การเมือง
"นายกฯแพทองธาร" กล่าวถ้อยแถลง งานเลี้ยงอาหารค่ำผู้นำ APEC
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่

นายกฯ กล่าวถ้อยแถลง ในงานเลี้ยงอาหารค่ำ APEC CEOs-Leaders Dinner ประเทศสมาชิก ระบุไทยพร้อมเสริมสร้างความร่วมมืออย่างรอบด้านระหว่างภูมิภาค ผสมผสานมรดกวัฒนธรรม ก้าวสู่ความรุ่งโรจน์ในอนาคตร่วมกัน
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 14 พฤศจิกายน 2567 เวลา 19.30 น. (ตามเวลาท้องถิ่นกรุงลิมา ซึ่งช้ากว่ากรุงเทพฯ 12 ชม.) ณ พิพิธภัณฑ์ Amano กรุงลิมา สาธารณรัฐเปรู นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เข้าร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำ APEC CEOs-Leaders Dinner ร่วมกับผู้นำภาคธุรกิจของเอเปค อย่าง UNACEM Group (ยูเอ็นเอซีอีเอ็ม กรุ๊ป) บริษัทด้านโครงสร้างพื้นฐานและพลังงานของเปรู และซีอีโอภาคเอกชนอื่น ๆ ที่สำคัญของเปรู
โดยช่วงก่อนการรับประทานอาหาร นายกรัฐมนตรีได้เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ผ้าที่เป็นเอกลักษณ์ของเปรู ซึ่งมีร้านขายผ้าลายต่าง ๆ โดยผ้าในร้านล้วนมีการสร้างมูลค่าเพิ่ม ทำจากขนเบบี้อัลปากา ผสมเส้นใยไหมตัววิคูน่า (Vicuña) เคยใช้เป็นผ้าที่มอบให้ผู้นำในการประชุมเอเปคเมื่อปี 2016 และจะมอบให้ผู้นำในปีนี้ด้วย
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวถ้อยแถลงถึงแนวทางการสร้างความร่วมมือระหว่างภูมิภาค โดยนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญของถ้อยแถลง ดังนี้
นายกรัฐมนตรีกล่าวทักทายสมาชิกและแขกผู้มีเกียรติทุกท่าน และขอบคุณ นายเปโดร แลร์-แนร์ ผู้บริหาร UNACEM Group ที่เป็นเจ้าภาพในการจัดเลี้ยงอาหารค่ำในวันนี้ ประทับใจกับความคิดริเริ่มด้านการอนุรักษ์ที่นำโดย UNACEM ซึ่งจะช่วยชะลอการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ ถือเป็นก้าวสำคัญสู่ความยั่งยืน ความคิดริเริ่มนี้เป็นตัวอย่างที่ดีให้เห็นว่าภาคเอกชนสามารถเข้ามามีส่วนส่งเสริมความยั่งยืนได้
ก่อนหน้านี้ ในระหว่างการเดินทาง นายกรัฐมนตรีได้ไปชมงานศิลปะสิ่งทอที่มีความประณีต แสดงถึงวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์อันยาวนานของเปรู ซึ่งมีความใกล้เคียงกับรูปแบบงานศิลปะสิ่งทอของภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย ที่ถึงแม้ว่าทั้งสองประเทศจะอยู่ห่างกันหลายพันไมล์ นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีรู้สึกยินดีที่ได้ทราบว่ามวยไทย ได้รับความนิยมอย่างมากในเปรูด้วย
แฟชั่นและมวยไทยถือเป็นส่วนสำคัญของวัฒนธรรมและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของประเทศไทย ที่เรียกว่า Soft Power โดยกระทรวงวัฒนธรรมได้มีการส่งเสริม Soft Power ของประเทศไทยภายใต้นโยบาย 5Fs ได้แก่ อาหาร ภาพยนตร์ แฟชั่น เทศกาล และการต่อสู้ หรือมวยไทย โดยนายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นว่า ทุกฝ่ายจะสามารถสร้างความร่วมมือด้านเศรษฐกิจสร้างสรรค์ เพื่อสร้างสรรค์ความงามของมรดกทางวัฒนธรรม จากการใช้ประโยชน์จากผ้าและลวดลายจากท้องถิ่น ไปจนถึงการเสริมสร้างความร่วมมือด้านกีฬา
นอกเหนือจาก Soft Power ประเทศไทยมีพร้อมที่จะสร้างความร่วมมือในด้านต่าง ๆ อีกมากมาย ตั้งแต่ความมั่นคงทางอาหารไปจนถึงความเชื่อมโยง จากพลังงานสะอาดถึงความร่วมมือด้าน วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี อุตสาหกรรมยั่งยืนและการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล เพื่อสร้างความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจและสังคมที่ครอบคลุมและยั่งยืน สานต่อผลประโยชน์ร่วมกันสำหรับประชาชน และคนรุ่นใหม่ ตลอดจนภูมิภาคของเราโดยรวม
