เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2566  น.ส.วทันยา บุนนาค ประธานคณะทำนวัตกรรมการเมือง ว่าที่ผู้สมัครชิงหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้ปล่อยคลิปวิดิโอตัวที่ 2 เพื่อสื่อสารไปยัง ส.ส. และสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ รวมถึงประชาชนทั่วประเทศ ในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนจะถึงวันเลือกตั้งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนที่ 9 ในวันที่ 9 ธันวาคมนี้ว่า วันนี้เราต้องกล้าเปลี่ยนในวันที่เรายังมีโอกาสเปลี่ยน ต้องกล้าเปลี่ยนในวันที่เรายังมีลมหายใจให้เปลี่ยน เพราะวันนี้เหลือเวลาไม่มากนักที่จะให้เราได้มีโอกาสเปลี่ยน ดังนั้นพวกเราพรรคประชาธิปัตย์ต้องกล้าลงมือเปลี่ยนแปลง และมีแต่คนประชาธิปัตย์เท่านั้นที่จะกำหนดอนาคตที่ดีของพรรคประชาธิปัตย์ได้

น.ส.วทันยา ยังระบุอีกว่า ตนเชื่อมั่นว่าอุดมการณ์ เสรีภาพ การเปิดกว้างทางโอกาส ยังคงอยู่ในใจของสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ทุกคน ดังนั้นเราพร้อมที่จะเปลี่ยนผ่าน ไม่ติดอยู่กับระบบอุปถัมภ์ ไม่เป็นธรรม เราพร้อมที่จะยอมรับแนวคิดใหม่ๆ เราจะไม่ยอมย่ำอยู่กับที่ ในขณะที่คนอื่นกำลังก้าวกระโดดไปข้างหน้า

”เดียร์ยังเชื่อมั่นในพลังประชาธิปไตยที่ยังอยู่ในใจของชาวประชาธิปัตย์ทุกคน ขอโอกาสให้เดียร์ได้สู้ การเลือกตั้งครั้งนี้จึงไม่ใช่แค่การให้โอกาสเดียร์ แต่เป็นการให้โอกาสพรรคประชาธิปัตย์ ที่เราจะได้เปลี่ยนแปลง ได้เติบโต ได้ไปต่อในการเมืองไทย“ น.ส.วทันยา กล่าวทิ้งท้าย

"ชัยชนะ"เผยปชป.นัดเย็นนี้หยั่งเสียงโหวตหัวหน้า มั่นใจ 9 ธ.ค.ได้แน่ 

ขณะที่รัฐสภา นายชัยชนะ เดชเดโช ส.ส.นครศรีธรรมราช และรักษาการรองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการเลือกหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ในวันที่ 9 ธ.ค.นี้ว่า จะได้หัวหน้าพรรคที่แท้จริง เนื่องจากได้เตรียมองค์ประชุมไว้พร้อมแล้ว หากขาดอีกก็จะเติมจนครบ ส่วนผู้สมัครหัวหน้าพรรคนั้น เนื่องจากพรรคประชาธิปัตย์เป็นสถาบันการเมือง สมาชิกจึงเปิดกว้างให้โอกาสทุกคน แม้ผู้สมัครบางคนจะติดเงื่อนไขเป็นสมาชิกไม่ครบ 5 ปี แต่เชื่อว่า สมาชิกจะให้โอกาส ลงแข็งขันด้วยเช่นกัน

เมื่อถามว่า ส่วนที่มีการประเมินว่า น.ส.วทันยา บุนนาค ผ่านด่าน 3 ใน 4 แล้ว จะสามารถนั่งเป็นหัวหน้าพรรคได้แน่นอน นายชัยชนะกล่าวว่า ทุกอย่างเกิดขึ้นได้หมด ทั้งนี้ ตนเห็นว่า อนาคตของพรรคจะเป็นอย่างไรก็ขึ้นอยู่กับสมาชิก และก่อนจะถึงวันที่ 9 ธันวาคม น่าจะมีผู้ที่มีคุณสมบัติครบมาสมัครเปิดตัวได้อีก ซึ่งขณะนี้มีเพิ่มมาอีกคนหนึ่ง คือ พ.ท.หญิง ฐิฏา รังสิตพล มานิตกุล โดยผู้สมัครหัวหน้าพรรคแต่ละคนก็ได้หาเสียงกับสมาชิกที่เป็นโหวตเตอร์อยู่

นายชัยชนะกล่าวด้วยว่า ในเวลา 16.00 น. วันนี้ (7 ธ.ค.) จะมีการประชุม ส.ส.พรรค เพื่อประชุมหารือกันว่าเรามีความเห็นอย่างไร พรรคควรเดินไปในแนวทางไหน ใครที่เหมาะสมจะเป็นหัวหน้าพรรคคนต่อไป หากที่ประชุมเห็นตรงกัน คนนั้นก็จะได้โอกาสรับชัยชนะ ซึ่งการประชุมวันนี้ มีผลต่อการเลือกหัวหน้าพรรคในวันที่ 9 ธันวาคมนี้แน่นอน เนื่องจาก ส.ส.คิดเป็นสัดส่วน 70% ของการโหวต แต่มั่นใจไม่มีคลื่นใต้น้ำ ดังนั้นขอให้รอฟังช่วงเย็นนี้

