เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2567    ที่ว่าการแขวงบ่อแก้ว สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ดร.ณพลเดช มณีลังกา ว่าที่ สว. จังหวัดเชียงราย และ อดีตเลขานุการกฎหมายการยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า ตนได้รับการร้องเรียนจากพี่น้องประชาชนลาว ว่ามีการขนน้ำมันเถื่อนโดยผ่านแผ่นดินไทย ลงสู่แม่น้ำโขง ในยามค่ำคืน โดยมีการทำเป็นกระบวนการ โดยอาศัยช่องกฎหมายพิธีการทางศุลกากรบริเวณสามเหลี่ยมทองคำ เนื่องจากการส่งออกน้ำมันไปยังประเทศที่สาม ไม่ต้องเสียภาษีที่ฝั่งไทย เมื่อน้ำมันลงสู่แม่น้ำโขงแล้ว จะมีการลักลอบน้ำมันเข้าสู่ประเทศลาวและประเทศเมียนมา โดยทางเรือโดยอาจมีเจ้าหน้าที่ไทยอ้างว่าการส่งออกถูกต้องที่ไทยไม่เกี่ยวอะไรแล้ว 

ดร.ณพลเดช กล่าวด้วยว่า แต่ตนเห็นว่าการกระทำนี้ ผิดตามหลักหลักความสัมพันธ์ระหว่างการกระทำและผล (CAUSATION) เป็นหลักที่นำมาใช้พิจารณาว่า บุคคลใด จะต้องรับผิดในทางอาญาหรือไม่ โดยพิจารณาจากการกระทำและผลนั้นมีความสัมพันธ์กันหรือไม่ หากการกระทำและผลมีความสัมพันธ์กันในลักษณะที่เป็นผลโดยตรงแล้ว ผู้กระทำย่อมต้องรับผิด ในผลบั้นปลายที่เกิดขึ้นตามทฤษฎีเงื่อนไขการกระทำและผล การลักลอบการขนน้ำมันเถื่อนมีการกระทำต้นทางที่ประเทศไทย อันอาจเป็นการผิดกฎหมายระหว่างประเทศ ที่เป็นประเทศระหว่างต้น-กลาง สร้างความเสียหายให้กับประเทศลาวและเศรษฐกิจโดยภาพรวมของประเทศไทย โดยเฉพาะต้นทุนการผลิตมีน้ำมันเป็นต้น ไปลงทุนในประเทศที่สาม ตนจะเสนอให้ “กรมเจ้าท่า กรมศุลกากร กรมสรรพสามิต และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ” เข้ามาพิจารณาเรื่องน้ำมันเถื่อนนี้ด้วย