถุประสงค์ของการทำโพล อ้างว่า เอาผลสำรวจไปประกอบการพิจารณา ไม่ใช่สำรวจเพื่อวัดคะแนนนิยมเพื่อคัดคนลงสมัคร ที่สำคัญคณะทำโพลยอมรับว่า เป็นการรับจ้างทำโพลในฐานะนักวิชาการอิสระ และไม่รับรองผล ได้รับค่าจ้างในการทำโพล 180,000 บาท โดยยอมรับว่า ได้ให้เงินให้คนไปจัดทำใบสำรวจเอาเอง โดยไม่มีการลงหมายเลขรันนิ่งนัมเบอร์ในแบบสอบถาม และยอมรับว่า ไม่ได้ติดตามควบคุมผู้ลงพื้นที่ไปสำรวจแบบสอบถามเพียงแต่รอให้ฝ่ายลงพื้นที่ส่งเอกสารกลับมาให้ตามจำนวนเท่านั่นแล้วสรุปผล โดยไม่ให้ผมขอดูรายละเอียดของโพล อ้างว่าส่งให้ทางพรรคไปหมดแล้ว ผมจึงสรุปว่าในการทำโพลครั้งนี้ ไม่โปร่งใส และข้อมูลที่ได้จึงไม่ได้มาจากประชาชนในพื้นที่ที่แท้จริง" นายสมบูรณ์ กล่าว

นายสมบูรณ์ กล่าวต่อว่า ตนเชื่อว่า พรรคไม่ได้ใช้หลักการในการพิจารณาสรรหาผู้สมัครที่ต้องใช้การพิจารณาที่ ครบถ้วน แต่กลับใช้ผลโพลที่ไม่สุจริต มาตัดสิน จึงไม่ยุติธรรม ทั้งนี้ ตนเคยเป็นนักกีฬา เป็นครู และมาเป็นนักการเมืองด้วยความสุจริต รู้จักคำว่า รู้แพ้ รู้ชนะ ยอมรับการแข่งขันที่สุจริต และการทำหนังสือครั้งนี้ไม่ใช่เรียกร้องให้พรรคกลับผล หรือ ตนไม่ยอมรับสำรวจ เพราะเชื่อว่า สถาบันทางการเมืองต้องมีหลักธรรมาภิบาล แต่เมื่อพรรคไม่สามารถให้ความโปร่งใส ยุติธรรมกับตน ที่เป็นหนึ่งในคณะกรรมการบริหารพรรค และเป็นสมาชิกพรรคที่ดี ได้แล้ว พรรคจะไปให้ความยุติธรรมกับประชาชนทั่วไปได้อย่างไร เพราะพรรคนี้ไม่มีใครเป็นเจ้าของพรรค ประชาชนเป็นเจ้าของด้วยความศรัทธา และเชื่อว่าผู้ที่ได้มาด้วยความไม่ชอบธรรม ไม่สามารถเป็นตัวแทนประชาชนได้อย่างมีเกียรติ "เงยหน้าไม่กล้ามองฟ้า ก้มหน้าไม่อาจมองดิน" จึงต้องทำหนังสือนี้ให้หัวหน้าพรรคทราบ เพื่อไม่ให้เกิดผิดพลาดซ้ำอีก และควรใช้ธรรมเนียมปฏิบัติของพรรคแต่เดิมที่ไม่สร้างปัญหาเพิ่มให้พรรค และไม่โปร่งใส ไม่ถูกหลักธรรมาภิบาล

หน้าแรก » การเมือง

ข่าวในหมวดการเมือง