เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2567  จากกรณีกระแสข่าวการปรับเก้าอี้คณะรัฐมนตรีที่มีออกมา ไม่ว่าจะเปลี่ยนใหม่ ปรับออก หรือเปลี่ยนขั้ว ตามที่เป็นข่าวนั้น  นายชัชวาลล์ คงอุดม หรือ ชัช เตาปูน ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นถึงการปรับเปลี่ยนตำแหน่ง ครม. ถ้าหากมีการปรับเปลี่ยนจริง ก็อยากจะเสนอแนะถึงผู้ที่เกี่ยวข้องว่าควรจะพิจารณาให้ถี่ถ้วน ถึงความเหมาะสมและความตั้งใจในการทำงานที่เต็มที่ให้กับพี่น้องประชาชน ให้กับประเทศไทยเป็นที่ตั้งโดยได้กล่าวว่าในการทำงานของรัฐมนตรีประจำกระทรวงต่างๆนั้น ตนมองว่าแต่ละท่านได้พยายามทำหน้าที่เพื่อประเทศ โดยเฉพาะที่เห็นได้ชัดจากความใกล้ชิด นั่นคือ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน 

ลงานที่ผ่านมาของนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค มีมากมายเป็นรัฐมนตรีคนหนึ่งที่ฝ่ายค้านไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะผลงานที่ท่านได้ทำเป็นที่ประจักษ์ การแก้ปัญหาค่าไฟ  นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน ได้มีการเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ตรึงค่าไฟงวดแรกปี 2567 (มกราคม-เมษายน) โดยจะตรึงค่าไฟฟ้า ไว้ที่ 3.99 บาทต่อหน่วย ช่วยเฉพาะกลุ่มเปราะบางจำนวน 17.7 ล้านราย ที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วยต่อเดือน คิดเป็น 75% ของผู้ใช้ไฟทั้งประเทศ ใช้งบกลางปี 2567 กว่า 2,000 ล้านบาท เพื่อบรรเทาผลกระทบจากค่าไฟฟ้าที่สูงขึ้น 

สำหรับการดูแลผู้ใช้ไฟฟ้าที่เหลือ หรือผู้ใช้ไฟฟ้าเกิน 300 หน่วยต่อเดือนขึ้นไป กระทรวงเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.)  เพื่อหารือถึงแนวทางการดูแลค่าไฟให้กลุ่มคนดังกล่าว ไม่ใช่ 4.68 บาทต่อหน่วยแน่นอน จะพิจารณาแนวทางสนับสนุนที่เหมาะสมเบื้องต้นอาจจะยืดหนี้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)และให้ บริษัท ปตท. ลดราคาค่าก๊าซธรรมชาติลงแต่ยืนยันค่าไฟฟ้าจะไม่ถึง 4.68 บาทต่อหน่วยแน่นอน 

ทั้งนี้ที่ผ่านมาก็ได้มีการประชุมสั่งการ โดยในเบื้องต้น ค่าไฟฟ้าที่ลดได้จะเกิดจาก 3 ส่วนหลักๆ ได้แก่  1. การขยายหนี้กฟผ. ออกไปอีก 1 งวด  2. การปรับโครงสร้างราคาก๊าซธรรมชาติ   3.การกำหนดราคาขายก๊าซธรรมชาติของ ปตท. ซึ่งแม้ว่าการดำเนินการทั้ง 3 มาตรการ จะทำให้ค่าไฟฟ้าลดลงจากที่ทาง กกพ.เสนอ แต่ทุกฝ่ายก็ยังจะพยายามทางช่องทางให้สามารถลดค่าไฟให้ได้มากขึ้น ตอนนี้อยู่ระหว่างการหาวิธีแก้ไข เพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนให้ยั่งยืนกว่าเดิมในระยะยาวโดยได้มอบนโยบาย กฟผ. ไว้ว่า “เราต้องแบกค่าไฟ” ประโยชน์ประเทศ-ประชาชนต้องมาก่อน

 นอกจากผลงานในรัฐบาลชุดนี้ที่ได้เห็นแล้วยังมีผลงานที่ทำเพื่อประเทศไทยอันยิ่งใหญ่ที่คนไทยยังไม่ทราบอีกมาก เป็นผู้ปิดทองหลังพระ ชนะคดีค่าโง่โฮปเวลล์  ที่คาราคาซังมายาวนานกว่าสามสิบปี ซี่งทำให้ไทยชนะคดีโฮปเวลล์ ทำให้ประเทศไม่ต้องเสียค่าโง่เป็นจำนวนเงินกว่า 56,000 ล้านบาท 

ส่วนตนเองนั้นจะทำหน้าที่ในฐานะ ส.ส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติและคนไทยที่พร้อมทำเพื่อประเทศให้ดีที่สุด และจะสนับสนุนการทำงานของรัฐมนตรีให้ประสบความสำเร็จเพื่อประเทศไทยอย่างเต็มที่ที่สุดเช่นกัน