นายกรัฐมนตรียังเน้นย้ำว่า ประเทศไทยได้เปิดกว้างสำหรับธุรกิจ และพร้อมที่จะเป็นศูนย์กลางระดับภูมิภาค เพื่อให้เกิดการเชื่อมโยง โดยรัฐบาลมุ่งมั่นอำนวยความสะดวกในการดำเนินธุรกิจในประเทศ พร้อมทั้งส่งเสริมให้ผู้ประกอบการไทยเข้าถึงโอกาสในการลงทุนต่างประเทศ โดยระหว่างงานเลี้ยงอาหารค่ำ นายกรัฐมนตรีมีโอกาสได้พูดคุยแลกเปลี่ยน พร้อมและยินดีที่จะให้ข้อมูลเพิ่มเติมแก่ทุกคน
ในช่วงท้าย นายกรัฐมนตรีกล่าวขอบคุณผู้บริหาร UNACEM Group สำหรับการต้อนรับที่อบอุ่น โดยนายกรัฐมนตรีได้เพลิดเพลินกับการลิ้มรสอาหารค่ำแบบเปรูในวันนี้ และยินดีที่ทราบว่าพ่อครัวฝีมือดีวันนี้เคยทำงานที่กรุงเทพฯ พร้อมหวังว่าจะได้ต้อนรับที่ประเทศไทย ไม่ว่าจะเพื่อธุรกิจหรือการพักผ่อน
แนวทางส่งเสริม Soft Power ของไทยภายใต้นโยบาย 5Fs
หลักการและอุดมการณ์
การส่งเสริม Soft Power ของประเทศไทยภายใต้นโยบาย 5Fs คือการใช้ศักยภาพทางวัฒนธรรมและเอกลักษณ์ที่โดดเด่นของประเทศเพื่อสร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจ สังคม และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ นโยบาย 5Fs ได้แก่ อาหาร (Food), ภาพยนตร์ (Film), แฟชั่น (Fashion), เทศกาล (Festival) และการต่อสู้ (Fighting หรือ มวยไทย) ถือเป็นแกนกลางของเศรษฐกิจสร้างสรรค์ที่มีเป้าหมายในการส่งเสริมวัฒนธรรมไทยสู่ระดับโลก โดยให้ความสำคัญกับการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีและความร่วมมืออย่างสร้างสรรค์ในทุกภาคส่วน ตามถ้อยแถลงของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เข้าร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำ APEC CEOs-Leaders Dinner ร่วมกับผู้นำภาคธุรกิจของเอเปค อย่าง UNACEM Group (ยูเอ็นเอซีอีเอ็ม กรุ๊ป) บริษัทด้านโครงสร้างพื้นฐานและพลังงานของเปรู และซีอีโอภาคเอกชนอื่น ๆ ที่สำคัญของเปรู ณ พิพิธภัณฑ์ Amano กรุงลิมา สาธารณรัฐเปรู
วิธีการ
การดำเนินการตามนโยบาย 5Fs มีวิธีการที่หลากหลาย เช่น การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่รองรับอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ การส่งเสริมและสนับสนุนผู้ประกอบการด้านเศรษฐกิจสร้างสรรค์ การผลักดันให้ Soft Power ของไทยเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมระดับสากล เช่น การจัดแสดงงานศิลปะ การเข้าร่วมงานเทศกาลนานาชาติ และการใช้สื่อดิจิทัลในการเผยแพร่ นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาแผนงานที่ชัดเจนเพื่อเพิ่มขีดความสามารถของผู้ประกอบการและสร้างตลาดสำหรับสินค้าและบริการทางวัฒนธรรมทั้งในประเทศและต่างประเทศ
วิสัยทัศน์
นโยบาย 5Fs มุ่งเน้นการพัฒนา Soft Power ของประเทศไทยให้สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มในทุกมิติของเศรษฐกิจและสังคม ด้วยการผสมผสานมรดกทางวัฒนธรรมกับความคิดสร้างสรรค์ของคนไทยและการสร้างความร่วมมือกับประชาคมโลก เพื่อขับเคลื่อนประเทศไทยให้ก้าวสู่ความยั่งยืนและความมั่นคงในเวทีสากล
แผนงานและโครงการ
ตัวอย่างแผนงานและโครงการภายใต้นโยบาย 5Fs เช่น การจัดงานเทศกาลอาหารไทยในต่างประเทศเพื่อส่งเสริมการส่งออกสินค้าอาหารไทย การผลิตภาพยนตร์ที่สะท้อนวัฒนธรรมไทยและเข้าร่วมประกวดในงานเทศกาลระดับโลก การจัดแสดงแฟชั่นไทยในตลาดแฟชั่นนานาชาติ การสร้างความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านในการจัดเทศกาลวัฒนธรรม และการส่งเสริมมวยไทยให้เป็นกีฬาสากลและเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในหมู่ประชาชนทั่วโลก นอกจากนี้ยังมีการร่วมมือกับภาคเอกชนและองค์กรต่างชาติในการพัฒนาและขยายการเข้าถึงผลิตภัณฑ์วัฒนธรรมและกิจกรรมส่งเสริม Soft Power