"พรรคประชาธิปัตย์ไม่มีอะไรที่รู้ก่อนล่วงหน้าเลือกตั้ง 2 วันอยู่แล้ว เพราะประชาธิปัตย์ เป็นพรรคการเมืองที่ไม่มีเจ้าของ ผมไม่ได้หมายถึงว่าพรรคการเมืองอื่นมีเจ้าของ ที่รู้เลยว่าใครจะเป็นหัวหน้าพรรค เปิดตัวมา 7 วัน 10 วันหรือเดือนหนึ่ง คนที่จะเป็นหัวหน้าพรรคก็ไม่เปลี่ยนเลย แต่ประชาธิปัตย์ต้องลุ้นนาทีต่อนาที" นายชัยชนะกล่าว

เมื่อถามว่ามีข่าวว่าจะไปขอให้นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รักษาการเลขาธิการพรรค ในฐานรักษาการหัวหน้าพรรคขึ้นมาเป็นหัวหน้าพรรค นายชัยชนะกล่าวว่า ขึ้นอยู่กับการพูดคุยทั้งหมดในเย็นวันนี้

เมื่อถามว่า มีชื่อของนายชัยชนะ เป็นเลขาธิการพรรคด้วย นายชัยชนะกล่าวว่า เป็นเพียงแค่ชื่อ ข่าวก็คือข่าว ข้อเท็จจริงอยู่ที่ตน ซึ่งตนยังไม่ได้มีการตัดสินใจอะไร แต่ตนก็พูดคุยกับทุกคนอยู่แล้ว รวมทั้งกับนายเดชอิศม์ ขาวทอง ส.ส.สงขลา และรักษาการรองหัวหน้าพรรคดูแลภาคใต้ ก็ได้มีการพูดคุยกันอยู่ตลอด แต่กลับมีข่าวว่านายเดชอิศม์ อยู่ฝั่งหนึ่งตนอยู่อีกฝั่งหนึ่ง ซึ่งความจริงแล้วตนพูดคุยกับนายเดชอิศม์อยู่ทุกวัน ถ้าหากตนได้เป็นจริงตนก็ออกมาบอกอยู่แล้ว แต่ยังไม่ได้ตัดสินใจยืนอยู่จุดไหน ต้องคุยกับ ส.ส.ปัจจุบันและผู้ใหญ่ในพรรคให้เห็นตรงกันว่า พรรคจะเดินไปอย่างไร

"ที่สำคัญพรรคประชาธิปัตย์ต้องสร้างความน่าเชื่อถือ คือการทำหน้าที่ฝ่ายค้านในสภาต้องทำอย่างจริงจัง พรรคอยู่ในช่วงฟื้นฟูให้กลับมา แล้ววันนี้ถึงเวลาที่พรรคประชาธิปัตย์ต้องมีเอกภาพ และความสามัคคี ดังนั้นหัวหน้าพรรคคนต่อไปต้องมีแผนฟื้นฟูพรรค ผมคิดว่าในการฟื้นฟูพรรคไม่ใช่ใช้เวลา 1-2 ปีแต่ต้องใช้เวลา 3 ปี และต้องเสนอแนวคิดนโยบายที่ดี การแก้ปัญหาปากท้องและเศรษฐกิจ รวมทั้งการกระจายอำนาจ เพื่อทำให้พรรคกลับมาเป็นแกนนำในการเลือกตั้งรอบหน้าให้ได้" นายชัยชนะกล่าว

รายงานว่าแจ้งว่า ตามที่มาดามเดียร์ที่ประกาศตัวลงชิงหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์นั้นความจริงแล้วอาจจะเพียงตัวหลอกเท่านั้น ได้เป็นแค่หมากตัวหนึ่งในกระดานเท่านั้น เพราะมีคนวางแผนแยกมิตรให้เป็นศัตรู โดยวางท่าทีสนับสนุนมาดามเดียร์ และยังนัด ส.ส. ที่อยู่ในกลุ่มของนายเฉลิมชัยศรีอ่อน รักษาการหัวหน้าพรรค  มาคุยนอกรอบ เพื่อดึงมาเป็นพวกมาดามเดียร์ ทั้งที่รู้มาดามเดียร์ไม่สามารถนั่งเก้าอี้หัวหน้าพรรคได้แน่นอน และอาจจะแพ้ตั้งแต่รอบแรกเพราะข้อบังคับของพรรคประชาธิปัตย์นั้น ต้องเป็นสมาชิกพรรค 5 ปีขึ้นไป  เคยเป็นรัฐมนตรีของพรรค เคยเป็น ส.ส.ของพรรค แต่มาดามเดียร์ ไม่ตรงคุณสมบัติเลยแม้แต่ข้อเดียว แต่หากมาดามเดียร์จะสมัครชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคได้ ต้องใช้เสียง 3 ใน 4 ขององค์ประชุม (อย่างน้อย 250 คน) ยกมือโหวตเห็นชอบให้ลงสมัคร 

"เมื่อสภาพของมาดามเดียร์ เป็นเช่นนี้ ก็จะมีการดันนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคให้ลงสมัครอีกครั้ง โดยใช้เสียงสนับสนุนของมาดามเดียร์ หันมาโหวตนายอภิสิทธิ์แทน เพราะขณะนี้มีการส่งคนออกมาพูดถึงคุณสมบัติของนายอภิสิทธิ์อย่างต่อเนื่อง" แหล่งข่าวระบุ