เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2567   ผศ.ดร. เจนจิรา รัตนเพียร โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงข้อเรียกร้องของภาคประชาชนเกี่ยวกับอันตรายจากบุหรี่ไฟฟ้า และจัดกิจกรรมคนไทยไม่เอาบุหรี่ไฟฟ้าว่า พรรคประชาธิปัตย์ ไม่สนับสนุนการสูบบุหรี่ในทุกรูปแบบ เนื่องจากมองว่าเป็น อันตราย ต่อสุขภาพของประชาชน ซึ่งน่าเป็นห่วงว่าพัฒนาการของยาสูบที่มุ่งดึงดูดผู้สูบใหม่ผ่านการแต่งกลิ่นและเปลี่ยนรูปแบบ เช่น บุหรี่ไฟฟ้าที่ใช้น้ำยาในเครื่องสูบ ซึ่งเพิ่มความนิยมในกลุ่มเยาวชนและผู้เริ่มต้นสูบ

ผศ.ดร.เจนจิรา กล่าวว่า บุหรี่ ไม่ว่าประเภทใดล้วนเกิดอันตรายต่อสุขภาพ กับผู้สูบ ทุกวัย ซึ่งรัฐ มีส่วนในการเข้ามาดูแลรับภาระรักษาพยาบาล  ซึ่งในแต่ละปี รัฐใช้เงินในการรักษาผู้ป่วย ที่ป่วยจากการสูบบุหรี่ เช่นโรคมะเร็งปอด โรคปอดเรื้อรัง และโรคอื่นๆ เพิ่มเป็นจำนวนมาก ซึ่งทำให้สูญเสียงบประมาณ โดยไม่จำเป็น แม้ว่าจะมีการเก็บภาษี ยาสูบ แล้วนำเงินไป เป็นค่ารักษาพยาบาลส่วนหนึ่งก็ตาม แต่ก็ยังไม่คุ้ม กับสุขภาพของประชาชนที่สูญเสียไป

“ไม่ว่าบุหรี่จะเป็นแบบมวนกระดาษหรือแบบไฟฟ้า ล้วนส่งผลกระทบต่อสุขภาพทางเดินหายใจและปอด ทำให้ประชาชนต้องเผชิญกับค่าใช้จ่ายด้านการรักษาพยาบาลที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ บุหรี่ยังสร้างอันตรายต่อคนรอบข้าง ซึ่งถือเป็นปัญหาที่ต้องได้รับการแก้ไขอย่างจริงจัง” ผศ.ดร.เจนจิรา กล่าว

โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์มีจุดยืน แนวทางการจัดการบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้าใน 2 แนวทางหลัก ดังนี้

 1)การทำให้ถูกต้องตามกฎหมาย หากรัฐบาลต้องการเก็บภาษีจากยาสูบเพื่อนำมาใช้ในการให้ความรู้และดูแลสุขภาพประชาชน ควรทำให้การสูบบุหรี่ในทุกรูปแบบถูกต้องตามกฎหมาย โดยให้องค์การอาหารและยา (อย.) และกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ตรวจสอบอันตรายและขึ้นทะเบียนบุหรี่แต่ละประเภทอย่างชัดเจน 
 2)การงดสูบบุหรี่ในทุกประเภท 

หากรัฐบาลเห็นว่าบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้าเป็นอันตราย ควรมีมาตรการยุติการใช้บุหรี่ทั้งสองประเภทพร้อมกัน เพื่อป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนในระยะยาว

 “พรรคประชาธิปัตย์เห็นด้วยกับข้อเรียกร้องของประชาชนที่กังวลถึงผลกระทบของบุหรี่ไฟฟ้าต่อเยาวชน เพราะเรามีจุดยืนที่จะสนับสนุนสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชน โดยพร้อมจะผลักดันมาตรการแก้ไขปัญหานี้อย่างรอบด้าน" ผศ.ดร. เจนจิรา กล่าวทิ้งท้าย