อิทธิพลต่อสังคมไทย
การส่งเสริม Soft Power ของประเทศไทยผ่านนโยบาย 5Fs มีผลกระทบในหลายมิติ อาทิ การสร้างงานและรายได้ให้แก่ชุมชนท้องถิ่น การยกระดับภาพลักษณ์ของประเทศในสายตาชาวต่างชาติ การส่งเสริมความภูมิใจในมรดกทางวัฒนธรรม และการสร้างความร่วมมือที่แข็งแกร่งกับประเทศเพื่อนบ้านและชุมชนระหว่างประเทศ อีกทั้งยังช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศในเวทีโลก
ข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย
การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางวัฒนธรรม ควรเน้นการจัดตั้งศูนย์พัฒนานวัตกรรมทางวัฒนธรรมในทุกภูมิภาค เพื่อสนับสนุนการพัฒนาศักยภาพของผู้ประกอบการและชุมชน
การส่งเสริมการวิจัยและพัฒนา เพื่อพัฒนาสินค้าและบริการ Soft Power ให้มีคุณภาพและตอบโจทย์ความต้องการของตลาดโลก
ความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน ในการส่งเสริมการส่งออกสินค้าและบริการ Soft Power เพื่อสร้างโอกาสในการลงทุนและความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศ
การศึกษาและพัฒนาองค์ความรู้ด้านวัฒนธรรม ผ่านการจัดหลักสูตรและโครงการฝึกอบรมที่เน้นทักษะด้าน Soft Power สำหรับผู้ประกอบการและเยาวชน
การสื่อสารและการประชาสัมพันธ์ ใช้ช่องทางสื่อสารทั้งในและต่างประเทศเพื่อสร้างการรับรู้และกระตุ้นความสนใจต่อ Soft Power ของไทย
การส่งเสริม Soft Power ของประเทศไทยภายใต้นโยบาย 5Fs (อาหาร ภาพยนตร์ แฟชั่น เทศกาล และมวยไทย) มุ่งเน้นการใช้มรดกทางวัฒนธรรมและศักยภาพของประเทศเพื่อสร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจและส่งเสริมภาพลักษณ์ของไทยในเวทีโลก ผ่านการพัฒนาแผนงาน โครงการ และความร่วมมือในระดับนานาชาติ ซึ่งมีผลกระทบเชิงบวกต่อสังคม เช่น การสร้างงาน ยกระดับเศรษฐกิจ และส่งเสริมความภาคภูมิใจในวัฒนธรรมท้องถิ่น ข้อเสนอแนะเชิงนโยบายเน้นการพัฒนาศักยภาพด้าน Soft Power ในทุกมิติ ทั้งโครงสร้างพื้นฐาน ความร่วมมือ และการสื่อสารเพื่อเพิ่มโอกาสและความมั่นคงในระดับโลก.
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่
หน้าแรก » การเมือง
Top 5 ข่าวการเมือง ![]()
- "กสทช." สั่งเอกชนรายงานผลกระทบหลังกัมพูชาตัดสัญญาณเชื่อมต่อเน็ต 14 มิ.ย. 2568
- ส.อ.ท.ชี้กัมพูชาเรียกแรงงานกลับ ส.อ.ท.ชี้กระทบศก.-สังคม ร้องสองฝ่ายเร่งคลี่คลายปมชายแดน 14 มิ.ย. 2568
- แม่ทัพภาคที่ 2 เยี่ยมทหารชายแดนสุรินทร์ปราสาทตาเมือนธม สร้างขวัญและกำลังใจ 14 มิ.ย. 2568
- “มหิดลโพล” เผย 5 กระทรวงแรก ที่ประชาชนอยากให้ปรับครม. มากที่สุด 14 มิ.ย. 2568
- ไทย-กัมพูชา ถก JBC ยังไม่จบยังมีต่อวันพรุ่งนี้ กต.ยันบรรยากาศเป็นไปด้วยดี 14 มิ.ย. 2568
ข่าวในหมวดการเมือง ![]()
นายกฯขอบคุณทีมเจรจา JBC มั่นใจจะหาทางออกที่ดีที่สุด เพื่อผลประโยชน์ของประเทศ 19:58 น.
- ทบ.ชี้เป็นภัยความมั่นคง กัมพูชาวางกำลังเข้ม หันปืนใหญ่เล็งถึงไทย – สั่งเสริมกำลังรับมือชายแดนศรีสะเกษ 18:52 น.
- "ณพลเดช" เผย นทท.จีน บินการบินไทยเต็มลำ แนะ 5 จุดแข็งเสริมการท่องเที่ยวไทยในเวทีโลก 17:35 น.
- "เต้ มงคลกิตติ์" นำทีมปชป.ร่วมกิจกรรม "Phitsanulok Art Festival" พร้อมร่วมพิธีบรรจุอัฐิ 100 วัน "คุณยายรัตน์" 16:55 น.
- "กสทช." สั่งเอกชนรายงานผลกระทบหลังกัมพูชาตัดสัญญาณเชื่อมต่อเน็ต 16:45 น.