เมื่อวันที่ ๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ เวลา ๑๑.๐๐ น. นางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานผู้แทนฝ่ายไทยเป็นประธานการประชุมหารือเพื่อซักซ้อมพิธีอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) จากท่าอากาศยานทหาร ๒ กองบิน ๖ ไปยังท้องสนามหลวง ในการดำเนินโครงการอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) จากสาธารณรัฐประชาชนจีนมาประดิษฐานในประเทศไทยเป็นการชั่วคราว โดยมีนายเหอ เหยี่ยนหลิง รองอธิบดีสำนักกิจการทั่วไป สำนักงานกิจการศาสนาแห่งชาติจีน ในฐานะประธานผู้แทนฝ่ายจีนร่วมเป็นประธานการประชุมและมีพระอาจารย์ซื่อ ฉางจ้าง รองประธานพุทธสมาคมจีนและเจ้าอาวาสวัดหลิงกวง กรุงปักกิ่ง คณะผู้แทนฝ่ายจีน นายชัยพล สุขเอี่ยม อธิบดีกรมการศาสนา นางสุภัทร กิจเวช ผู้ช่วยปลัดกระทรวงวัฒนธรรม ผู้บริหารและผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วม ณ โรงแรมรอยัลออร์คิด เชอราตัน เขตบางรัก กรุงเทพฯ

 
ทั้งนี้ การอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) จากสาธารณรัฐประชาชนจีนมาประดิษฐานในราชอาณาจักรไทยเป็นการชั่วคราว เป็นการดำเนินการเนื่องในโอกาสการครบรอบ ๕๐ ปี แห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย – จีน ในปี ๒๕๖๘ รัฐบาลจีนให้รัฐบาลไทยอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) จากวัดหลิงกวง กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน มาประดิษฐานในราชอาณาจักรไทยเป็นการชั่วคราว ณ ท้องสนามหลวง เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๗ โดยเปิดให้ประชาชนเข้าสักการะ ระหว่างวันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๖๗ ถึงวันที่ ๑๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๘ และจะอัญเชิญพระบรม สารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) กลับสู่สาธารณรัฐประชาชนจีนในวันที่ ๑๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗

ทั้งนี้เมื่อวันที่ ๒๖ พฤศจิกายน  ๒๕๖๗ นางยุพา  พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงการต่างประเทศ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกรุงเทพมหานคร นำคณะทำงานฝ่ายจีน นำโดยนายเหอ เหยี่ยนหลิง รองอธิบดี สำนักงานทั่วไป สำนักงานกิจการศาสนาแห่งชาติจีน (NRAA) และพระอาจารย์ฉางจ้าง รองประธานพุทธสมาคมจีน เจ้าอาวาสวัดหลิงกวง พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจากสาธารณรัฐประชาชนจีน ได้แก่ กระทรวงการต่างประเทศจีน กระทรวงความมั่นคงสาธารณะจีน สำนักงานศุลกากรกรุงปักกิ่ง สำนักงานมรดกทางวัฒนธรรมแห่งชาติจีน และพุทธสมาคมจีน

เดินทางไปยังท้องสนามหลวง เพื่อเตรียมการอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) จากสาธารณรัฐประชาชนจีน มาประดิษฐานในประเทศไทยเป็นการชั่วคราว เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 และฉลองการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต 50 ปี ไทย - จีน ในปีพุทธศักราช 2568

โดยคณะทำงานฝ่ายไทยและจีน ร่วมสำรวจพื้นที่ ติดตามความคืบหน้าการก่อสร้างมณฑปเพื่อประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) การเตรียมพื้นที่บริเวณท้องสนามหลวง การดูแลอำนวยความสะดวกให้กับคณะพระสงฆ์และเจ้าหน้าที่ฝ่ายจีน และการรักษาความปลอดภัย

ในการนี้ ทั้งสองฝ่ายได้ซักซ้อมแนวทางปฏิบัติด้านพิธีการ และซ้อมขั้นตอนการอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) ขึ้นสู่มณฑป ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง ซึ่งกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 4 ธันวาคม 2567 ในวันดังกล่าวจะมีการจัดริ้วขบวนอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) อย่างยิ่งใหญ่ สวยงาม สมพระเกียรติ จำนวน 24 ขบวน มีผู้ร่วมเดินในริ้วขบวน จำนวน 2,700 คน ซึ่งจะเริ่มเคลื่อนขบวนจากลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์ ในเวลา 17.00 น. เพื่อไปยังมณฑลพิธีท้องสนามหลวง โดยประชาชนสามารถรับชมด้วยตนเองตลอดเส้นทางริ้วขบวน หรือรับชมผ่านการถ่ายทอดสด ผ่านสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (NBT2hd)

สำหรับคณะทำงานฝ่ายจีน เดินทางมากรุงเทพฯ ประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 25 – 27 พฤศจิกายน 2567 โดยครั้งนี้ ถือเป็นครั้งที่ 3 สำหรับการประชุมหารือระหว่างคณะทำงานฝ่ายไทยและจีน โดยการประชุมหารือครั้งที่ 1 จัดขึ้นเมื่อวันที่ 10 - 12 ตุลาคม 2567 ณ กรุงเทพฯ ส่วนการประชุมหารือ ครั้งที่ 2 จัดขึ้นเมื่อวันที่ 14 - 16 พฤศจิกายน 2567 ณ กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน มีนายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการประสานงานการดำเนินโครงการอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทย

จึงขอเชิญชวนศาสนิกชนชาวไทยและต่างชาติ ร่วมสักการะพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) ได้ตั้งแต่วันที่ 5 ธันวาคม 2567 - วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2568 ระหว่างเวลา 07.00 น. - 20.00 น. ทั้งนี้ ได้จัดเจ้าหน้ามอบดอกไม้ให้กับประชาชนที่มาสักการะพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) ครั้งนี้ด้วย