วันพฤหัสบดี ที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2567 00:31 น.

การเมือง

"เศรษฐา" รับปรับครม. มีโอกาสควบ "รมว.กห."  ไม่ทราบเพื่อไทยจ้องยึดคืนเก้าอี้ "ประธานสภา" 

วันพฤหัสบดี ที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2567, 12.33 น.

เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2567 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ให้สัมภาษณ์หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงความชัดเจนในการปรับครม. มีรัฐมนตรีคนไหนถามอะไรหรือไม่ว่า ไม่มีใครถามอะไรเลย ทุกคนยังทำงานอย่างต่อเนื่อง อย่างที่สื่อได้เสนอข่าวไปวัคซีนที่ดีที่สุดคือการทำงานนั่นเอง ตนเชื่อเช่นนั้น และต้องขอบคุณที่สื่อได้เสนอข่าวไป ตอนนี้ทุกท่านยังมุมานะทำงานอย่างเดียว เมื่อถามว่าในส่วนของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ได้มีการเสนอชื่อรัฐมนตรีในโควตาที่ว่างหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ไม่ได้มีการพูดคุยกันเลย และวันนี้ตนได้คุยกับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคพปขร. เรื่องข้าวโพดและอะไรหลายๆเรื่อง ท่านก็ไม่เห็นพูดอะไรมา

เมื่อถามว่าในสัปดาห์นี้มีโอกาสนัดแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลคุยกันหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ถ้าเกิดคุย ก็คงเป็นการคุยเป็นการส่วนตัวของบางท่านที่เกี่ยวข้องกับเรื่องงานอย่างเดียว ก็มีการทำอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว  

เมื่อถามถึง ถึงตอนนี้นายกฯ จะไปควบรมว.กลาโหม นายเศรษฐา ยิ้ม ก่อนกล่าวว่า วินาทีนี้ตนยังเป็น รมว.คลัง และเป็นนายกรัฐมนตรีครับ เมื่อถามว่า มีโอกาสไปคุมกองทัพหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ตนคิดว่าทุกอย่างมันมีโอกาสและขึ้นอยู่กับเงื่อนเวลามากกว่า และอย่าพูดถึงว่าถ้าเกิดดีกว่า ไว้เกิดแล้วค่อยว่ากันดีกว่า

เมื่อถามว่า โครงการดิจิทัลวอลเล็ตยังไปไม่สุดทาง นายกฯ จะย้ายไปนั่งกลาโหม เหมือนเปลี่ยนม้ากลางศึก นายเศรษฐา กล่าวว่า ตนไม่ตอบคำถามเรื่องนี้ ตนคิดว่าเรื่องดิจิทัลวอลเล็ตมันชัดเจนไปแล้วเมื่อวันที่ 10 เม.ย.ที่ผ่านมา

เมื่อถามว่า จะส่งไม้ต่อให้รมว.คลัง คนต่อไปได้แล้วใช่หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ยังไม่มีอะไรที่จะส่งไม้ต่อกับใครทั้งสิ้น

เมื่อถามว่า มีกระแสข่าวว่าพรรคเพื่อไทยจะดึงเก้าอี้ประธานสภาจากนายวันมูหะหมัดนอร์ มะทา จากพรรคประชาชาติ นายเศรษฐา กล่าวว่า ไม่ทราบเหมือนกัน ไม่ทราบเรื่องจริงๆ ต้องไปถามหัวหน้าพรรค  เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทยจะยกเครื่องการทำงานในสภา จึงต้องมีการปรับ ครม. นายเศรษฐา กล่าวว่า เรื่องการทำงานกับสภาเป็นเรื่องที่เราให้ความสำคัญมาโดยตลอด แต่การจะยกเครื่องอย่างไร หรือจะปรับอย่างไรในบริบทปัจจุบันนี้ตนเชื่อว่าทุกๆคนให้ความสำคัญกับระบบรัฐสภาอยู่แล้ว อะไรที่จะสามารถทำให้ขับเคลื่อนการออกกฎหมาย ระบบตรวจสอบได้ เชื่อว่าพรรคเพื่อไทยให้ความสำคัญในเรื่องนี้

เมื่อถามว่า ในความคิดของนายกฯบุคคลที่จะไปทำหน้าที่หลักในการประสานงานฝ่ายนิติบัญญัติกับฝ่ายบริหารต้องมีคุณสมบัติอย่างไร นายกฯ กล่าวว่า ตนคงไม่ไปก้าวล่วงและไม่ไปพูดอะไร เพราะเดี๋ยวจะกระทบกระเทือนกับคนที่อยู่ปัจจุบัน อย่าดีกว่า อันนี้ไม่ใช่เรื่องของตน

หน้าแรก » การเมือง